บทความในคอลัมน์The View เรื่อง The Pope’s True Power ในนิตยสาร Time ฉบับควบ วันที่ ๓ และ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๑ ประเทืองปัญญามาก ชี้ให้เห็น“อำนาจ” ที่แท้จริง ของพระสันตะปาปา
บทความเล่าเรื่องการปฏิรูปอำนาจการปกครองของคริสตศาสนจักรคาทอลิก ๒ ครั้ง
ครั้งแรก ปี ค.ศ. 1959 โป๊บ จอหน์ ที่ ๒๓ จัดการประชุมใหญ่ ที่เรียกกันว่า Vatican II ลงมติกระจายอำนาจให้แก่ บิช็อป ทั่วโลกให้ทำหน้าที่ผู้นำทางจิตวิญญาณ ให้เหมาะสมสอดคล้องกับบริบทในแต่ละท้องถิ่น
ครั้งที่สอง ค.ศ. 1978 โป๊บ จอห์น ปอล ที่ ๒ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจ กลับมาอยู่ที่โรม แต่งตั้งบิช็อป ตามความจงรักภักดีต่อโรม ไม่ใช่ตามความบริสุทธิ์ ปัญญา และจินตนาการ ที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์ท้องถิ่น
เรื่องอื้อฉาวด้านพฤติกรรมทางเพศของ บิช็อป ปะทุขึ้นในปี 2002 ในสหรัฐอเมริกา วงการคาทอลิกพยายามปกปิด และสื่อมวลชนถูกกล่าวหาว่ามีอคติต่อศาสนา
มีการกล่าวกันว่า ถึงคราวต้องปฏิรูปโครงสร้างของ governance ของศาสนจักรคาทอลิกอีกครั้ง โดยกล่าวถึงปัจจัยหลัก 3P : the press, prosecution, และ people เมื่ออ่านต่อไป ก็พบว่า P ตัวที่สี่ สำคัญที่สุด คือ Pope
Pope ควรทำหน้าที่ ผ่านการแสดงท่าที (gesture)และเชิงสัญลักษณ์(symbolism) มากกว่าผ่านการใช้อำนาจ(power) โดยตรง
ผู้เขียนบทความชื่อ Paul Elie (นักวิจัยอาวุโสBerkley Center for Religion, Peace, and World Affairs) เสนอความเห็นว่า ในเรื่องการประพฤติผิดทางกาม ของพระ ศาสนจักรไม่มีทางแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง ต้องใช้ 3P ซึ่งผมเติมให้เป็น 4P
เรื่องนี้ พุทธศาสนจักรน่าจะได้เอามาเป็นบทเรียน
วิจารณ์ พานิช
๑๕ ก.ย. ๖๑
บน TG 403 ไปสิงคโปร์
ไม่มีความเห็น