สินค้าแบรนด์ "สินไทย" วิธีการแก้ปัญหาปากท้องของ "นายกฯเปรม" เมื่อ พ.ศ.2523

นับเป็นภาพจำที่ทำให้คนที่มีอายุเกือบ 50 ปีในวันนี้ ยังคงระลึก และนึกถึงวิธีการในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเมื่อครั้งที่ ฯพณฯ พลเอกเปรมเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี และได้นำพาประเทศฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจในช่วง พ.ศ.2523 จนผ่านพ้นได้ด้วยดี ซึ่งสะท้อนให้เห็นความสามารถ และความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือประชาชนในเรื่องปากท้อง จนทำให้หลายคนยังคงจดจำแบรนด์ "สินไทย" ได้ไม่ลืม

สินค้าแบรนด์ "สินไทย" 

วิธีการแก้ปัญหาปากท้องของ "นายกฯเปรม" เมื่อ พ.ศ.2523 

อรรถการ สัตยพาณิชย์

          หากย้อนเวลากลับไปเมื่อเกือบๆ 40 ปีที่แล้ว หลายคนที่เกิดทันในช่วงนั้นก็อาจจะยังคงจดจำเหตุการณ์เมื่อครั้งที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เพิ่งก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ไม่นาน แต่ต้องเผชิญกับปัญหาภาวะเงินเฟ้อ จนรัฐบาลต้องประกาศขึ้นราคาน้ำมันเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2523 และทำให้ผู้ผลิตสินค้าต่างพากันออกมาขอขึ้นราคาสินค้ากันทั่วหน้า จนสินค้าอุปโภคบริโภคมีการปรับราคาสูงขึ้น 

     ทางออกของรัฐบาลพลเอกเปรมที่ได้นำมาใช้ในการแก้ปัญหาในขณะนั้นก็คือ การให้พ่อค้าขึ้นราคาสินค้าได้ แต่ต้องทำให้ประชาชนยอมรับราคาที่ขยับขึ้น ขณะเดียวกันสิ่งที่รัฐบาลทำควบคู่กันก็คือ การผลิตสินค้าแบรนด์ใหม่ แต่ขายในราคาเดิม โดยให้ผู้ผลิตใช้วิธีลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง และเป็นที่มาของการผลิตและจำหน่ายสินค้าแบรนด์ "สินไทย" ขึ้น

             หน่วยงานที่ดูแลสินค้าแบรนด์ "สินไทย" ในขณะนั้นก็คือ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า แต่มอบให้บริษัทเอกชนเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย สินค้าที่ผลิตเพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชน ประกอบด้วย ผงซักฟอก สบู่ ยาสีฟัน แป้งเด็ก แปรงสีฟัน น้ำมันพืช น้ำมันก๊าด นมผงสำหรับทารก และปลากระป๋อง เกือบทั้งหมดจำหน่ายทั่วประเทศ ยกเว้นน้ำมันก๊าดที่ไม่ได้ผลิตและจำหน่ายในกรุงเทพฯ     

           วิธีการผลิตและจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ "สินไทย" ถือว่าเป็นการชะลอกการขึ้นราคาสินค้า ไม่ใช่การควบคุมราคาสินค้า เพราะสินค้า "สินไทย" เป็นแบรนด์หนึ่งที่อยู่ในตลาด และส่งผลให้สินค้าแบรนด์อื่นไม่สามารถขึ้นราคาสูงจนเกินไป ซึ่งเป็นผลดีต่อพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อยจะได้ซื้อสินค้าดี มีคุณภาพ ในราคาไม่แพง

ชื่อและเครื่องหมายการค้า "สินไทย"

            ชื่อ "สินไทย" มีความหมายโดยรวมว่า สินค้าของไทย ทรัพย์สินของไทย แค่ชื่อก็บ่งบอก และสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นชาตินิยม ส่วนเครื่องหมายการค้าก็มีความเชื่อมโยงกับชื่อ โดยใช้รูปเหรียญสตางค์แดงสมัยเก่ามาเป็นเครื่องหมาย และเพิ่มคำว่า "เครื่องหมายสินค้าคุณภาพของรัฐบาล" อยู่ในเหรียญนั้น เพื่อบอกให้ประชาชนรู้ว่าเป็นสินค้าที่รัฐบาลควบคุม กำกับให้การผลิตเป็นไปตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ส่วนฐานด้านล่างก็เป็นรูปโบว์ พร้อมกับมีคำว่า "สินไทย" อยู่ข้างใน 

               สีที่ใช้ก็มี 2 สีหลัก ได้แก่ สีแดงสด และน้ำเงินสด และเมื่อเครื่องหมายการค้าดังกล่าวปรากฎอยู่บนบรรจุภัณฑ์สีขาวก็จะโดดเด่น น่าซื้อ น่าใช้ และชวนให้จดจำ        

