ถ้าพูดถึงสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในจังวัดนราธิวาสต้องหนีไม่พ้นกับมัสยิดเก่าแก่ในจังหวัดที่มีทั้งความงดงามความอมตะรวมถึงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับตัวมัสยิดเอง
ผู้เขียนจึงได้เขียนประวัติย่อๆที่อยากจะให้ทุกท่านใด้สัมผัสกับความงดงามนี้และหากผู้อ่านมีโอกาศทำความรู้จักกับจังหวัดนราธิวาสทุกท่านจะไม่ลืมนึกถึงมัสยิดแห่งนี้แน่นอนค่ะ
มัสยิดวาดีลฮูเซ็น หรือ มัสยิดตะโละมาเนาะ (มัสยิด ๓๐๐ ปี) ตั้งอยู่บ้านตะโละมาเนาะ ตำบลลุโบะสาวอ นายวันฮูเซ็น อัส-ซานาวี ผู้อพยพมาจากบ้านสะนอยานยา จังหวัดปัตตานี เป็นผู้สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๑๖๗ เริ่มแรกสร้างหลังคามุงใบลาน
ต่อมาเปลี่ยนเป็นกระเบื้องดินเผา ลักษณะของมัสยิดมีความแตกต่างจากมัสยิดทั่วไป คือเป็นอาคาร ๒ หลังติดต่อกัน สร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลัง ลักษณะการสร้างจะใช้ไม้สลักแทนตะปู รูปทรงของอาคารเป็นแบบไทยพื้นเมืองประยุกต์เข้ากับศิลปะจีนและมลายู ส่วนเด่นที่สุดของอาคาร คือ เหนือหลังคาจะมีฐานมารองรับจั่วบนหลังคาอยู่ชั้นหนึ่ง ส่วนหออาซานมีลักษณะเป็นเก๋งจีน ตั้งอยู่บนหลังคา ส่วนหลัง ฝาเรือนใช้ไม้ทั้งแผ่นแล้วเจาะหน้าต่าง ช่องลมแกะเป็นลวดลาย ใบไม้ ดอกไม้สลับลายจีน ด้านข้างมัสยิดมีสุสานชาวมุสลิม ถ้าเป็นของผู้ชายหินที่ประดับอยู่บนหลุมฝังศพจะมีลักษณะกลม ถ้าเป็นของผู้หญิงจะเป็นหินเพียงซีกเดียว
ปัจจุบันมัสยิดแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานประกอบศาสนกิจ หากต้องการเข้าชมภายในต้องได้รับอนุญาตจากโต๊ะอิหม่ามประจำหมู่บ้าน โดยทั่วไปเข้าชมได้บริเวณภายนอกเท่านั้น
การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๒ นราธิวาส - บาเจาะ ระยะทาง ๒๕ กิโลเมตร แล้วแยกที่บ้านบือราแง
ไม่มีความเห็น