วันนี้ได้รับหนังสือราชการฉบับหนึ่ง จากสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน แล้วผมรู้สึกว่าดีมากๆ เป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงว่าการจัดการความรู้ ขับเคลื่อนแล้ว ใน กศน. หนังสือดังกล่าวสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน สำรวจกิจกรรม Best Practice ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 2 ที่ชื่อว่า ตอบโจทย์ในใจผู้เรียน ตอบโจทย์ในใจผู้เรียนคือยุทธศาสตร์หนึ่งในห้ายุทธศาสตร์ (Roadmap กศน.) ห้ายุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่หนึ่งลุยถึงที่ ยุทธศาสตร์ที่สองตอบโจทย์ในใจผู้เรียน ยุทธศาสตร์ที่สาม พัฒนาเครือข่าย ยุทธศาสตร์ที่สี่ สร้างแหล่งเรียนรู้ชุมชน และยุทธศาสตร์ที่ห้า นำ IT มาใชช้ในการบริหารจัดการ ซึ่งในรอบปี 2549 ที่ผ่านมา การดำเนินการตามยุทธศาสตร์ทั้ง 5 ก่อให้เกิดการพัฒนางาน กิจกรรม รูปแบบที่หลากหลาย เป็นตัวอย่างการทำงานที่ดีขึ้น
แต่ในคราวนี้สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน เลือกสำรวจ Best Practice ในยุทธศาสตร์ที่สอง ตอบโจทย์ในใจผู้เรียน ยุทธศาสตร์นี้ย่อๆก็คือว่าชาวบ้านอยากรู้อยากเรียนเรื่องใดด้วยวิธีการหรือเครื่องมือใดก็ต้องตอบสนองให้เขา ในแบบสำรวจที่แนบมานี้ เยี่ยมมากเลยครับ ลองพิจารณาดูนะครับ ว่า 6 ข้อ ของแบบสำรวจ มีหัวข้อหรือประเด็นใดเป็นอย่างไรบ้าง
1.ให้หน่วยงานนำเสนอกิจกรรมภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 2 ที่พิจารณาเห็นว่าเป็น Best Practice (สถานศึกษาแต่ละละแห่งสามารถตอบได้มากกว่า 1 กิจกรรม) กิจกรรมที่นำเสนอได้ได้แก่ หลักสูตรหลากหลาย วิธีการเรียนที่หลากหลาย บูรณาการการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่หลากหลาย การเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ การประกันคุณภาพการศึกษา และอื่นๆ
2.วิธีการปฏิบัติงานตามกิจกรรมที่เลือกในข้อ 1 โดยให้เขียนเป็นลำดับขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้น ชื่อกิจกรรม/โครงการ จนถึงขั้นตอนสุดท้ายของกิจกรรมนั้นๆ
3.ผลสำเร็จ คุณค่า ความภาคภูมิใจที่เกิดจากกิจกรรมนี้
4.ปัญหา อุปสรรคที่พบระหว่างดำเนินงาน และแนวทางแก้ไข
5.ข้อเสนอแนะ / ข้อคิด สำหรับหน่วยงานอื่น ที่จะนำกิจกรรมนี้ไปขยายผลต่อ
6.หลักฐาน หรือร่องรอยที่ผู้สนใจสามารถศึกษาดูได้ ได้แก่อะไร
6 ข้อดังกล่าว ผมว่าเหมาะสมมากครับ สอดรับกับนโยบายของ ผอ.สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน ดร.สมบัติ สุวรรณพิทักษ์ ที่ผมจำได้ว่าครั้งหนึ่งท่านได้กล่าวไว้ในคำแถลงนโยบาย กศน.ปี 2550 เมื่อวันการศึกษานอกโรงเรียน 8 กันยายน 2549 ที่เมืองทองธานี ในข้อที่ว่าด้วยให้สถานศึกษาแต่ละแห่งไปสร้างนวัตกรรม วิธีสอน วิธีส่งเสริมการเรียนรู้ชาวบ้านอะไรประมาณนี้ สถานศึกษาละ 1 วิธีสอน 1 รูปแบบ คล้ายๆกับหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์อะไรทำนองนี้แหละครับ
ผมยิ่งมีความรู้สึกดียิ่งขึ้นไปอีก เมื่อจังหวัดนครศรีธรรมราช โดย ผอ.วิมล วัฒนา ผอ.กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช คลิ๊กเรื่องนี้สั่งการให้ทุกสถานศึกษา กศน.ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำงานแบบ KM ให้เนียนในเนื้องานแบบ KM Inside ยกระดับองค์กรให้เป็นองค์กรเรียนรู้ กล่าวไว้เมื่อ 7 ธ.ค. ที่ห้องประชุมศรีปราชญ์ ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราชครับ ผมจึงหวังว่าต่อไปนี้เราคงจะได้พูดกันว่าทำกิจกรรมทักษะชีวิต พัฒนาอาชีพ วิสาหกิจชุมชน หลักสูตรท้องถิ่น สายสามัญ ส่งเสริมผู้ไม่รู้หนังส์อ ฯลฯ ทำอย่างไรให้มันดียิ่งขึ้นอีกโดยใช้จัดการความรู้เป็นเครื่องมือ
แม้มันไม่ใช่จะเปลี่ยนแปลงได้ปุ๊บปับก็จริง เพราะเรื่องนี้มันต้องเกิดมาจากการเปลี่ยนแปลงภายในตัวคนทำคนนั้น ระเบิดออกมาจากภายใน แต่ก็มีความหวังสูงมากครับที่จะทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะราชการเราปัจจัยความสำเร็จอย่างหนึ่งในการทำงานแบบ KM ผมว่าคุณเอื้อมีความสำคัญมากครับ ดีใจครับที่ ผอ.สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียนก็ดี ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชท่านวิชม ทองสงค์ ก็ดี และ ผอ.วิมล วัฒนา ผอ.กศน.จังหวัดนครศณีธรรมราชก็ดี ท่านเป็นคุณเอื่อที่พร้อมแล้วจะขับเคลื่อนกลไกเชิงระบบให้พวกเราได้ทำงานกันสะดวกมากขึ้น
ดีใจก็มาเล่าครับ
เชียร์ เชียร์ ... ค่ะ
น้อง อ.ดร.ขจิต.. น้องสิงห์ป่าสัก...และคุณหมอนนทลี
ครูนงเมืองคอนครับ
ผมมาเรียนรู้กระบวนการและสิ่งปลีกย่อยในบันทึก ของคนนอกระบบบ่อยๆเลยครับ
และวันนี้ผมก็มีเรื่องมาขอความคิดเห็น แลกเปลี่ยนจากคนทำงาน ที่นี่ครับ ...ขอครูนงช่วยร่วมแลกเปลี่ยนด้วยครับ
น้องจตุพร
ตามไปแสดงความเห็นไว้แล้วครับ
ตอนนี้เครือข่ายอาจารย์ไปถึงไหนแล้วค่ะ