           สำหรับค่าใช้จ่ายในการผลิตและจำหน่ายสินค้า "สินไทย" นั้น บริษัทเอกชนที่เข้าร่วมโครงการจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง ทั้งค่าใช้จ่ายในการผลิต การจำหน่าย และการโฆษณา โดยทางการให้การสนับสนุนอยู่บ้างในด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ด้วยการขอความร่วมมือจากสถานีวิทยุและโทรทัศน์ตามเห็นสมควร ส่วนราคาจำหน่ายของสินค้า "สินไทย" จะต่ำกว่าแบรนด์อื่น และผู้ผลิตต้องจำหน่ายตามราคาที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความเห็นชอบ ในราคาเดียวกันทั่วประเทศ

สินค้าที่วางจำหน่ายและผู้เข้าร่วมโครงการ

           รายละเอียดของสินค้า "สินไทย" ที่วางจำหน่าย และผู้เข้าร่วมโครงการ มีข้อมูลที่น่าสนใจควรจดบันทึกไว้ก็คือ ผงซักฟอก และสบู่ ผลิตและวางตลาดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2523 ยาสีฟัน ผลิตและวางตลาดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2523 ผู้เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย บริษัทลีเวอร์บราเธอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทสหพัฒนพิบูล จำกัด

           แป้งเด็ก และแปรงสีฟัน ผลิตและวางตลาดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2523 ผู้เข้าร่วมโครงการคือ บริษัทท๊อปแอนด์ชัวร์ จำกัด น้ำมันพืช ผลิตและวางตลาดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2524 ผู้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงงานสบู่เซ่งไถ่ และบริษัทน้ำมันบริโภคไทย จำกัด น้ำมันก๊าด ผลิตและวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2525 ผู้เข้าร่วมโครงการคือ บริษัทในจังหวัดต่างๆ และร้านค้าตัวแทนที่จังหวัดแต่งตั้งขึ้น

          ปลากระป๋อง ผลิตและวางตลาดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2525 ผู้เข้าร่วมโครงการคือ บริษัทไทยโอเวอร์ซีฟูด จำกัด และนมผงทารก ผลิตและวางตลาดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2525 ผู้เข้าร่วมโครงการคือ บริษัทโอสถสภา (เต๊กเฮงหยู) จำกัด

            ส่วนราคาจำหน่ายขายปลีกสินค้า "สินไทย" เมื่อเปรียบเทียบกับราคาสินค้าประเภทเดียวกันของแบรนด์อื่นๆ จะถูกกว่าตั้งแต่ 6.70-111.27% ด้านการจัดจำหน่าย ผู้ผลิตและจำหน่ายที่เข้าร่วมโครงการจะเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้า "สินไทย" ทั่วประเทศเอง แต่รัฐบาลก็จะช่วยในการขอความร่วมมือจากบริษัทภายในจังหวัด ร้านค้าในการส่งเสริมของกรมการค้าภายใน และสหกรณ์ เป็นต้น

            ด้านการโฆษณาสินค้า "สินไทย" ในช่วงเปิดตัวโครงการก็มีบริษัทเอเยนซีโฆษณาคือ SSC and B Lintas รับทำโฆษณาให้บริษัทผู้เข้าร่วมโครงการ 3 ราย คือ บริษัทลีเวอร์บราเธอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทสหพัฒนพิบูล จำกัด โดยทั้ง 3 บริษัทรับภาระค่าใช้จ่ายในการโฆษณาร่วมกัน สื่อโฆษณาที่ใช้มีสื่อโทรทัศน์ และวิทยุ จัดทำเป็นสปอตทางโทรทัศน์ 30 วินาที ทางวิทยุ 15 วินาที และ 30 วินาที นอกจากนี้ก็มีการทำโปสเตอร์และสื่อโฆษณาอื่นๆ ไปติดตามร้านจำหน่ายสินค้า "สินไทย" อีกด้วย

          เนื้อหาที่นำมาถ่ายทอดในครั้งนี้เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี อดีตรัฐบุรุษ อดีตผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 16 ดำรงตำแหน่ง 3 สมัย ระหว่างปี 2523 ถึง 2531 ที่ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเช้าวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา 

          นับเป็นภาพจำที่ทำให้คนที่มีอายุเกือบ 50 ปีในวันนี้ ยังคงระลึก และนึกถึงวิธีการในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเมื่อครั้งที่ ฯพณฯ พลเอกเปรมเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี และได้นำพาประเทศฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจในช่วง พ.ศ.2523 จนผ่านพ้นได้ด้วยดี ซึ่งสะท้อนให้เห็นความสามารถ และความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือประชาชนในเรื่องปากท้อง จนทำให้หลายคนยังคงจดจำนายกฯเปรมในขณะนั้น และแบรนด์ "สินไทย" ได้ไม่ลืม.....

หมายเหตุ: ขอบคุณข้อมูลที่ใช้ในการสืบค้นจากวิทยานิพนธ์เรื่อง "ความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าสินไทยในเขตกรุงเทพมหานคร" ของคุณจิระภรณ์ ตันติชัยรัตนกูล ซึ่งทำให้ผู้เขียนได้ย้อนภาพความทรงจำเมื่อครั้งยังอายุได้ 11-12 ปี ได้ชัดเจนขึ้น