โศกนาฏกรรมรถพยาบาล



ผมอยากจะตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า “โศกนาฏกรรมรถพยาบาล” แม้มันไม่ได้มีเหตุอะไรรุนแรง แต่ผมกลับรู้สึกโศกาเสียเหลือเกิน

เมื่อราวสักบ่ายสามโมงครึ่งตามเวลาท้องถิ่นของหาดใหญ่ในวันนั้น ขณะที่รถผมจอดติดไฟแดงเป็นคันแรก ณ สามแยกคอหงส์ 

“ตี๊แด่ ตี๊แด่ ตี๊แด่” เสียงไซเรนที่แสนสุภาพแว่วมา (เออนะ เสียงไซเรนรถพยาบาลของโรงพยาบาลมันมีเสียงที่สุภาพมาก มันช่างต่างจากเสียงจากรถพยาบาลของมูลนิธิต่างๆ ที่แผดร้องได้อย่างกวนตีน หลากหลายและแหลกราญ เคยสังเกตกันไหม)

ผมรีบกวาดตามองซ้ายขวาและเหลือบตาดูกระจกหลัง เผื่อจะได้เตรียมขยับรถเพื่อหลีกทางให้

“ออ..มันมาจากทางด้านซ้ายของอีกฝั่งถนนหนึ่ง” ผมบอกเมีย

เขาจะเลี้ยวขวาซึ่งสัญญาณคือไฟแดง แค่รถฝั่งตรงข้ามได้สัญญาณไฟเขียวให้วิ่งทางตรง

ผมลุ้น เพราะรถพยาบาลจะเลี้ยวไง มันคือการฝ่าสัญญาณไฟซึ่งได้รับอนุญาตตามกฏสังคมและตามกฏหมาย ผู้ป่วยต้องรีบถึงมือหมอ

รถฝั่งตรงข้ามคันแรกไม่หยุดให้ รถคันที่สองก็ไม่หยุดให้ รถคันที่สามยังไม่แม้แต่ชะลอความเร็ว รถคันที่สี่ลดความเร็วนิดหนึ่ง แต่ก็ยังคงใช้สิทธิ์ของผู้ได้รับสัญญาณไฟเขียว เขาไม่หยุดให้ รถคันที่ห้ายังคงไม่เห็นหรือไม่สนว่ารถพยาบาลจ่อหัวรถเพื่อจะขอทาง รถคันที่หกยังคงวิ่งเฉยเมยไป แล้วก็มาถึงรถคันที่เจ็ด เค้าจอด 
ถึงจุดนั้น รถพยาบาลก็ได้ออกตัวทันที

และเพียงชั่วเศษเสี้ยววินาที ก็มีรถมอเตอร์ไซค์วิ่งมาจากฝั่งตรงข้าม เค้ายังคงใช้สิทธิ์ของสัญญาณไฟเขียวพุ่งมาอย่างรวดเร็ว คนขับเป็นผู้ชาย เค้าสวมหมวกกันน็อค ส่วนคนซ้อนเป็นผู้หญิง เธอไม่ได้สวมหมวกใดๆ 

การเบรคห้ามล้อเกิดขึ้น

รถพยาบาลหยุดในทันที ผมเดาว่าผู้ป่วยในรถน่าจะตกใจ ส่วนมอเตอร์ไซค์นั้นเป๋ในทันที การเบรคในระยะประชิดทำให้ตัวรถส่ายไปส่ายมาน่าหวาดเสียว

และ ณ วินาทีนั้น ผมกลั้นหายใจ

.........................

ผมมีความทรงจำเกี่ยวกับรถพยาบาลอยู่บ้าง แม้ไม่เคยได้ใช้บริการโดยตรงสักครั้ง 

เมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้นผมยังคงเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ ๖ ฝึกงานอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เราได้รับโทรศัพท์เพื่อรับส่งต่อคนไข้ที่มีอาการหนักมาจากโรงพยาบาลอำเภอซึ่งห่างออกไปราวเกือบ ๖๐ กิโลเมตร ตอนนั้นเป็นช่วงหัวค่ำ 

แต่รถพยาบาลมาไม่ถึง พวกเขาประสบอุบัติเหตุระหว่างทาง พยาบาลและคนไข้ในรถเสียชีวิต ส่วนคนขับรถซึ่งบาดเจ็บสาหัสถูกส่งตัวมาถึงที่เราราวๆเกือบเที่ยงคืน 

