๑,๑๐๑ แค่ไม่ทุกข์ก็สุขแล้ว...
จงตระหนักว่า..เราสามารถมองเห็นโลกได้ทั้งสองด้าน รู้เท่าทันด้านร้าย แต่จดจ่ออยู่ที่ด้านดี เพื่อบดบังไม่ให้มามีอิทธิพลเหนือจิตใจเรา..
ชีวิตเราจึงจะดำรงอยู่ได้บนความสำเร็จ..ที่เป็นสุขเสมอ..
โลกนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก.....โลกภายนอกทุกวันนี้ยุ่งยากและวุ่นวายมาก..... คนกรุงเทพ..กลัวไวรัสโคโรน่า...ที่นับวันจะขยายเพิ่มขึ้น จากมีผู้ติดเชื้อนับร้อย และเริ่มเสียชีวิตลงเรื่อยๆ
จากวันที่ 2 มกราคม.....สถานการณ์รุนแรง ต่อเนื่อง (ข่าวว่าปิดข้อมูล)......จากวันนั้นถึงวันนี้....ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นลุกลามรวดเร็ว จากหลักร้อย หลักพันและหลักหมื่น.....เสียชีวิตเกินครึ่งพัน
สอดคล้องกับตัวเลขในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น จากเลขหลักเดียวเป็นเลข 2 หลัก...สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น....เครื่องป้องกันหน้ากากอนามัย ขาดตลาดหาซื้อไม่ได้จนเป็นเหตุวิกฤติ....ผู้คนหวาดกลัวเพราะเข้าใกล้ตัวเข้ามาทุกที....จึงอยู่กันแบบหวาดระแวง.
ฝุ่น PM2.5....ก็ยังไม่คลาย....เหมือนปัญหาถาโถม เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ.....รวมๆแล้วคือ.....หนักหนามาก....วันๆไม่ต้องคิดอะไรมาก.....อยู่รอดกับสภาวะสิ่งแวดล้อมแบบนี้ได้ไปวันๆโดยไม่เจ็บป่วยไข้ ไม่ล้มหมอนนอนเสื่อ ก็ดีมากมายนักหนาแล้ว.....
อะไรที่มันทุกข์ไกลตัว.. ก็อย่าเก็บมาเป็นทุกข์นัก...มองหาความสุข มองหาสิ่งดีๆ ให้ชีวิตบันเทิงเพลิดเพลินบ้างก็ได้....
สถานการณ์ของโลกหาความแน่นอนไม่ได้แล้ว..
การผ่อนคลายอย่างปล่อยวาง ไม่ตั้งกฎกติกาให้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้และเดี๋ยวนี้..จนกลายเป็นยึดติดมากนัก....
ทุกสิ่งย่อมเดินผ่านไปตามกระแสแห่งเวลา เหนือสิ่งอื่นใด..คือการดำรงตนให้มีอารมณ์ที่แจ่มใสอยู่เป็นนิจ..ทำชีวิตให้ช้าลงแม้กายจะอ้อนล้า..แต่ใจยังสุข
ชีวิตย่อมเก็บเกี่ยวความงดงามได้เสมอ....
แต่ตอนนี้...เวลานี้..อย่าลืมว่า...ขอแค่ไม่ทุกข์ ก็สุขแล้ว
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓
ความเห็น (1)
ตามข่าวแล้วก็เหนื่อยเหมือนกันค่ะ Let’s it go….