ข้อสงสัยต่อการได้ทุนทำวิจัยของคุณออต ที่กาฬสินธุ์


ติดตามถามไถ่


จากบันทึกของคุณออต ข่าวดีในรอบวัน งานวิจัยที่กาฬสินธุ์ ผ่านแล้ว ผู้ที่ติดตามอ่านกลุ่มเล็กๆที่กาฬสินธุ์เกิดคำถามคาใจ...
...แต่ดันไม่เขียนถามในบันทึกของคุณออต …ดันมาถามนายบอน

แหม แสดงว่า มีคนที่ตามอ่าน ตามเรื่องราวของคุณออตเหมือนกันนะครับ....
พวกเขาสงสัยว่า
”การได้ทุนต่างชาติ เป็นการนำร่องเข้ามาสำรวจข้อมูลให้กับต่างชาติหรือเปล่า”

อันนี้นายบอนก็ไม่รู้ว่า องค์กรที่ให้ทุนกับงานของออต มีวัตถุประสงค์อย่างไร อันนี้ต้องให้ออตขยายความ
แต่ข้อมูลที่ได้นั้น น่าจะเป็นประโยชน์ทั้งในเชิงวิชาการ และในเชิงอนุรักษ์ศิลปวัฒธรรมมากกว่า

”งานวิจัยของออต เมื่อทำไปแล้ว จะได้อะไรกลับคืนสู่คนท้องถิ่นบ้าง เพราะที่เคยเห็น คนที่เข้ามาวิจัยเป็นฝ่ายที่ได้อะไรกลับไปมากกว่า ได้ข้อมูล ได้รู้จักคนในชุมชนเป็นอย่างดี คนในชุมชนก็ได้เพื่อนใหม่ รู้จักคนที่มาวิจัย ซึ่งสิ่งที่ได้ ก็ได้เพียงเท่านั้นเอง”

อือม
... นายบอนไม่รู้เหมือนกันว่า คุณออตจะให้อะไรกลับคืนสู่คนท้องถิ่นบ้าง นอกจากมิตรภาพที่ดีงาม แต่คิดว่า คุณออตจะค่อยๆถ่ายทอดสิ่งต่างๆผ่านทางบันทึกในบล็อกของคุณออตนั่นแหละ เรื่องแบบนี้ต้องติดตามกันไปนานๆ....


”จะแน่ใจได้อย่างไรว่า นี่จะไม่ใช่จุดเริ่มต้นของการเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรทางวัฒนธรรมท้องถิ่น จากชุมชนหนึ่ง ไปให้อีกชุมชนหนึ่ง เพราะเมื่อเข้ามาก็จะรู้ช่องทาง สามารถหารายได้ หากำไรจากท้องถิ่นนี้ ไปให้ท้องถิ่นอื่นได้...

เช่น มาซื้อของจากท้องถิ่นในราคาหนึ่ง เอาไปขายได้กำไรที่อื่น.....”

คำถามนี้ นายบอนก็ไม่รู้เช่นกัน แต่คิดว่าคุณออตเป็นคนไทย รักเมืองไทยไม่น้อยกว่าใคร มีจิตวิญญาณในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอีสานไม่แพ้ใครเช่นกัน

”งานของคุณออตเป็นแนววัฒนธรรม มีผู้ที่เกี่ยวข้องค่อนข้างน้อย แล้วคนทั่วไปจะได้รับประโยชน์ได้อย่างไร”

ถ้าให้นายบอนให้คำอธิบายแทนคุณออตไปก่อน ..
..ความจริงแล้ว วัฒนธรรมมีความเกี่ยวข้องกับคนทุกส่วนในชุมชน เพราะถือเป็นรากเหง้าของทุกคน
แต่ที่บอกว่า คนทั่วไปจะได้รับประโยชน์แค่ไหน ก็คงต้องถามกลับว่า คนเหล่านั้น เห็นมองเห็นคุณค่า+ความสำคัญแค่ไหน  เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของภูมิปัญญา วัฒนธรรมเหล่านั้นหรือไม่ ....

..และมีความผูกพันกับท้องถิ่น มากเพียงใด....