นั่นคือครั้งแรกจริงๆ ที่ผมเริ่มเข้าใจว่า รถพยาบาลไม่ได้มีความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์บนท้องถนนบ้านเรา และจากนั้นมาก็ได้เห็นข่าวรถพยาบาลประสบอุบัติเหตุมาเรื่อยๆ

รถพยาบาลใกล้ตัวมากขึ้นเมื่อครั้งเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล ผมมีอาจารย์รุ่นพี่ที่เป็นรองผู้อำนวยการอีกท่านเป็นผู้ดูแลหน่วยงานนี้ ผมจำได้ว่าคราวนั้นเราได้รับรายงานการประสบอุบัติเหตุของรถพยาบาลของโรงพยาบาลเรา เธอและทีมจึงมานั่งวิเคราะห์ถึงสาเหตุเพื่อจะได้ป้องกัน หลังจากนั้นมาจึงมีกฏเกณฑ์ไม่ให้คนขับรถต้องอยู่เวรมากเกินกำหนด ประเภทอยู่เวรข้ามคืนแล้วต้องขับรถไปส่งคนไข้ไกลๆนี่ไม่ได้เด็ดขาด ห้ามขับรถต่อเนื่องในระยะเวลายาวเกินไป และที่สำคัญ เมื่อพนักงานขับรถมารับเวรนั้น จะต้องมีการเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ด้วยทุกครั้ง 

แต่อุบัติเหตุของรถพยาบาลของเราก็ยังคงมี ครั้งหนึ่งถูกชนตอนวิ่งฝ่าไฟแดงทั้งๆที่เปิดสัญญาณไฟส่งเสียง ตี๊แด่ ตี๊แด่ อยู่นี่แหละ

มีอีกครั้ง ที่พนักงานขับรถได้ขับรถตกไหล่ทางเพราะจู่ๆก็มีอาการปวดหัวรุนแรง เธอรีบจัดการส่งลูกน้องในสังกัดไปตรวจโดยละเอียดทันที และพบว่าเขาเป็นเนื้องอกในสมองขนาดใหญ่

ทำให้บางทีก็ต้องนึกไปต่อ ว่าแม้การจัดเวรให้มีการพักผ่อนที่ดี มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ก่อนทำงานแล้ว เราอาจจะต้องมีการตรวจร่างกายประจำปี ตรวจสายตา ดูจอประสาทตาด้วยไหม เป็นต้น
............................

มอเตอร์ไซค์คันนั้นหักหัวเลี้ยวเฉียดกระจกมองข้างของรถพยาบาลชนิดที่เรียกว่า “เส้นยาแดงผ่าแปด”

หึหึ ใครหนอที่อุทานคำนี้ขึ้นมาเป็นคนแรกในโลก “เส้นยาแดงผ่าแปด” มันคือเส้นอะไร มันอยู่ที่ไหน แล้วทำไมต้องเป็นผ่าแปด?

การไม่เกิดอุบัติเหตุตรงหน้านั้น มันคือความโชคดี ผมนึกเช่นนั้น เพราะหากเขาชนกันดังโครม ผมว่าคงมีการเจ็บหนัก และน้ำหน้าหมออย่างผมที่ผ่าตัดมดลูกคนแก่มาเกือบตลอดชีวิตคงทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ

และเพียงเสี้ยววินาทีที่เห็น การหักหัวรถมอเตอร์ไซค์หลบรถพยาบาล
มันทำให้มอเตอร์ไซค์คันนั้นตุปัดตุเป๋พุ่งเข้ามายังรถที่ผมจอดรอสัญญาณไฟแดงอยู่พอดี

“แม่..” ผมบอกเมีย และเอื้อมมือไปกุมมือเธอและบีบไว้
..........................

