การวิพากษ์(Criticize) เป็นสิ่งที่มีประโยชน์
เพียงแต่เราต้องใช้มันอย่างถูกต้องและเหมาะสม
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตหรือเป็นผู้ชนะ
จะวิพากษ์แต่ตนเอง เพื่อหาโอกาสในการพัฒนา
แล้วปรับปรุงตนเองตลอดเวลา จึงทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
นอกจากนี้ การวิพากษ์ตนเองยังเป็นการย้ำเตือนตัวเขาว่า...
เขายังมีข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไขและไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
ซึ่งจะทำให้เขาเป็นคนเก่งที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนตลอดเวลา
รวมทั้งสามารถยอมรับข้อบกพร่องของผู้อื่นได้อย่างจริงใจ
เขาจึงเป็นที่รักและชื่นชมของทั้งผู้บริหารและทีมงาน
ทำให้ได้รับการสนับสนุนและได้รับความช่วยเหลืออย่างท่วมท้น
จนประสบความสำเร็จในทุกๆงานที่เขารับผิดชอบ
เขาจึงเป็นทั้งผู้ชนะและทำให้ทีมชนะไปด้วยกัน
ส่วนคนทั่วไป จะใส่ใจแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น
ทำตัวเป็น"ไทยมุง"หรือ"คนดู"ที่อยู่รอบนอกโดยไม่เข้าไปมีส่วนร่วม
วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความรู้สึก..
บ้างก็ด้วยความสุข บ้างก็ด้วยความเศร้า บ้างก็ด้วยความเคียดแค้นชิงชัง ฯลฯ
แต่ไม่เคยสนใจเหตุและผลที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นั้นๆขึ้นมา
และไม่เคยได้เรียนรู้อะไรจากสถานการณ์นั้นๆเลยแม้แต่น้อย
ชีวิตของเขาจึงยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ส่วนคนที่ล้มเหลวในชีวิตหรือผู้แพ้
จะวิพากษ์วิจารณ์แต่ผู้อื่น ตำหนิติเตียนผู้อื่นตลอดเวลา
โทษว่าเป็นความผิดของคนอื่นที่ทำให้เขาต้องล้มเหลวในชีวิต
วิพากษ์พ่อแม่และครอบครัว ว่าอบรมเลี้ยงดูเขามาไม่ดี
วิพากษ์ผู้บังคับบัญชา ว่าไม่มีความยุติธรรม ลำเอียงเข้าข้างคนอื่น
วิพากษ์เพื่อนร่วมงาน ว่าเอาเปรียบ ไม่มีน้ำใจ ไม่ให้ความช่วยเหลือ
วิพากษ์องคกร ว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพ ระบบล้าหลังไม่ทันสมัย
วิพากษ์คนทั้งโลกยกเว้นตัวเอง !!!
เขาจึงเห็นแต่ข้อบกพร่องของผู้อื่นตลอดเวลา
แต่ไม่เคยเห็นข้อบกพร่องของตนเองเลยแม้แต่น้อย
เขาจึงไม่คิดจะพัฒนาตนเอง ไม่คิดจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ชีวิตของเขาจึงเหมือนถอยหลังลงคลอง
สุดท้าย..แม้แต่สถานะปัจจุบัน ก็ยังไม่สามารถรักษาไว้ได้
คุณเป็นคนกลุ่มไหนครับ ?
นิวัฒน์ ลีวงศ์วัฒน์
18 กุมภาพันธ์ 2562
ไม่มีความเห็น