หมอร่มบินตอนที่ 10 ( ตอนจบ )
............นายช่างป่าไม้,หมอสุเทพฯ และทุก ๆ คนที่นำคนเจ็บออกไปแอบหลบซ่อนตัวใต้พงหญ้าสูงห่างจากซากร่มบินพอสมควร ก่อนหน้านั้นได้ทันการ ต่างค่อย ๆ เผยตัวแหวกพงหญ้าออกมาด้วยความโล่งใจเมื่อเห็นเจ้ากระทิงวิ่งผละไป แม้พวกเขาจะเฉียดตาย แต่ก็ดีใจที่ช่วยคนเจ็บได้ทัน และ ดีใจที่ไม่ได้ฆ่ามันเจ้ากระทิงตัวนั้นด้วย แม้พวกเขาเกือบถูกมันฆ่าก่อนก็ตาม อย่างไรก็ตามป่าไม้ของเราเปิดเผยภายหลังว่า ได้ตัดสินใจจะยิงมันด้วยกระสุนไรเฟิลรอมร่ออยู่แล้วว่า หากมันพุ่งเข้าใส่ในนาทีที่พวกเขาจนตรอก ในพงหญ้า “ หมอสุเทพฯฝืนยิ้มนิด ๆ ยกหลังมือปาดเหงื่อบนหน้าผากไปมาอย่างไม่รู้จะทำอะไร ริมฝีปากสั่นริกหน้าขาวซีดเห็นได้ชัดแต่แล้วก็พ่นลมออกจากปากพรูใหญ่อย่างโล่งใจ ก่อนจะยกมือถือขึ้นพูดอย่างตื่นเต้น ตาไม่วายมองแต่ที่ตัวเครื่องร่มบินที่กำลังถูกไฟไหม้ควันดำโขมงเบื้องหน้า ด้วยความเสียดาย “ หมอร่มบิน ถึง ศูนย์ ฉุกเฉิน! ฉุกเฉิน! เครื่องถูกกระทิงขวิดเสียหาย ใช้การไม่ได้แล้ว แต่คนเจ็บปลอดภัย ขอเฮลิคอบเตอรกู้ภัยไปรับด่วน “. ศูนย์ ถึงหมอร่มบิน " มีเสียงครืดคราด จากการรบกวนทางคลื่นวิทยุแทรก ทำให้เสียงพูดติดต่อของทั้งสองฝ่ายหายไป ชั่วระยะหนึ่ง ก่อนจะมีเสียงตอบจากศูนย์ “ หมอร่มบิน, จากศูนย์ - รับทราบ เครื่องกู้ภัยกำลังไป “
---------------------------------------------
อ่านสนุกมากค่ะ และชอบคำว่า หมอร่มบิน ค่ะ เป็นคำที่แปลกดีค่ะ ไม่เคยได้ยิน เพิ่งได้ยินจากเรื่องเล่าของคุณลุงค่ะ ขอบคุณนะคะ