..... แหม คำถามทำนองนี้ นายบอนอยากให้ คุณออต หรือ คุณ น.เมืองสรวงมาตอบให้พรรคพวกฟังกันสดๆ คงจะได้แง่มุมที่ดีๆมากกว่าที่นายบอนตอบแน่ๆ....

”การเข้ามาทำวิจัยของคุณออต จำเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับไทบ้านหรือไม่ “

แหม มองกันไกลถึงเพียงนั้นเลย..

ความจริงแล้ว งานหรือรายได้ที่เกิดขึ้น ไม่ได้อยู่ที่คุณออต แต่อยู่ที่ความมานะพยายามของทุกคนต่างหาก ฃ
คุณออตไม่สามารถที่จะมาพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินได้

“อ่านบันทึกก่อนๆ ที่คุณออตชวน คุณ น.เมืองสรวงมาร่วมงานวิจัยด้วย ตอนนี้คุณออต ได้ทุนวิจัยแล้ว แล้วพี่ น.เมืองสรวงจะมาหรือไม่”

แหม ดีใจแทนคุณออต ที่มีแฟนๆคอยตามเรื่องอยู่ตลอด...

บางที น.เมืองสรวงท่านอาจจะกลับมาเยี่ยมบ้านที่กาฬสินธุ์ ช่วงเทศกาลปีใหม่ ถ้าคุณออตอยู่ใกล้ๆ ก็อาจจะเจอกันได้ ได้คุยกันบ้าง

ความจริง ครอบครัวของคุณ น.เมืองสรวงอยู่ที่โคราช และคุณ น.เมืองสรวง ได้ทิ้งเบอร์โทรให้คุณออตติดต่อกลับได้ตลอด

ถ้าในวันที่คุณ น.เมืองสรวงจะเดินทางมากาฬสินธุ์ แค่คุณออต โทรบอกให้เขาแวะที่เมืองพล บ้านคุณออต
แค่นี้ก็เจอกันแล้วล่ะครับ

2 ไทบ้านได้มานั่งคุยกัน เจอกันตัวเป็นๆ เดี๋ยวเค้าก็หาช่องทางร่วมมือกันเอง....

... แต่ไม่รู้ว่า จริงๆแล้ว เค้าจะโทรหากัน นัดเจอกันหรือไม่...
.... ก็เป็นเรื่องของ 2 ไทบ้านเค้า

อาจจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันเร็วๆนี้ หรืออีกนานก็ได้ ไม่มีใครรู้....
..... มีแต่ 2 คนเท่านั้น ที่รู้กัน......





หมายเลขบันทึก: 67166เขียนเมื่อ 14 ธันวาคม 2006 11:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:43 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • ก็ได้ไปแสดงความยินดีกับคุณออตแล้วครับ
  • ส่วนว่าจะเกิดอะไรตามมาหลังจากที่มีผลการวิจัยแล้ว ก็อย่างที่คุณบอนว่า "ต้องดูกันไปอีกนานครับ"
  • อย่างน้อยที่เราทราบที่จะเกิดแน่นอน (+) คือ มิตรภาพ ของท้องถิ่นกับผู้วิจัย

 

เรียน คุณบอน

เป็นประเด็นที่น่าคิด นักวิจัยเราคิดเรื่องนี้กันเสมอ นอกจากมิตรไมตรีที่เรามอบความจริงใจให้กับชุมชนอย่างเปลือยหัวใจเลย ซึ่งชุมชนทราบ

แต่วัตถุประสงค์แฝงที่มากับทุนของงานวิจัย นี่ควรตระหนักด้วย

บันทึกนี้ผมขอชมเชยด้วยความจริงใจ ที่คุณบอนกล้าที่จะชำแหละออกมาตรงๆ

ดังนั้นแล้วในกรณีงานวิจัยชิ้นใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น ภายใต้ทุนต่างชาติ  การหยุดคิดและวิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมาและรู้เท่าทัน

