ได้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ใหญ่ท่านนึง ซึ่งมีรายได้ต่อเดือนเป็นตัวเลข 7 หลัก มีเนื้อหาช่วงนึง ที่ฟังแล้วอยากเอามาเล่าต่อ
คุยกันถึงเรื่องการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันที่มีการแข่งขันกันทำงาน ทำเงิน ทำชื่อเสียง เพราะคิดว่าสิ่งที่ได้ทั้งชื่อเสียง และเงินทอง จะทำให้ชีวิตมีความสุข หลายคนเรียน ทำงาน เพื่อเก็บเงินให้ได้มาก ๆ ไม่มีโอกาสได้เที่ยว ไม่มีโอกาสได้ทานอาหารที่อร่อย ไม่มีโอกาสได้พบปะเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ไม่มีเพื่อนสนิท คำถามคือ แล้วความต้องการที่แท้จริงในช่วงปลายชีวิตเป็นยังไง
ท่านได้ยกตัวอย่างเรื่องของท่านเองกับเพื่อนของท่านคนนึง ซึ่งเป็นเพื่อนในวัยเรียนประถมในต่างจังหวัด โดยตัวท่านเองเป็นคนเรียนเก่ง ส่วนเพื่อนเรียนหนังสือไม่เก่ง เพราะต้องเอาเวลาไปปลูกผัก ปลูกต้นไม้ ซึ่งตัวท่านเองก็เข้ามาเรียนต่อในในโรงเรียนชื่อดังที่กรุงเทพ เรียนพิเศษทุกวิชา จนเรียนจบปริญญาตรี ก็ทำงานไปพร้อมกับเรียนภาษาอังกฤษแบบบ้าคลั่ง ไม่มีวันหยุด จบแล้วก็เรียนต่อจนถึงปริญญาเอก จากนั้นกลับมาเปิดบริษัท มีงาน มีพนักงานที่ต้องรับผิดชอบ ทำงาน 7 วันๆละ 20 ชั่วโมง ฝ่าฟันจนประสบความสำเร็จ มีครอบครัว มีลูกซึ่งเรียนอยู่เมืองนอก กลับมาปีละครั้ง มีบ้านหลังใหญ่ มีรถ มีเงิน มีชื่อเสียง
โดยที่ท่านก็ฝันไว้ว่าบั้นปลายชีวิตจะกลับไปอยู่ต่างจังหวัด ตื่นเช้าขึ้นมานั่งจิบกาแฟ มองดูสวนต้นไม้ ทานอาหารเช้า ออกกำลังกาย กลางวันก็ออกไปพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนบ้าน และทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ตกเย็นก็หาอาหารอร่อยทานกับครอบครัว ส่วนเสาร์อาทิตย์อาจไปพักผ่อนกับเพื่อน ๆ
เมื่อถึงวันนึงท่านก็ไปกลับไปที่จังหวัดบ้านเกิดเพื่อเตรียมหาซื้อที่ (ที่พ่อแม่เคยขายเพื่อส่งเงินให้ลูกชายเรียนหนังสือ) เก็บไว้เพื่อสร้างบ้านหลังเล็ก ๆ ตามความตั้งใจ หลังจากวางมือเรื่องงาน ซึ่งตั้งใจอีกประมาณ 5 ปี
ก็ไปเจอเพื่อนเก่าคนนึงซึ่งเรียนไม่เก่ง และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นมาโดยตลอด อายุเท่ากัน ปัจจุบันไม่ได้ทำงาน มีบ้านสำหรับอยู่อาศัย 1 หลังกับภรรยา ส่วนลูกทำงานอยู่กรุงเทพ มีที่ 30 ไร่ แบ่งให้เช่าทำนา 10ไร่ เก็บค่าเช่าเป็นข้าวเปลือก มีสวนครัว มีบ่อปลา เลี้ยงไก่ มีสวนมะม่วง กล้วย มะนาว ส้มโอ ซึ่งผลไม้ทั้งหมดให้ผลสลับกันตลอดทั้งปีและมีคนมาซื้อถึงที่ ซึ่งสวนผลไม้ สวนครัว และบ่อปลานั้น สามารถทำรายได้ให้ปีละประมาณ 300,000 – 500,000 บาท โดยตลอดชีวิตที่ผ่านมา แกไม่ต้องเรียนและทำงานอย่างบ้าระห่ำแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม แกทำงานด้วยความสุข บางครั้งอาจจะเหนื่อยกายบ้าง ลูกสองคนก็มาเยี่ยมพ่อ แม่ ทุกวันหยุด
เห็นมั๊ยคะ บั้นปลายชีวิตของทั้งสองคนก็เหมือนกัน โดยที่ระหว่างทางที่จะมาถึงนั้น ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
คำถามก็คือ แล้วจากสิ่งที่ต้องการจะเป็นในบั้นปลายชีวิตตามที่เล่ามานี้ ต้องมีเงินเท่าไหร่ ต้องทำยังไงถึงจะได้มา น่าสนใจนะคะ ลองคิดแบบ Over ๆ ดูดิน 1 ไร่ พร้อมบ้าน 1 หลัง (ต่างจังหวัด) ซึ่งบางคนก็มีอยู่แล้วโดยไม่ต้องหาซื้อค่ารักษาพยาบาล ซึ่งสามารถทำประกันสุขภาพ หรืออาจใช้บริการ 30 บาทรักษาทุกโรคค่าอาหาร (ถ้าอยากมีสุขภาพดี อายุยืน ควรปลูกผักทานเอง)ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าจ้างคนงาน ค่าน้ำมันรถ เป็นต้นค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพื่อความบันเทิงจากข้อมูลนี้
คุณลองคิดเล่นๆ ว่า คุณต้องมีเงินใช้เท่าไร ต่อเดือน นั่นหมายถึง คุณต้องมีเงินเก็บเท่าไรเมื่อถึงวันนั้น
แล้วทุกวันนี้ คุณต้องหาเงินในช่วงการทำงานเท่าไร และอย่างไร เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินเก็บจำนวนนั้น แล้วคุณควรจะดำเนินชีวิตยังไง
ไม่มีความเห็น