เขารังเกียจ เดียดฉันท์ หยันเหยียบย่ำ
ว่าเรื่องการท่องจำ แสนต่ำค่า
เหมือนไม่รู้ จักคิดพิจารณา
เฝ้านินทา แนมเหน็บ ให้เจ็บสะดือ
โฆษณา ด่าประจาน ผ่านจอแจ้ว
หุ่นคนหัว นกแก้ว เรียนหนังสือ
พวกลูกน้อง นั้นหนอ ก็อออือ
ต่างยึดถือ ตามนาย ขยายความ
แต่ผมครู พิสูจน์ ขอพูดหน่อย
จะว่าพูดพล่อยพล่อย ก็ไม่ห้าม
ผมว่าการท่องจำไม่ต่ำทราม
แต่มีความ ดีงาม อร่ามใจ
เพลงพื้นบ้าน ท่องจำ ทำเป็นตับ
ศิษย์สดับ ท่องกลอนครู อยู่หลามไหล
แล้วหยิบกลอนท่องจำนำไปใช้
มุตโตแตก เมื่อได้ ประสบการณ์
พิธีกร โฆษก ยกภาษิต
ต้องสะกิด ท่องคำ นำไขขาน
จะด้นสด คงไม่ ทันใช้งาน
ผมขอค้าน ท่องจำ ไม่ต่ำจริง
สังคายนาไตรปิฎกยกบท
พุทธพจน์ คาถาท่อง ต้องแน่นิ่ง
พระสูตร พระวินัย ไม่ทอดทิ้ง
ล้วนเป็นสิ่ง ต้องท่อง ต้องจดจำ
อย่าดูถูก ท่องจำ ว่าต่ำต้อย
จนเด็กน้อย ด้อยวิชา ช่างน่าขำ
ทั้งสูตรคูณ อาขยาน คร้านท่องทำ
เมื่อต้องนำ ไปใช้ ไร้ข้อมูล
ท่องจำไม่ต่ำค่า แน่นอนครับ ถ้าไม่มีการท่องจำ ก็จะไม่มีพระไตรปิฎกเหลือมาจนถึงทุกวันนี้อย่างที่กล่าวไว้แล้วในกลอนของท่าน (ควรคำนึงถึงบริบทด้วยว่าสมัยนั้นการอ่านการเขียนยังไม่แพร่หลายการท่องจำจึงมีความสำคัญเป็นพิเศษ) อย่างไรก็ตาม แม้ทุกวันนี้นักเรียนส่วนใหญ่ก็เรียนรู้ด้วยการท่องจำ แม้แต่นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังในต่างประเทศก็ยังใช้การท่องจำเป็นหลัก (http://www.gotoknow.org/posts/647238) สมัยผมเป็นเด็กนักเรียน นอกจากจะท่องตามที่ครูสั่งแล้ว ผมยังท่องนอกกรอบอีกด้วย ที่จำได้ดีคือเรื่องท่องดิคชันนารี แต่บังเอิญโชคดีที่เจอครูดี (ที่ไม่เคยเห็นตัวจริง) แนะนำวิธีที่ดีกว่าให้ ดังเคยเล่าไว้แล้ว (http://www.gotoknow.org/posts/516895) แม้กระนั้นทุกวันนี้ผมก็ยังมีการใช้วิธีท่องจำอยู่นะครับ ล่าสุด 2-3 เดือนที่ผ่านมานี่เอง ผมหัดท่องโพชฌงคปริต ทุกคืนใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนจึงท่องได้ นานๆมีข้อสงสัยว่าอาจจำผิดก็ตรวจสอบเสียที เหตุที่ต้องใช้วิธีท่องจำเพราะเป็นบทสวดมนต์จำเป็นต้องเหมือนต้นฉบับทุกตัวไม่ให้ผิดเพี้ยน อย่างไรก็ตาม ผมยอมลงแรงขนาดนี้เพราะตั้งใจจะฝึกไว้สวดให้ตนเองฟังได้บ่อยๆเวลาเจ็บป่วย (เชื่อว่าใช้รักษาการเจ็บป่วยได้ อย่างน้อยก็ทำให้ได้สติ แล้วสิ่งดีๆอย่างอื่นก็จะตามมาเป็นชุด) ในระหว่างที่ไม่เจ็บป่วยก็ได้อาศัยใช้แทนยานอนหลับได้เป็นอย่างดี ข้อสังเกตจากการท่องบทสวดมนต์ของผมก็คือ ที่ผมจำบทสวดได้โดยไม่ลืม นั้นอาศัยการเข้าใจความหมาย และความเชื่อมโยงของเนื้อความแต่ละบทแต่ละตอน (ไม่ได้จำแบบนกแก้วนกขุนทอง) จึงทำให้ผมยิ่งเห็นความสำคัญของการเรียนรู้ด้วยการเข้าใจความหมาย (http://www.gotoknow.org/posts/598352) ที่ควรมาแทนที่การเรียนรู้ด้วยการท่องจำมากขึ้นเรื่อยๆ พูดอย่างเป็นธรรมก็น่าจะยอมรับได้ว่า ในความเป็นจริงเราต้องอาศัยทั้งการเรียนรู้แบบท่องจำและแบบทำความเข้าใจความหมาย เพียงแต่ต้องรู้ว่าน่าจะใช้แบบไหนในบริบทใดเพราะเหตุใด จากกลอนของท่านน่าจะสรุปได้ว่า การเรียนรู้จากการท่องจำสำคัญสำหรับเรื่อง เพลง กลอน ภาษิต พระไตรปิฎก (รวมถึงพุทธพจน์ คาถา) สูตรคูณ และอาขยาน ซึ่งในภาพรวมน่าจะได้แก่เรื่องที่ต้องถูกต้องทุกประการตามต้นฉบับ (ซึ่งผมก็เจอตัวอย่างจริงจากโพชฌงคปริตเข้าพอดี) จึงขอสรุปเพิ่มเติมเอาเองว่า สำหรับเรื่องอื่นๆการเรียนรู้ด้วยการการเข้าใจความหมายน่าจะจะง่ายสนุกและจำได้ดีมากกว่า พอฟังได้ไหมครับ
อำนาจ ศรีรัตนบัลล์10 กันยายน 2561
ขอขอบคุณคุณอำนาจ เป็นอย่างสูงที่กรุณามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนำประสบการณ์ล้ำค่ามาให้ได้เรียนรู้ศึกษากันครับ