ความรู้ปฏิบัติคนเชื่อถือน้อย
ครุ่นคิดเรื่องนี้หลังจากพิจารณาการถูกทาบทามไปร่วมเป็นวิทยากรเพื่อแชร์ประสบการณ์การจัดการเรียนการสอน แต่ผู้จัดก็รู้สึกไม่มั่นใจเพราะตั้งคำถามอยู่สองสามครั้งว่า “อาจารย์จะสามารถทำได้ไหม” “อาจารย์สามารถที่จะอธิบายให้ผู้ที่เข้าฟังเข้าใจได้ไหม”... วนเวียนอยู่ในลักษณะนี้อยู่พักใหญ่ จากบทสนทนาต่อมาจึงได้ทราบว่า ท่านได้ทราบชื่อเสียงของเราจากการบอกต่อจากผู้คน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่มั่นใจ จึงอยากให้เราช่วยเขียนตอบคำถามสองสามคำถามพร้อมแนบประวัติ เพื่อนำไปสู่คณะกรรมการพิจารณาว่า “จะสามารถเป็นวิทยากรใน session ดังกล่าวได้หรือไม่”
สองวันนี้จึงพิจารณาในตนเองตามประเด็นดังนี้
ลักษณะการจัดประชุมเพื่อสำหรับอาจารย์ที่จัดการเรียนการสอนในระบบ ที่มีแพทเทิร์นเป็นไปตามหลักการและทฤษฎี ส่วนตัวเองนั้นอยู่ในหน่วยบริการ ไม่ได้มีอาชีพของการจัดการเรียนการสอน เพียงแต่อาศัยสถานการณ์ที่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องเมื่อถูกเชิญเป็นวิทยากรนำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาในสายการศึกษามาใช้ เรียนรู้ไปปฏิบัติปรับปรุงแก้ไขไปคล้ายลักษณะ “ครูเถื่อน” ที่ไม่มีสังกัด
ความรู้ไม่ว่าจะเป็น KM, TL, Active Learning หรือการจัดการเรียนสอนในศตวรรษที่ 21 จึงเป็นดั่งเหมือนมวยวัด ผู้เรียนคือคนที่มาเข้ากระบวนการเรียนรู้วิจัยซึ่งเป็นคนทำงาน เนื้อหาการเรียนการสอนใช้ R2R ไม่ได้ทำแผนการสอน รวมถึงการประเมินการเรียนการสอนไม่ได้มีการวัดผลลัพธ์ชัดเจน จึงใคร่ครวญและทบทวนในตนเองว่า อาจจะไม่เหมาะกับการที่จะส่งข้อมูลและประวัติเพื่อเข้าไปร่วม candidate ในครั้งนี้ เดี๋ยวจะเกิดความเสียหายในเชิงหลักการหรือทฤษฎีของการศึกษาประเทศไทยที่ดำเนินไปตามแบบแผน ส่วนตัวเองค่อนข้างเป็นคนไร้รูปแบบ อาศัยเจอโจทย์และสถานการณ์จริงก็ดำเนินการเรียนรู้ไปตามนั้น หรืออาจจะเรียนรู้แบบมวยวัดนั่นเอง
และเหตุผที่สำคัญที่สุดคือ ส่วนตัวไม่ชอบอะไรที่เป็นทางการมากนัก และไม่ชอบสิ่งที่เป็นแพทเทิร์นเพราะทำให้ตัวเองขาดความสุขในวิถีจึงขออนุญาตปฏิเสธ
#บันทึกความคิด
15-09-61
น่าสงสารมากๆสำหรับคนที่ยึดในกรอบ โดยเฉพาะผู้ประสานงานคนนั้น ความรู้ในกรอบใช้ไม่ได้กับทุกที่หรือทุกคน หากเราไม่เข้าใจและไม่ยอมรับในตัวตนของเราเอง แน่ใจหรือไม่ว่ากรอบที่ดีที่สุดในโลก จะใช้ได้กับเรา ตัวเองเป็นคนที่สอนนักศึกษาพยาบาลที่หน้างาน เคสแบบเดียวกัน ยังต้องแตกต่าง การประมวลเอาความรู้และประสบการณ์ที่มีมาสอนเด็ก ยังต้องเลือกเลยว่าเหมาะกับคนไข้ เหมาะสมกับนักศึกษาแต่ละคนหรือเปล่า น่าเสียดายจริงๆ..
น่าสงสารมากๆสำหรับคนที่ยึดในกรอบ โดยเฉพาะผู้ประสานงานคนนั้น ความรู้ในกรอบใช้ไม่ได้กับทุกที่หรือทุกคน หากเราไม่เข้าใจและไม่ยอมรับในตัวตนของเราเอง แน่ใจหรือไม่ว่ากรอบที่ดีที่สุดในโลก จะใช้ได้กับเรา ตัวเองเป็นคนที่สอนนักศึกษาพยาบาลที่หน้างาน เคสแบบเดียวกัน ยังต้องแตกต่าง การประมวลเอาความรู้และประสบการณ์ที่มีมาสอนเด็ก ยังต้องเลือกเลยว่าเหมาะกับคนไข้ เหมาะสมกับนักศึกษาแต่ละคนหรือเปล่า น่าเสียดายจริงๆ..
งั้น… ผมก็มวยวัด… แต่กลับภูมิใจลึกๆ นี่แหละสถานการณ์จริง….