วันนี้ดิฉันขอนำงานอดิเรกและความชอบส่วนตัวอย่างการดูหนังมาบอกเล่าผ่านรีวิวหนังฉบับบ้านๆ ให้ทุกคนได้อ่านกัน แม้ไม่มีพื้นฐานด้านภาพยนตร์ก็สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ โดยเริ่มจากหนังในดวงใจของปี 2019 กันเลย
1. Green Book
เป็นหนังที่ดีมากๆ คิดถูกมากที่เข้าไปดูในโรง เป็น 2 ชั่วโมงที่ได้อะไรเยอะ ทั้งฮาทั้งซึ้ง แต่มากที่สุดเลยมันคือความอุ่นในใจ
2. Girl
เป็นหนังที่เวลาดูแล้วเหมือนมีก้อนอะไรจุกอยู่ในอก มันเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ยากจะเข้าใจ ประทับใจในตัวนักแสดงมาก สื่อสารผ่านสายตา ท่าทาง ได้บีบคั้นหัวใจให้เรารับรู้ได้จริงๆว่าเขาเจ็บปวดมากขนาดไหน (ขอบคุณที่สร้างหนังดีๆขึ้นมาถึงจะไม่ได้โดดเด่นแต่ช่างมีคุณค่ามากมาย)
3. Beautiful Boy
เป็นเรื่องที่ร้องไห้ตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้รู้ว่าความรักของครอบครัวนั้นยิ่งใหญ่มากจริงๆ ตอนแรกก็คิดนะว่าจะตัดภาพลักษณ์เอลิโอออกไปได้ไหม แต่พอได้จมลึกเข้าไปในเรื่องคือลืมตรงนั้นไปเลย ทิโมธีเล่นดีมากถึงมากที่สุด เด็กน้อยผู้ใสซื่อบริสุทธิ์ใน Call me by your name คืออะไรไม่รู้จัก
4. Rocketman
ดีมาก กอไก่ล้านตัว ตัวหนังต้องเรียกว่าเป็น Musical ตัวละครคุยกันด้วยบทเพลงซึ่งเป็นอะไรที่เจ๋งดี หนังถ่ายทอดอารมณ์ในแต่ละฉากผ่านเพลงของ Elton John แบบลึกซึ้งน้ำตาซึม ส่วนตัวเคยฟังมาบ้างผ่านๆ แต่เรื่องนี้ใส่เพลงดังไว้จัดเต็ม พอดูจบต้องกลับมาโหลดเก็บไว้ฟังทั้งอัลบั้ม เพลงเพราะฟีลได้แถมยังเผยให้เห็นชีวิตเบื้องลึกเบื้องหลังของศิลปินที่ดังมากๆแต่ทำไมเขาไม่มีความสุข ข้อสงสัยนั้นถูกตอบผ่านหนังเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน และสุดท้ายฉันชอบในความเป็น LGBT ของหนัง แค่คุณรู้จักที่จะเป็นตัวเองคุณก็จะพบกับความสุข
5. John Wick 3
และสุดท้ายหนังเรื่องโปรดที่รอคอยมากที่สุดในปี 2019 อย่าง John Wick 3 หนังภาคต่อที่ทำออกมาได้ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ยกระดับความมันส์ให้ 10 เต็ม ดุระห่ำบ้าเกินใครไว้ใจมิสเตอร์วิค ภาคนี้พี่เขามาเหนือกว่าภาคก่อนจัดหนักจัดเต็มใส่หมดแม็ก นอกจากใช้ปืนสาดกระสุนอันเลือดพล่านแล้วยังได้โชว์ลีลากระบวนท่ามากมาย ถึงเนื้อเรื่องจะไม่มีอะไรมากตามสไตล์จอห์นวิค แต่ทุกฝีก้าวของพี่แกคือน่าติดตามจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ ตื่นเต้นใจสั่นลุ้นแบบสุดตัวบวกด้วยความสะใจเวลาจอห์นวิคกราดยิงไม่ยั้งมือ คอหนังแอคชั่นจะต้องประทับใจแน่นอน (ส่วนตัวไปดูมา 3 รอบ ให้คุ้มค่ากับการรอคอย)
ไม่มีความเห็น