“ชานมไข่มุก” หวานเกินพิกัด จำกัดแค่ 2 แก้วต่อสัปดาห์


ขอบคุณที่มาภาพประกอบ : Facebook รามาแชนแนล Rama Channel

           แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เตือนภัยน้ำตาล ความหวานจากชานมไข่มุกที่สูงกว่า 16 ช้อนชาต่อแก้ว แค่ดื่มสัปดาห์ 2 แก้วต่อเนื่อง ผลกระทบสุขภาพสูง เบาหวาน นำไปสู่โรคมะเร็งในอนาคต แนะควรดื่มแบบเว้นระยะในการพร้อมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย

        คนไทยติดหวาน โดยไม่รู้ว่าพิษภัยจากน้ำตาล ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากน้อยขนาดไหน แต่น่าตกใจว่าในชีวิตประจำวัน เราบริโภคน้ำตาลเกินจำเป็น

            ยิ่งเมื่อผลตรวจสอบน้ำตาลชาไข่มุก 25 ยี่ห้อที่พนักงานออฟฟิศ คนวัยทำงานนิยมดื่ม โดยศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) รายงานว่า ในชาไข่มุกที่แสนอร่อย ไม่ได้แค่สารกันบูด แต่น้ำตาลยังสูงเกินกว่าที่องค์การอนามัยโลก

            ทั้ง 25 ยี่ห้อมีเพียงไม่กี่ยี่ห้อที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยอยู่ที่ 4 ช้อนชา ยี่ห้อที่มีน้ำตาลมากที่สุดอยู่ที่ 18.5 ช้อนชา ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำปริมาณน้ำตาลที่ได้รับต่อวัน ไม่ควรเกิน 24 กรัม หรือ 6 ช้อนชา ซึ่งพบว่ามีเพียง 2 ยี่ห้อเท่านั้น ที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยกว่า 24 กรัม

            ทพญ.มัณฑนา ฉวรรณกุล รองผู้จัดการเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าตกใจมากเมื่อเห็นปริมาณน้ำตาลของชาไข่มุก เพราะมีปริมาณมากเกินกว่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ เครื่องดื่มเหล่านี้ จึงเป็นเครื่องดื่มที่ควรงดการดื่ม เพราะปริมาณน้ำตาลที่สูงมากๆ หากได้รับในคราวเดียวจะรบกวนเมทาโบไลต์ (metabolite) ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นกลุ่มโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ ซึ่งมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต (NCDs ) เช่น เบาหวาน ความดัน โรคอ้วน

            แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความมัน หวาน และให้ความสดชื่นของชานมไข่มุก ทำให้  “พิไลวรรณ” พนักงานออฟฟิศ ชื่นชอบชานมไข่มุกเป็นอย่างมาก เธอจึงทลายข้อแนะนำทั้งปวง ทุกวันเธอจะต้องซื้อชานมไข่มุกดื่มวันละ 1 ถึง 2 แก้ว

            “ชาไข่มุกทำให้รู้สึกสดชื่น ไม่ได้ดื่มแล้วเหมือนขาดอะไรบางอย่าง และไม่มีแรง” เธอให้เหตุผล

แม้จะชื่นชอบ ชาไข่มุกมาก แต่พิไลวรรณ ก็ห่วงสุขภาพของตัวเอง ทำให้เเธอเลือกสั่งชานมไข่มุก หวานน้อย หรือมีความหวานร้อยละ 50 หรือร้อยละ 30 ต่อแก้ว ควบคู่กับการออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเผาผลาญ และคุมอาหารในส่วนอื่นร่วมด้วย

            แต่พฤติกรรมดื่มชานมไข่มุกของพนักงานออฟฟิศอื่นๆ ต่างจากสิ่งที่ “พิไลวรรณ” เป็นเพราะนอกจากไม่ลดหวานแล้วยังเพิ่มหวานขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้คนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

            อันตรายที่ซ่อนในความหวานมากเกินกว่าที่คาดคิด ศ.พญ.ชุติมา ศิริกุลชยานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ และ อาจารย์ประจำวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ถึงกับบอกว่า รสหวานทำให้สดชื่น ดื่มติดต่อกันต่อเนื่องก็จะติด และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

            หากบริโภคหวานต่อเนื่องทุกวันในปริมาณที่เกินกำหนด อาจส่งผลต่อสุขภาพได้ เช่น โรคอ้วน อ้วนลงพุง โรคเบาหวาน ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด เซลล์ในร่างกายอักเสบ และนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งในอนาคต

            “ปกติในร่ายกายของคนเรา ผู้ชายต้องการพลังงานอยู่ที่ 2,000 แคลลอรี่ต่อวัน ผู้หญิง 1,800 แคลอรี่ต่อวัน หากต้องการบริโภคน้ำตาลหรือว่าของหวาน ควรบริโภคได้ไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมด” ศ.พญ.ชุติมา กล่าว

            อาจารย์ชุติมา ยังบอกอีกว่า ไม่ควรบริโภคชาไข่มุก เกินสัปดาห์ละ 2 แก้ว และไม่ควรกินติดต่อกันทุกวัน เนื่องจากพลังงานแคลอรี่ชาไข่มุก 1 แก้ว มีตั้งแต่ 350 - 500 แคลลอรี่ ตามแต่ละปริมาณแก้ว ซึ่งเทียบเท่ากับการกินอาหาร 1 มื้อ

            หากลองมาดูจากข้อมูลของศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พบว่า น้ำตาลในชานมไข่มุก อยู่ที่ 18.5 ช้อนชา ซึ่งเป็นปริมาณที่เกินกว่า ร่างกายควรจะบริโภคต่อวัน และส่วนผสมในชานมไข่มุก มีทั้ง นม ครีมเทียม น้ำตาล

            แต่หากต้องการบริโภคชานมไข่มุก ควรลดความหวานในชาไข่มุกจากหวานปกติ และไม่ควรกินหมดแก้ว เพราะกินชานมไข่มุก ที่ให้พลังงาน 500-600แคลอรี่ ควร ออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญ ด้วยการวิ่งประมาณ 50- 60 นาที หรือ ควรลดปริมาณข้าวในมื้อต่อไป เแต่ไม่ควรงดอาหารหลัก เพื่อกินชานมไข่มุกเพียงอย่างเดียว เพราะจะทำให้มีปัญหาโภชนาการ

หมายเลขบันทึก: 673063เขียนเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2019 13:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2019 13:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท