ใช่ครับ..ผมมีแต่งานใหญ่ๆ ตั้งแต่ปิดภาคเรียนมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเปิดภาคเรียนใหม่แล้ว..บางวันก็สงสัยครับว่าทำไม?..งานใหญ่..ต้องอยู่คู่โรงเรียนเล็กๆเสมอ..
ผมต่อว่าต่อขานตัวเอง..ว่าทำไมชอบสร้างงานนักหนา บางทีก็เหนื่อยจนหอบ แต่ไม่ได้เหนื่อยงาน ผมเหนื่อยกับตัวเองที่ต้องปฏิเสธตัวเองเสมอ..
ผมไม่ยอมรับหรอกนะ..ว่าผมสร้างงาน ..ผมใกล้เกษียณแล้วผมจะสร้างงานทำไม แต่ต้องทำเพราะงานเดินมาหาผม แล้วผมก็มองว่ามันเป็นหน้าที่
หน้าที่ที่ต้องทำ แล้วถ้าไม่ทำแล้วใครจะทำ..เมื่อต้องรับผิดชอบก็ไม่ต้องบ่น ยิ่งวางเฉยหรือบ่นมาก..วิกฤติ..จะตามมาอีกเยอะดังนั้นทำวิกฤติให้เป็นโอกาสดีกว่า
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ..ใกล้จะคลอด ผมต้องกลับไปเป็น”ครูใหญ่”..เปลี่ยนชื่อแล้ว..งานจะเล็กลงหรือน้อยลงหรือไม่?..ผมไม่แน่ใจ..
ตอนนี้..ยังเป็นผู้อำนวยการ ชื่อก็บอกแล้วว่าอำนวยการ..ทำงานให้ความสะดวกและคล่องตัวแก่ครูและนักเรียน เพื่อการเรียนการสอน
แต่ผมมีโอกาสได้ทำมากกว่าคนอื่น คือนอกจากอำนวยการแล้ว ยังต้องลงสู่ภาคสนามเพื่อลงมือปฏิบัติ และกำกับติดตามงานอย่างใกล้ชิด
ผมได้ยินเสียงอันไพเราะแว่วมาตามสายลม บอกผมว่าทำงานให้พอดี ระวังสุขภาพร่างกายด้วย..ผมนั่งลงแล้วถอนใจนิดนึง ตาเหม่อมองไปข้างหน้า..
ผมไม่รู้หรอกว่าผมจะพอดีได้แค่ไหน หรือทำให้รู้สึกว่าพอดีได้อย่างไร? แต่ผมรู้สึกดีทุกครั้ง..ที่มีใครเตือนผม มันเป็นกำลังใจที่ทำให้ผมมีสติ แล้วหยุดคิด..
อย่างน้อยก็รู้ตัวว่า สังขารไม่เหมือนเดิมแล้ว..ถ้าไม่ประมาณตน พอแก่ตัวไปอาจเป็นภาระแก่ลูกหลานได้..ฉุกคิดแบบนี้บ้าง..ก็ยังถือว่ามีสติรู้เนื้อรู้ตัว
ผมมองเห็นงานวิ่งไปวิ่งมา บางงานเริงร่าเพราะใกล้จะแล้วเสร็จ แต่บางงานก็ไม่คืบหน้า ผมมองนาฬิกาแล้วบอกเพื่อนร่วมงานหรือตัวผมเองว่ามืดค่ำแน่นอน..
ย้อนไปเมื่อตอนเช้า..รู้สึกตกใจ..ทำไมร่องน้ำที่ถูกขุดเพื่อนำดินมาถมเพื่อสร้างอาคารออมสิน..จึงตื้นเขิน..แล้วทำไมถนนด้านข้างอาคาร..หินคลุกจึงหายไป
เป็นไปได้ไหม ที่ฝนตกหนักๆติดต่อกันหลายวัน..จะทำให้เกิดภาพความเสียหาย ผมต้องไปดูเส้นทางน้ำ ที่โรงรถและสนามฟุตบอล..
ใช่เลย...โรงรถถูกน้ำเซาะจนเป็นร่องลึก สนามบอลมีเศษไม้และหญ้าแห้งกองเป็นหย่อมๆ ปลายทางคือสระน้ำโรงเรียน ที่มีน้ำเต็มเปี่ยมเร็วกว่าปกติ
น้ำมากและไหลมาแรงขนาดนี้..ต้องมีที่มาก่อนที่จะมีที่ไป ผมรีบเดินสำรวจอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็รู้แล้วว่าโรงเรียนเป็นที่ลุ่ม ไร่มันสำปะหลังข้างๆเป็นที่ดอน
ที่ดอนกว่า ๕๐ ไร่ รายล้อมโรงเรียน เป็นที่ดินที่สูงกว่า ผมก็แค่อยากเห็นน้ำไปไงมาไง เดินทางกันมาอย่างไร ระหว่างทางมีสิ่งใดเสียหายบ้าง..
ผมตกใจ..แทบไม่เชื่อสายตา ไร่มันสำปะหลังที่อยู่ติดโรงเรียน น้ำพัดแปลงดินหายไปกลายเป็นเส้นทางทรายกว้างกว่า ๓ เมตร ยาวกว่า ๒๐๐ เมตร
ผมไม่ต้องรู้ว่าน้ำมาจากไหน แต่น้ำมารวมตัวกันที่ร่องน้ำในแปลงมันสำปะหลัง แล้วไหลเร็วและแรงเต็มเหนี่ยว พุ่งเข้าสู่โรงเรียนในทิศทางเดียวกัน
ผมรีบวิ่งทันที..พอเจ้าของรถตักดินมาดูเพื่อวางแผนขุดสระรองรับน้ำหรือไม่ก็ทำคันดินกั้น แต่ฝันผมสลาย เขาไม่ยอมทำให้ เพราะกลัวรถติดหล่ม
ผมรีบอีกครั้ง..รถตักดินคันเล็กมา..เขาทำได้แต่ไม่อยากทำ เขาบอกว่าถ้าทำสามชั่วโมงก็ไม่เสร็จ ถ้าจะให้แล้วเสร็จต้องมีค่าใช้จ่ายมาก ผมบอกทำเลย ผมสู้
งานใหญ่กว่านี้ผมก็เจอมาแล้ว..งานนี้จะใหญ่ขนาดไหนเชียว? เริ่มต้นลงมือที่ ๑๐.๓๐ น. แล้วเสร็จห้าโมงเย็น งานที่เห็นทั้งใหญ่และยาว..เหมือนกำแพงเมือง
ต่อไปนี้..น้ำมาจะมามากขนาดไหน จะแรงสักปานใด พอเข้าสู่รั้วโรงเรียน จะไหลลงไปที่ร่องน้ำที่ถูกขุดเป็นร่องลึก มีคันสูงตลอดแนวผืนป่า ไล่ลงไปสู่ขอบสนามบอลเลาะไปเรื่อยๆจนถึงสระน้ำ แต่ก่อนถึงสระน้ำผมวางท่อใหญ่ให้น้ำวิ่งลอดถนน
งานใหญ่..ก็เสร็จได้ในวันเดียว..ขอบคุณคนขับรถตักดิน ขอบคุณผู้ปกครองที่มาช่วยคุมงาน ขอบคุณตัวเอง..ที่ไม่บ่นสักคำ ได้แต่กระซิบเบาๆว่าพอแล้ว กลับบ้านเถอะ..งานยังไงก็ไม่หมดหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มีอีก...
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๓ มิถุนายน ๒๕๖๒
ไม่มีความเห็น