ผมว่าจะดีมากเลย

ผมขอขอบคุณบันทึกนี้ครับ

  • สวัสดีครับคุณบอน
  • พอดีอาจารย์จตุพรฝากผมให้เข้ามาช่วย comment ประเด็นนี้หน่อยครับ เพราะผมเป็นพวกเลือดรักชาติสูงครับ
  • ประเด็นนี้น่าคิดมาก ๆ เลยครับ แต่ทั้งหมดทั้งปวงอยู่ที่คนทำครับ
  • คนทำ ถ้าเป็นคุณออตกับคุณ น.เมืองสรวง ผมมั่นใจครับ ว่าไม่มีปัญหา
  • แต่ทุนแบบนี้เขาจะมีหน่วยเหนือคุณออตกับคุณ น.เมืองสรวงขึ้นไป เช่น มหาวิทยาลัย กระทรวง ทบวง กรม หรือรัฐบาล เหล่านี้เป็นปัจจัยแทรกซ้อนที่สำคัญมาก ๆ ครับ ที่เขาจะเข้ามาจัดการโน่นการจัดนี "เกาะกินผลประโยชน์" แนะนำวิธีการต่าง ๆ ไม่ได้เพื่อเรา "แต่เพื่อประโยชน์เขาครับ" อันนี้ต้องระวังอย่างมากเลยครับ ผมเคยเจอมาเยอะ
  • มาเก็บ มาเกี่ยว มาเกาะ มาแกะ ชี้โน่น สั่งนี่ ยิ่งถ้าเป็นหน่วยงานที่เราต้องพึ่งพากัน ก็ปฏิเสธเขาลำบากครับ ยิ่งเราทำดีมาก แร้ง กา ก็คอยจะมาเกาะกินครับ
  • คนไทยน่ากลัวว่าต่างชาติหลายเท่าครับ อย่างไรคุณบอนก็เข้าไปทีมวิจัยกับคุณออตเลยสิครับจะได้ร่วมด้วยช่วยกันทำเรื่องนี้ให้สวยงาม
  • ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ชอบงานของน้องออต เค้าเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ ที่รักและเข้าใจศิลปวัฒนธรรมอย่างถ่องแท้  มีความตั้งใจสูง ก็ดีใจกับน้องเค้าด้วยค่ะ

หากถามต่อไปว่า...การใช้ประโยชน์จากงานวิจัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น หากนำมาพัฒนาและปรับใช้น่าจะเกิดผล ซึ่งจริง ๆ แล้วภาคนิพนธ์ที่ทำไว้แล้วเยอะเลย เพียงแต่ไม่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ส่วนใหญ่จะอยู่ห้องสมุดเยอะแต่ไม่นำออกมาใช้กับท้องถิ่น  ปี ๆ หนึ่ง บัณฑิต มหาบัณฑิต ทั้งหลายจบกันเป็นหมื่น ผลงาน ชิ้นงานวิจัยมีประโยชน์ทั้งนั้น เนื้อหาก็อยู่ที่ท้องถิ่นนั่นแหละ

.....ป.ตรี โท เอก ก็อยู่ที่ชุมชนนั่นแหละ ครูอาจารย์ก็อยู่ที่ชุมชนนั่นแหละ ไม่ต้องไปแสวงหาภายนอกประเทศเลย ......

....ผมยังไม่ทราบลายระเอียดชิ้นงานวิจัยเลย มันเป็นผลงานของคุณออตนะครับ

ประเด็นที่วิจัย...

1. ทุนให้เปล่าหรือกู้ยืม

2.ทำวิจัยแล้วปรับใช้ภายในประเทศหรือเปล่าหรือว่าหอบชิ้นงานและเนื้อหาต่าง ๆ ออกนอกประเทศ (อันตรายมากสำคัญมาก)

3.ไม่มีใครมาชี้นำได้หรอกครับเพราะต้องดูที่วัตถุประสงค์ของงานวิจัย

ขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยเติมเต็มประเด็นนี้และชี้แนะข้อควรระวังในเรื่องงานวิจัย

