เที่ยวหลวงพระบางกับสุภัชชา.แกมนาคตอน.วัดวิชุนราช หรือ วัดหมากโม : วัดพระธาตุหมากโม
วัดวิชุนราช ซึ่งตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวงพระบาง ถนนวิชุนราช มีเอกลักษณ์ที่ต่างจากวัดอื่น วัดนี้มีพระธาตุทรงกลมคว่ำซึ่งชาวหลวงพระบางเรียกว่าพระธาตุหมากโม หรือพระธาตุแตงโม ที่สร้างขึ้นโดยพระมเหสีของพระเจ้าวิชุนราช เปรียบได้กับพลังของสตรีชาวลาววัดวิชุนราชยังมีพระประธานองค์ใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง และสถาปัตยกรรมการก่อสร้างแบบสิบสองปันนาทำให้ วัดนี้มีรายละเอียดต่างจากวัดอื่น
ในความแปลกที่พระธาตุเจดีย์ รูปโค้งมนเหมือนผลแตงโม และ เจดีย์รูปทรงแปลกตานี้เอง ที่กระทรวงแถลงข่าว และวัฒนธรรมของลาวยกให้มีความสำคัญ ความโดด เด่น ของวัดวิชุนราช แม้เพียงนั่งรถผ่านไปถนนวิชุนราชก็จะแลเห็นเจดีย์รูปแตงโมผ่าครึ่งนี้สะดุดตา และภายในพระอุโบสถของวัดวิชุนราช ด้านหลังของพระประธานมีโบราณวัตถุที่เก็บรวบรวมมาจากวัดร้างต่างๆ ในหลวงพระบาง เช่น พระพุทธรูปสำริด ไม้จำหลัดลวดลายต่างๆ พระพุทธรูปไม้แกะสลักลงรัก
วัดวิชุนหรือวัดวิซุน เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2058 ในรัชสมัยพระเจ้าวิชุลราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง พอมาถึงปี พ.ศ. 2343 พวกโจรธงดำภายใต้การบังคับบัญชาของพวกฮ่อ ได้เข้ามาโจมตี จนวัดถูกทำลายไปส่วนหนึ่ง จนมาถึง พ.ศ. 2441 จึงมีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ ได้อัญเชิญพระบางมาประดิษฐานในวัดแห่งนี้เอกลักษณ์ของวัดนี้เห็นได้จากประตูไม้ที่มีการแกะสลักอย่างสวยงาม และมีสถาปัตยกรรมแบบขอมที่ได้แบบมาจาปราสาทวัดภู แขวงจำปาศักดิ์ ในเขตลาวภาคใต้ด้านในวัดมีพระพุทธรูปเก่าแก่ และศิลาจารึกรูปแบบต่างๆ มเหสีของพระเจ้าวิชุลราชได้ชักนำให้มีการสร้างพระธาตุขึ้นซึ่งต่างจากพระธาตุอื่นๆ เพราะเป็นรูปทรงกลมตัดครึ่ง มองเหมือนแตงโมจึงเรียกว่าพระธาตุหมากโม (ธาตุปะทุม) ต่อมา พ.ศ. 2485วัดนี้จึงได้เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บรักษาพระพุทธรูปและวัตถุโบราณจำนวนมาก
• วัดวิชุนราชนี้สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐาน พระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ ภายในวัดวิชุนราชมีปทุมเจดีย์หรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ ซึ่งพระนางพันตีนเชียง พระอัครมเหสีของพระเจ้าวิชุนราชโปรดฯให้สร้างขึ้นในพ.ศ. 2057 หลังจากสร้างวัดแล้ว 11 ปี ด้วยรูปทรงของเจดีย์มีลักษณะคล้ายแตงโมผ่าครึ่งทำให้ชาวเมืองหลวงพระบางเรียกว่า พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำ ยอดพระธาตุมีลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย บริเวณมุมฐานชั้นกลางและชั้นบนมีเจดีย์ทิศทรงบัวตูมทั่งสี่มุม
พระธาตุหมากโมนี้มีสีดำเก่าๆ แม้จะเคยผ่านการบูรณะปฎิสังขรมาแล้วสองครั้ง ในปีพ.ศ.2402 รัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินทร์(คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ อีก 19 ปีต่อมา ในปี พ.ศ.2457 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์มีการปฎิสังขรอีกครั้ง ซึ่งการบูรณะครั้งนี้พบโบราณวัตถุมากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่แกะสลักจากแก้วซึ่งคล้ายกับพระแก้วมรกต โบราณวัตถุเหล่านี้ได้นำถวายเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเก็บรักษาไว้ในพระราชวังหลวงพระบางในปัจจุบัน
• พระอุโบสถ หรือที่ชาวลาวเรียกว่าสิม เป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบาง ตัวอุโบสถมีรูปทรงอาคารไทลื้อสิบสองปันนา ซึ่งมีจุดเด่นคือส่วนคอชั้นสองจะยกระดับสูงขึ้นไป ส่วนบนหลังคาประดับด้วยโหง่(หรือช่อฟ้าแบบไทย) ตรงกลางหลังคามีช่อฟ้า เป็นรูปปราสาทยอดฉัตรเล็กๆ ลดหลั่นหลายชั้น หน้าต่างพระอุโบสถประดับด้วยลูกมะหวด บานประตูด้านหน้าทั้งสามช่องแกะสลักลงรักปิดทอง มีรูปพระศิวะ พระวิษณุ พระพรหม และพระอินทร์ ศิลปะแบบเชียงขวาง
• พระประธาน หรือพระองค์หลวงในพระอุโบสถมีขนาดใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง ด้านหลังพระประธานมีโบราณวัตถุที่เก็บรวบรวมมาจากวัดร้างต่างๆ ในหลวงพระบาง เช่นพระพุทธรูปสำริด พวกไม้จำหลักลวดลายต่างๆ พระพุทธรูปไม้แกะสลักลงรักปิดทองสูงเท่าคนจริงจำนวนมาก
• สถานที่ตั้ง อยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง
• ค่าเข้าชม 20,000 กีบ (ประมาณ 40 บาท)
• เปิดเวลา 07.00 –17.30 น.
ไม่มีความเห็น