มีตำนานกล่าวว่าพราหมณ์โกญฑัญญะ เดินทางจากอินเดียเข้ามาเผยแพร่ศาสนาในกัมพูชา และได้สมรสกับเจ้าหญิงขอม จนได้ปกครองบ้านเมืองและทำนุบำรุงศาสนาพราหมณ์ให้รุ่งเรืองสืบมา มีการสร้างสิ่งก่อสร้างในศาสนาพราหมณ์และฮินดู เช่น นครวัด นครธม เป็นต้น ครั้นขอมขยายอำนาจเหนืออาณาจักรไทย ทำให้ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูแพร่เข้ามาด้วย เห็นได้จากสิ่งก่อสร้างหลายแห่งในประเทศไทยที่มีลักษณะเป็นเทวาลัยและปรางค์ตามคติฮินดู เช่น ปราสาทเขาพระวิหาร ที่ศรีสะเกษ ปราสาทเขาพนมรุ้ง ที่บุรีรัมย์ ปราสาทหินพิมาย ที่นครราชสีมา พระปรางค์สามยอด จังหวัดลพบุรี เป็นต้น
แม้ว่าพระพุทธศาสนากับศาสนาพราหมณ์ในประเทศอินเดียจะมีความขัดแย้งกัน แต่ในประเทศไทยศาสนาทั้งสองผสมผสานกันได้ดี พระมหากษัตริย์ตั้งแต่สมัยสุโขทัยทรงชุบเลี้ยงพราหมณ์ไว้ในราชสำนัก เป็นผู้ถวายคำแนะนำในเรื่องเกี่ยวกับพิธีกรรมทางลัทธิพราหมณ์ เห็นได้จากพิธีการต่างๆของไทย มีทั้งพิธีสงฆ์ทางพุทธศาสนาและพิธีพราหมณ์ผสมผสานกัน พวกพราหมณ์จะได้รับการยอมรับในเรื่องการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เช่น พิธีทางศาสนา พิธีเสดาะห์เคราะห์ พิธีบูชาเทพเจ้า เป็นต้น ในสมัยสุโขทัยซึ่งมีพระพุทธศาสนาลัทธิเถรวาทเป็นศาสนาประจำชาติแล้ว ศาสนาพราหมณ์ก็เป็นที่นิยมร่วมด้วย
ในสมัยอยุธยาอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูปรากฏชัดในราชสำนัก ตามหลักฐานทางวรรณคดีชื่อ "โองการแช่งน้ำ" ซึ่งพราหมณ์แต่งขึ้นในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 เพื่อใช้ในพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา นอกจากนี้ยังมีหลักฐานทางโบราณสถานที่เรียกว่าเทวสถานและศาลพระกาฬ ในสมัยพระเจ้าปราสาททองให้รื้อเทวสถานพระอิศวร พระนารายณ์ ขึ้นมาตั้งยังชีกุน ในด้านการปกครองสมัยอยุธยา ก็ใช้หลักเทวราชาแบบเขมรซึ่งรับมาจากอินเดียต่อหนึ่ง
นอกจากนั้นศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ยังมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมไทยในด้านอื่นๆอีก เช่น ประเพณีโกนจุก มีทั้งพิธีสงฆ์และพิธีพราหมณ์ ประเพณีทำบุญอายุและทำขวัญ นอกจากทำบุญตามคติตามพุทธศาสนาแล้ว มักมีการบวงสรวงและทำบัตรพลีสังเวยเทวดาตามลัทธิศาสนาพราหทณ์อีกด้วย
พิธีบางอย่างเช่น พิธีพืชมงคลจรดพระนางคัล แต่เดิมมีแค่พิธีพราหมณ์อย่างเดียว ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดให้เพิ่มพิธีสงฆ์ตามคติพระพุทธศาสนาขึ้นอีก เรียกว่าพืชมงคล คือการทำขวัญพืช
ประเพณีไทยอีกหลายอย่างที่ได้รับอิทธิพลจากประเพณีของพราหมณ์ เช่น ประเพณีเผาศพของชาวอารยันและการเก็บเถ้ากระดูกใส่โกศติดตัวไปด้วยเวลาอพยพย้ายถิ่น โกศมีรูปทรงกระบอก มีหลังคาเป็นรูปฝาชี ไทยก็ได้รับอิทธิพลดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้พิธีบวชของชาวฮินดูก็คล้ายกับการบวชในพุทธศาสนา เช่น การนุ่งเหลืองห่มเหลือง การโกนศีรษะ และการสวดมนต์ ตลอดจนการบิณฑบาตและการไม่เกี่ยวข้องกับสตรีเพศ เป็นต้น ประเพณีไทยต่างๆก็สะท้อนอิทธิพลวัฒนธรรมของพราหมณ์ เช่น การสร้างศาลพระภูมิ การทำขวัญนาค การรดน้ำสังข์ พิธีวางศิลาฤกษ์ เป็นต้น
( ประมวลสรุปจากหนังสือพื้นฐานวัฒนธรรมไทย ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ. 2555)
ชอบมากได้เกร็ดความรู้ต่างๆมากมาย
ขอบคุณสำหรับสาระดีๆนะคะ