  • ออตเองขอตอบสั้น ๆ นะครับ
  • มูลนิธิจิมป์ทอมสัน เป็นมูลนิธิที่จะทะเบียนในไทยโดยคนไทยและชาวต่างชาติ
  • มูลนิธิสนับสนุนการเผยแพร่งานมรดกทางวัฒนธรรมของไทยไม่ว่าภาคไหน
  • มูลนิธิไม่มีส่วนชี้ เจาะจง สั่งการ และเข้ามายุ่งกับการวิจัยครั้งนี้ เราต่างหากที่ไปขอทุนเขาในการทำงาน  ในขณะที่หน่วยงานของเรา(ไทย) ยังเห็นเรื่องวัฒนธรรมโดยเฉพาะวัฒธรรมพื้นบ้านเป็นเรื่องอันดับท้าย ๆ เรื่องที่สงสัยว่า การได้ทุนต่างชาติ เป็นการนำร่องเข้ามาสำรวจข้อมูลให้กับต่างชาติหรือเปล่า” ตัดออกไปได้เลย พี่น้องกาฬสินธุ์อุ่นใจได้
  • ทุนวิจัคราวนี้เป็นทุนวิจัยที่น้อยมากและระยะสั้นเนื่องจากเรากับมูลนิธิยังใหม่ต่อกันมาก จึงอาจจะจำกัดระเบียบวิธีวิจัยแค่วิจัยเชิงคุณภาพและการเผยแพร่เท่านั้น ดังนั้นกับข้อกังวลที่ว่า ”งานของคุณออตเป็นแนววัฒนธรรม มีผู้ที่เกี่ยวข้องค่อนข้างน้อย แล้วคนทั่วไปจะได้รับประโยชน์ได้อย่างไร” ออตไม่เก่งงานพัฒนามากนะครับต้องขอความร่วมมือนักพัฒนาในพื้นที่ว่าจะช่วยกันได้อย่างไร
  • จริง ๆแล้วยังไม่เห็นสภาพปัญหา สิม จิตรกรรม หรือข้อมูลอะไรมากจึงยังไม่รู้ว่าจะให้ประโยชน์ในเรื่องใดบ้างนอกจากที่เล่ามาแล้ว
  • อาจารย์Mr. Kamphanat Archa (Jack) ขอบคุณมากครับที่แสดงความคิดเห็น ใช่ครับเรื่องนี้ดูกันนาน ๆ และดูที่เจตนาเพราะบางครั้งเจตนาดีแต่ปัจจัยไม่ได้เอื้อให้เราทำตามเจตนามาก เชื่อว่านักวิจัยทุกคนเข้าใจเรื่องนี้
  • คุณ จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร ขอบคุณมากที่เป็นห่วงประเด็นแอบแฝงของต่างชาติ ในกรณีนี้ต้องขอบคุณชาวต่างชาติที่ให้ทุนเราทำงานเมื่อเราไปขอทำงานเพื่อท้องถิ่น บางครั้งท้องถิ่นอาจจะไม่ได้คิดว่าสำคัญเลยก็ได้
  • อาจารย์ ปภังกร วงศ์ชิดวรรณ  คนไทยน่ากลัวกว่าต่างชาติประเด็นนี้เห็นว่าไม่กล้าวิจารณ์ แต่ชาวต่างชาติที่รักมรดกทางวัฒนธรรมของชาติเรามากกว่าคนไทยเนี่ย เขาน่ารักนะครับ งานนี้เขาไปขอเงินเขาทำงานโดยที่ไม่รู้จักกันเลย แสดงว่าเขาเป็นห่วงมรดกทางวัฒนธรรมแขนงนี้อยู่มากเหมือนกัน ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ

 

    • เอื้อย Bright Lily ขอบคุณมากครับที่ตามมาให้กำลังน้องชายคนนี้
    • คุณ น.เมืองสรวง ขอบคุณมากครับที่ช่วยพูดเรื่องนี้นะครับ งานวิจัยคราวนี้คงได้รบกวนคนพื้นที่จริง ๆ เบื้องต้นนี้คงต้องดูว่าจิตรกรรมฝาผนังและคนในชุมชนมีอะไรสัมพันธ์กันบ้าง วัดบางแห่งทราบเบื้องต้นว่าโทรมมาก หากไม่ตีปี๊บ กรมศิลปากรอาจจะไม่ได้ยินนะครับ แต่ต้องขอดูจริง ๆ ก่อนเราคงได้ร่วมมือกัน
    • ขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้ง
    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท