นับเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๑..ข่าวเกี่ยวกับ “ภัยธรรมชาติ” มีให้เรารับรู้รับทราบ..จากทุกภูมิภาคของโลก ฉุดคร่าชีวิตและทรัพย์สินของมวลมนุษยชาติเป็นจำนวนมาก..
ผู้เขียน..บันทึกไว้ไม่หมด จดจำแต่ข่าวใหญ่ที่รัฐบาลไทยมีน้ำใจเข้าไปช่วยเหลือประเทศที่ประสบภัยเหล่านั้น ทั้งงบประมาณ วัสดุอุปกรณ์และผู้เชี่ยวชาญ..
ทุกประเทศ..รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ หรือไกลออกไปในภูมิภาคอื่น ล้วนสร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้กับคนไทย..ที่ตระหนักแล้วว่า..ไม่มีอะไรแน่นอน..
เริ่มจาก..ฝนตกหนักจนเขื่อนที่ลาวแตก จนน้ำท่วมเมือง ลุกลามไปจนถึงประเทศใกล้เคียง จากนั้นก็มีข่าวแผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น..ที่หนักหนาสาหัสเหลือเกิน
บ่อยครั้ง..ที่ภูเขาไฟคุกรุ่นและระเบิดอออกมา ทั้งที่อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ได้รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน แต่รอยเลื่อนของภูเขาในประเทศไทย ก็ยังไว้วางใจไม่ได้
แต่ถ้าเกิดแผ่นดินไหวในชายแดนของพม่า จะส่งผลกระทบต่อไทย แทบจะทุกครั้ง หนักบ้างเบาบ้าง..ภาคเหนือของไทยจึงยังต้องห่วงใยกันในเรื่องนี้ แต่เท่าที่ผ่านมา แผ่นดินไทยยังไม่เคยมีแผ่นดินไหวที่รุนแรง..
เช่นเดียวกัน..ไทยไม่ค่อยจะประสบภัยธรรมชาติในด้านลมพายุ..แม้ว่าจะเกิดทุกปีแต่ก็จะอ่อนกำลังลงทุกครั้ง เมื่อเคลื่อนเข้าสู่ฝั่งไทย ส่งผลแค่เพียงลมกรรโชกแรง คลื่นสูง และฝนตกหนักแต่ไม่นาน
ล่าสุด..ที่ฮ่องกง..พายุที่จัดว่ารุนแรงชื่อ “มังคุด” หอบทั้งลมทั้งฝนกระหน่ำเกาะฮ่องกงเสียยับเยิน ร้านค้าและสถานที่ราชการสั่งหยุดงาน มีมาตรการป้องกันภัยไม่ให้ผู้คนออกจากบ้านเรือน จนกว่า..จะกลับสู่ภาวะปกติ
ข่าวภัยธรรมชาติทุกครั้ง..จนถึงครั้งหลังสุดที่ฮ่องกง..ทำให้ผมคิดถึงคำว่า “แผ่นดินธรรม แผ่นดิน “แหลมทอง”ของไทย ภารใต้ร่มพระบารมีขององค์พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์
คนไทย..ยังนับว่าอยู่เย็นเป็นสุขมากกว่าอีกหลายๆประเทศ ยังยิ้มได้ในสภาพความเป็นอยู่ที่ราบรื่นและเรียบร้อย..กับภาวะเศรษฐกิจที่ยังพอรับได้ ทำให้ตั้งอกตั้งใจประกอบอาชีพ ตามฐานะและหน้าที่ที่พึงกระทำ
ถึงแม้ว่า..เราจะเคยประสบปัญหา “น้ำท่วม” หนักมาแล้ว แต่ครั้งนั้น เราก็ผ่านมาได้ ด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทุกภาคส่วน พลิกฟื้นคืนมาจากการ “ฝันร้าย” อย่างรวดเร็ว และแทบจะไม่มีวี่แววว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นได้อีก..
ผมคิดว่า..การที่ภัยธรรมชาติลดลง หรือเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง..เป็นเพราะพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย
พระองค์ทรงศึกษาหาข้อมูลและเตรียมความพร้อมให้พสกนิกรชาวไทย ทั้งสถานที่เก็บกักน้ำ ในโครงการ “แก้มลิง” และป้องกันดินภูเขาพังทลายด้วยโครงการปลูก “หญ้าแฝก” ตลอดจนป้องกันภัยธรรมชาติจาก “ฝนแล้ง”ด้วยโครงการ “ฝนหลวง” เป็นต้น
ทรงแนะนำ..เรื่องการสื่อสารเกี่ยวกับพยากรณ์อากาศล่วงหน้า ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายรับทราบโดยเร็ว ด้วยเครื่องมือและแนวทางที่เป็นระบบ..ช่วยลดความวิตกกังวลให้คนไทยอย่างมากมาย..
พระบารมีของพระองค์ยาวนานถึง ๖๖ ปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม “องค์ความรู้” ที่ทรงใช้บำบัดทุกข์บำรุงสุขราษฎรนั้น ยังคงขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ภายใต้หน่วยงานในโครงการพระราชดำริ
จนถึงทุกวันนี้..พระบารมีแห่งองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ ๑๐ ที่คนไทยรวมพลัง "ทำความดีด้วยหัวใจ" สานต่อที่พ่อทำ..จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรมทำความดี ที่จะช่วยลดทุกข์ภัยจากธรรมชาติได้อย่างแน่นอน...
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๗ กันยายน ๒๕๖๑
อิทพลของ “มังคุด” ก็เผื่อแผ่มาถึงเมืองไทยนะเมืองสามอ่าว ฝนเริ่มตกแล้ว เมืองกาญจน์ ฯ เป็นไงบ้าง
” อิทธิพล” นะท่าน พิมพ์ผิดขออภัยจ้ะ