หมอไม่ได้เก่งทุกเรื่อง เชื่อผมเถิดนะ ผมเรียนมา

อุบัติเหตุตรงหน้า ผมอาจจะทำอะไรไม่เป็นเสียแล้ว 

Primary survey ต้องทำอะไรบ้าง คงจะงง
Secondary survey ต้องทำอะไรต่อ ผมคงใบ้กิน

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมจะทำเป็นอันดับแรกก็คือการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรเข้าหมายเลข ๑๖๖๙ แจ้งชื่อผมเอง แจ้งตำแหน่งอุบัติเหตุ แจ้งลักษณะการบาดเจ็บ บอกความรุนแรงของคนเจ็บ และคำร้องขอว่าให้มาเร็วแค่ไหน 

ระบบการส่งข้อความฉุกเฉินแบบนี้ ผมเชื่อว่า “ผมเก่ง” แน่ๆ

“แป๊ะรู้ไหม วันก่อนพี่เจออุบัติเหตุขณะไปสงขลา” อาจารย์หมอสูติรุ่นพี่เริ่มเล่าเรื่องให้ฟัง เธอบอกว่าเห็นรถเฉี่ยวกัน แล้วมีคนเจ็บนอนอยู่บนพื้นถนน
“แล้วไงพี่” ผมต่อ
“พี่ก็ทำอะไรไม่ถูกน่ะสิ เรียนจบมายี่สิบปี ไม่เคยต้องดูคนไข้อุบัติเหตุบนถนนเลย” เธอบอกมา ซึ่งผมก็เชื่อตามนั้น
“แล้วพี่ทำยังไงล่ะ” ผมนึกถึงท่าของตัวเอง ที่วิ่งลงไปจากรถ แล้วย่อเข่าข้างหนึ่ง เรียกคนไข้ จับชีพจรที่ต้นคอ แล้วเรียกคนรอบข้างมาช่วยเหลือ จากนั้นเริ่มทำการ CPR 

แม่งโคตรเท่ (นี่คือจินตนาการล้วนๆ)

“พี่ก็วิ่งลงไปกางร่มให้คนเจ็บที่นอนอยู่บนถนน เค้าไม่สลบ แต่พี่ไม่ให้เค้าลุกขึ้น” ออ เหตุการณ์เกิดขึ้นตอนฝนตกพรำๆ
“ก็ยังดี” ผมบอกเธออย่างนั้น

“แล้วพี่ก็พยายามนึก ว่าสายด่วนฉุกเฉินมันเบอร์อะไร พี่นึกไม่ออก” 

“แล้วกัน ผมนี่บันทึกไว้ในโทรศัพท์เลยนะ นเรนทร ๑๖๖๙” ผมบอกเธอ
“อ้าว..เหรอ” เธอทำหน้างง
“จริงสิ เค้าโฆษณาออกจะบ่อย” ผมย้ำ
“มีคนข้างๆ บอกว่ามันคือเบอร์ ๑๖๖๓ ซึ่งพี่ก็คุ้นๆ เหมือนกัน ชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์เค้าก็ยืนยันว่าต้องหมายเลข ๑๖๖๓ แล้วเค้าก็โทรเข้าไปหาหมายเลขนั้น” เธอยังคงเล่ามาอย่างต่อเนื่อง

“พี่ๆ ๑๖๖๓ น่ะ สายด่วนท้องไม่พร้อมนะพี่ สงสัยพี่คงจะอินกับงานเรามากไปหน่อยไหม”

ฮ่า ฮ่า ฮ่า
........................

ตอนนั้นผมขำ แต่ ณ เสี้ยววินาทีนี้ ผมกลับขำไม่ออก เพราะมอเตอร์ไซค์คันนั้นมันพุ่งมายังรถเรา

ผมกำมือเมียและบีบไว้แน่น เกร็งหน้าท้อง กล้ามเนื้อต้นขาหดตัว ปลายเท้าจิกเหยียบเบรคไว้

“ไม่โครม”

ผู้ชายคนขับยังคงบังคับรถของเขาไปจอดสนิทที่หน้าโรงเรียนประถมนานาชาติที่หัวมุมสี่แยกไฟแดง

ถอดหมวกกันน๊อคออกมา แล้วมองไปที่รถพยาบาลคันนั้น

ผมคาดเดาไม่ถูก ว่าสายตาของเขาแสดงออกถึงอาการเช่นไร

ตกใจ เครียด เสียใจ ก่นดา หรือสาปแช่งรถพยาบาล 

มันยากนักที่จะคาดเดา เพราะผมมองไม่เห็น สายตาผมห่วยเต็มที

ธนพันธ์ ชูบุญหนึ่งหกหกเก้า
๑๐ กย ๖๒

คำสำคัญ (Tags): #รถพยาบาล#๑๖๖๙
หมายเลขบันทึก: 673141เขียนเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2019 16:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2019 16:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท