ของขวัญวันเกิดของฉันคือมด


ความทรงจำเล่าได้ แต่กลับไปไม่ได้

               สมมติว่าบนโลกนี้สิ่งที่ย้อนเวลาไม่ได้คือความทรงจำ แต่คุณสามารถที่จะจดจำเรื่องราวต่างๆได้ไม่ว่ามันจะนานแค่ไหน หากคุณได้ถูกกระตุ้นขึ้นมาเพียงรายละเอียดเล็กน้อยคุณก็จะสามารถเล่าเรื่องนั้นออกมาได้พอสมควร 

               บนใบหน้าของฉัน บริเวณหน้าผากมีรอยขีดยาวๆสีขาวแปะอยู่ รอยแผลนี้เองคือของขวัญชิ้นเล็กที่ความทรงจำของฉันมอบให้มา ย้อนวัยกลับไปตอนฉันอายุ 8 ขวบวันนั้นเป็นวันเกิดของฉันซึ่งตรงกับวันแต่งงานของคุณอาพอดิบพอดี ฉันตื่นมาตอนสายไม่พบใครเลยสักคนทั้งพ่อ แม่ และพี่สาว เพราะทุกคนล้วนแต่ไปงานแต่งงาน ฉันและชุดนอนที่กางเกงยาวเหยียดก็เดินลงบันไดเพื่อลงไปหาของว่างทานรอทุกคนกลับมา ด้วยความรวดเร็วฉันรีบเปิดตู้เย็นและสายตาสอดส่องของกินว่ามีอะไรที่น่ารับประทานบ้างนะ ก็กอบโกยขนมแสนอร่อยไว้ในอ้อมกอด เดินเตาะแตะ เพื่อไปจะนั่งรับประทานที่หน้าโทรทัศน์เพื่อดูการ์ตูนเรื่องโปรด แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ตัวฉันสะดุดล้ม ศีรษะกระแทกกับขอบบันได ตอนนั้นตัวฉันเองรู้สึกหมดแรง วิงเวียนศีรษะ มึนๆอึนๆ พร้อมยกมือขึ้นมากดศีรษะอัตโนมัติ ได้ในโชคร้ายย่อมมีความโชคดีอยู่ พ่อแม่ของฉันขับรถกลับมาพอดี ฉันเดินอย่างโซซัดโซเซไปเปิดประตู แม่เห็นฉันก็ตกใจว่าฉันเป็นอะไร ฉันบอกแม่ว่าปวดหัว สิ่งที่แม่ฉันเห็นจังหวะที่ฉันพูดนั้นคือ เลือด ที่ค่อยๆไหลลงมาจากหน้าผาก สายตาฉันเริ่มพล่ามัว มองไม่ค่อยจะชัดเท่าไหร่นัก แม่ทำตัวไม่ถูกตะโกนเรียกพ่อ ฉันโดนอุ้มขึ้นรถนอนตักแม่ โดยมีพ่อเป็นคนขับ พ่อขับรถอย่างรวดเร็วจนถึงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้มีบุรุษพยาบาลเข็นวีลแชร์มาให้ฉันนั่ง เขาเข็นไปจนถึงแผนกฉุกเฉิน และอุ้มฉันขึ้นเพราะตอนนั้นตัวฉันไม่ค่อยมีแรง แต่ปากของฉันยังพอมีแรงอยู่บ้าง จึงได้ถามพี่บุรุษพยาบาลไปว่า “พี่ๆเย็บนี้ มันเจ็บไหม” เขาตอบกลับพร้อมรอยยิ้มว่า “ไม่เจ็บครับ เหมือนมดกัด” ตอนนั้นเหมือนยกภูเขาออกจากอก จนคุณหมอชุดขาวมายืนอยู่ที่เตียงฉัน เขามากับพยาบาลสาวสวย พร้อมผ้าสีเขียวที่ปิดตาฉันไว้ เขาบอกเจ็บนิดนึงเหมือนมดกัด ฉันพูดในใจ สบายๆ หลังจากความคิดคิดนั้นฉันร้องจ๊ากออกมา เพราะมดที่เขาบอกนั้นกัดฉันเจ็บมาก มดตัวนั้นทิ้งรอยแผลขีดยาวไว้ที่หน้าผากของฉันไว้ในที่สุด บนใบหน้าของฉันมีผ้าก็อตแปะอยู่ที่แผลเพื่อไม่ให้โดนน้ำ มันยากลำบากมาที่จะไม่ให้โดน พ่อแม่ของฉันดูแลฉันอย่างดีช่วยเช็ดแผล สระผมให้ฉัน เวลาผ่านไปเมื่อแผลฉันหายดีหมอจึงตัดไหมดำที่อยู่บนหน้าผากของฉันตอนนั้นฉันรู้สึกกลัวว่ากรรไกรจะทิ่มแผลฉันมาก แต่อุบัติเหตุครั้งนี้ฉันก็ได้ฝ่าฝันมาได้อย่างดีเลยทีเดียว                  

               จากเหตุการณ์ที่เล่ามา สามารถสอดคล้องกับ PEOP Model ได้อย่างดี 

โดย P ตัวแรก คือ Person จากที่เล่ามามี 3 หัวข้อ

1.Physiological factor : อายุ 8ขวบ หัวแตก

2.Psychological factor : รู้สึกเจ็บ รู้สึกกลัว

3.Neurobehavioral factor : หมดแรง วิงเวียนศีรษะ มึนๆอึนๆ เดินโซซัดโซเซ สายตาพล่ามัว มองไม่ค่อยชัด 

      E ตัวที่สอง คือ Environment จากที่เล่ามี 3 หัวข้อ

1.Practical Support : การช่วยเหลือจากพ่อแม่ ได้แก่ การไปส่งโรงพยาบาล ช่วยสระผม ทำแผล จากบุรุษพยาบาล ได้แก่เข็นรถวีลแชร์ อุ้มขึ้น    บนเตียงพยาบาล จากคุณหมอ พยาบาล ได้แก่ การรักษา ทำแผล ตัดไหม

2.Emotional Support : การได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว รู้สึกได้รับการดูแลเป็นอย่างดี การปลอบประโลม

3.Built environment and technology : การดูโทรทัศน์ โรงพยาบาลเอกชนที่รักษา

      O ตัวที่สาม คือ Occupation จากที่เล่ามี 2 หัวข้อ

1.Activity : เดิน รับประทานอาหาร ดูโทรทัศน์ อุ้ม เช็ดแผล สระผม ขับรถ 

2.Role : บทบาทของฉันเป็นลูกขอบพ่อแม่ บทบาทของหมอ,พยาบาลและบุรุษพยาบาล คือดูแล รักษาผู้ป่วย ให้การบริการ 

      P ตัวที่สี่ คือ Performance จากที่เล่ามี 3 หัวข้อ

1.Independent : เดินลงบันไดเองได้ รับประทานอาหารเองได้ 

2.Independent with difficulty : เดินโซซัดโซเซ สระผม ทำแผลเช็ดแผล

3.Dependent : แบบ Moderate assistant : พ่ออุ้มขึ้นรถ พี่บุรุษพยาบาลเข็นวีลแชร์ให้ และอุ้มขึ้นเตียงพยาบาล                

              จากหัวข้อที่แจกแจงสามารถนำหลัก PEOP มาปรับใช้ให้ฉันได้ความรู้ ความเข้าใจให้ได้ผลงานออกมาได้อย่างดีเยี่ยมยอด

หมายเลขบันทึก: 666905เขียนเมื่อ 29 สิงหาคม 2019 16:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 สิงหาคม 2019 17:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เรื่องราวผูกโยงกันได้ดี มีกระบวนการคิดที่ดี

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท