การใช้สารเคมีทำร้ายของกลุ่มเครือข่ายโรคจิตการเมือง

อาชญากรรมความเกลียดชังใช้สารเคมีเลียนแบบนาซี

บันทึกนี้ ต้องการถ่ายทอดเรื่องที่ประสบกับผมจริง (และครอบครัวบางคน) หลังจากที่เหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองเมื่อปี พ.ศ. 2554  มีกลุ่มคนที่ทำตัวเป็นมาเฟียการเมืองหัวรุนแรงติดตามผม และใช้สารเคมีโจมตีในหลายรูปแบบ  เนื่องจากผมเห็นว่าเรื่องนี้มีความสำคัญต่อการปฏิรูปประเทศจากการเมืองแบบอิทธิพลสมัยโบราณ  และมีประโยชน์ต่อบุคคลทั่วไปที่จะต้องระมัดระวังผลกระทบเมื่อใช้สิทธิแสดงออกทางการเมืองกลุ่มใด   การเมืองสำหรับคนบางคนเหมือนสิ่งเสพติดเช่น บอล มวย หรือยาเสพติด มันก่อความรุนแรงเมื่อแพ้หรือผิดหวังรุนแรง และการป้อนตรรกะป่วยๆให้คนกลุ่มนี้แล้วบอกว่าเป็นอุดมการณ์การเมืองนั้นต้องระวัง

ผมจะเปิดประเด็นไว้ก่อน แล้วค่อยๆเรียบเรียงเมื่อมีเวลาครับ เรื่องมันยาวนานและมีการทำร้ายทุกวัน เกือบตลอดเวลา และยากที่จะจับตัว

ประเด็นที่ 1 ทำไมถึงคิดว่าเกี่ยวข้องกับการเมือง

• การใช้สารเคมีทำร้ายเกิดตั้งแต่ การเข้าร่วมแสดงออกสนับสนุนการเมืองด้านหนึ่ง

ตั้งแต่นั้นมา มีการติดตาม  คุณขับรถไป จะรู้เลยว่ามีการติดตาม และรถที่ใช้ติดตามจะเป็นรถประเภทรถหรู  และส่วนใหญ่ป้ายแดง  บางครั้งมาหลายคัน  พอไปที่ปั้มน้ำมัน ถ้าสังเกตดีๆจะเห็น

• เข้าถึงบ้านพักที่กรุงเทพ

• เหตุการณ์เดียวกันเกิดกับบ้านพี่สาว ซึ่งพี่สาวไม่ได้เข้าร่วมหรือสนใจการเมือง  (และกำลังคิดว่า เกิดกับพี่สาวที่เสียชีวิตด้วย แต่ไม่สามารถหาหลักฐาน แต่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉุกคิด เช่น พี่สาวบ่นว่ามีกลิ่นสารเคมีเข้ามาในบ้านและต่อมาตรวจพบเอนไซม์ตับสูงเป็นพันกว่าหน่วยซึ่งสูงผิดปกติ  อีกคนหมอสงสัยว่ามาเป็นที่ปอดได้อย่างไร ….   ที่งานพิธีรำลึกพี่สาวที่วัด ทำไมชายฉกรรจ์สามคนเดินผ่านงานจ้องเขม็งมาที่ผม ทั้งๆที่ผมไม่รู้จักพวกเขาเลย )

ประเด็นที่ 2 การกระทำ มีอะไรบ้าง

การกระทำ ทำต่อเนื่องทุกที่ทุกเวลา เข้าใจว่าใช้เครือข่ายออนไลน์และมีแก๊งส์กระจายทั่วทุกที่ มีการส่งสัญญาณกันจากเริ่มออกเดินทาง

พวกนี้นอกจากจะคิดว่า การกระทำแบบนี้ไม่ผิด คือไม่มีความคิดผิดชอบชั่วดีในจิตใต้สำนึก ยังคิดว่าตนมีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือคนอื่น สามารถทำร้ายใครก็ได้ คือมีพวก มีอิทธิพล หรือทำเพราะคิดว่าไม่มีคนเห็น จับตัวไม่ได้

1. ที่หอพักมหาวิทยาลัยชั้น 3 มน.นิเวศ 6

ขณะอาบน้ำ

ทุกครั้ง ที่เข้าอาบน้ำ แปรงสีฟัน จะต้องกระแอม เหมือนมีเสลดติดคอทุกทีที่อาบน้ำ หรือเข้าส้วม  พยายามคิดว่าเป็นเรื่องทั่วไป นึกว่าทานอาหารประเภททอดมากเกินไป แต่พอทดลองเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ก็จับได้ว่า มาจากห้องน้ำ

ผมโพสต์เฟซให้เพื่อนๆและลูกศิษย์รู้ว่าเกิดประจำ ประมาณ 7 โมงเช้า (เวลาเจ็ดโมงเช้า รปภ.เปลี่ยนเวร ..

ตรงนี้ก็คิดแล้วว่า ต้องเป็นแก๊สหรือสารเคมี ที่ได้เข้ามาในห้องน้ำ

(เคยถามเพื่อนอาจารย์ที่อยู่ห้องติดกันถัดไป อาจารย์จะตอบว่า “ไม่มีเลยค่ะ” ด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข  อืม… แสดงว่าจำเพาะห้องผมห้องเดียวสินะ  มาคิดต่อว่าเป็นได้อย่างไร   ติดต่อผู้จัดการบอกว่าถ้าจะมีแก๊สออกมาจากท่อ นัดตอนเลิกงาน 5 โมงเย็นมาดูห้องน้ำ ไม่มีอะไรผิดปกติ อันนี้แสดงว่า ไม่ได้เกิดตลอด  เฉพาะเวลา —– จริงๆผู้จัดการบอกจะหาฝาครอบกันกลิ่นมาให้ ผมถามว่าต้องใช้ตังส์ไหม บอกว่าไม่ต้อง อืมขอบใจ ….แต่เขาไม่เคยเอามาให้ผม….)

ที่นี้ก็มาคิดต่อสิ ว่ามาจากไหน

ห้องน้ำที่นี่ ด้านหนึ่งจะมีบานกระจกใหญ่3-4บานวางเอียง เพื่อเปิดระบายอากาศออกไปที่ทางเดินข้างประตูเข้าห้อง  ดังนั้นทางที่เป็นไปได้ มี 3 ทาง  ที่บานกระจกนี้ ที่ท่อระบายน้ำทิ้งรวมทั้งท่อน้ำทิ้งจากซิ้งค์น้ำล้างหน้า หรือรั่วซึมจากท่อน้ำทิ้งที่อยู่บนฝ้า จากห้องตรงกัน ชั้น 4

จากการสังเกตอาการ คือจะเกิดเมื่อแปรงฟันหน้าอ่างล้างหน้า โกนหนวดล้างหน้า (ถ้าที่ล้างจาน คือระหว่างล้างจานตรงซิ้งค์ล้างจาน  ถ้าหากะละมังใส่น้ำ มาล้างที่อื่น แล้วนำไปเทที่ซิ้งค์จะไม่มีอาการ)  เป็นเมื่อยืนอาบน้ำ  ดังนั้นมาจากระบบท่อน้ำทิ้ง

ที่นี้มาคิดต่อ  ถ้ามาจากระบบบำบัดน้ำเสีย (ระบบบำบัดน้ำเสียของ มหาวิทยาลัย เริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้) น่าจะมีผลกระทบหลายห้อง สอบถามไม่มีใครบ่น (เขาไม่บ่น เพราะว่า กลัวถูกไล่ออกหรือเปล่า  ไม่ควรนะ ถ้ามีอะไรต้องเปิดเผยตรงไปตรงมา และวิเคราะห์หาสาเหตุ  หรือบางทีเป็นประเภทอยู่ห้องไม่นาน เพราะมีภาระกิจมากมาย เช่น เข้าเวร)

เมื่อไม่มีใครบ่น ก็อาจไม่ใช่จากระบบน้ำเสียสินะ  มันจำเพาะมากต่อห้องนี้

ดังนั้น ตามระบบท่อน้ำทิ้ง แก๊สและสารเคมี ก็น่าจะมาจากท่อด้านบน หรือท่อด้านล่าง ของห้องที่ตรงกัน (ทิ้งไว้แค่นี้ เพราะไม่มีหมายค้น)

…………………………..

ขณะนอนหลับ

หลายคืนที่นอนในแต่ละสัปดาห์ จะมีแก๊สและสารเคมีเข้ามาในห้องนอน

ขับรถจากที่พักไปคณะ

         อันนี้ สังเกต อยู่นานว่าเกิดจากอะไร

        ในที่สุด เห็น หยดสารเคมี  บนกระจกและตัวรถ  สัมพันธ์กับอาการเสมหะแน่น

หลังจากที่รู้ความสัมพันธ์ของหยดสารเคมี ออกสีเหลืองๆ บนตัวรถ ก็อาการทางเดินหายใจ ผมก็จับได้ว่าสารเคมีเหล่านี้มีผลต่อทางเดินหายใจ (ไม่ทราบว่าเป็นสารเคมีใด แต่อาจเป็นทางการเกษตร หรืออาจเป็นสารเคมีทางห้องปฏิบัติการวิจัย!!!!)ภาพที่ถ่ายไว้จะลงวันที่บันทึกตลอดดังนั้นสัปดาห์หนึ่งอาจพบ 2-3 วัน แต่ต่อเนื่องเป็นเดือน ภาพที่ลงในนี้เดือน มิ.ย. และ ก.ค.

ภาพเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ ทำให้คนที่อาจเป็นเป้าหมายอื่นของพวกโรคจิตการเมืองเหล่านี้ได้ สังเกตและป้องกัน

หาทางออกในการหนีพวกโรคจิตนี้ไม่ได้เลย คุยกับคนสนิทก็ไม่มีทางออก ผมดีใจที่ตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊ก บอกเลยนะเวลานั้นเวลานี้ เกิดอย่างนี้ บอกว่าอันนี้สามารถเกิดกับทุกคนได้ ทุกคนสามารถเป็นเป้าหมายของอาชญากรรมความเกลียดชัง (Hate crime) คนเหล่านี้เหมือนกิ้งก่าได้ทอง เมื่อมีอภิสิทธิ์หรือมีเงิน หรือมีตำแหน่งในสังคม กลับไปคิดว่าตนเองมีสิทธิ์ส่วนบุคคลเหนือกว่าและจะไปทำร้ายใครก็ได้   ก็ได้เพื่อนๆในเฟซที่รักกันจริงช่วยเหลือกดไลค์ กดแชร์  ลูกศิษย์บางคนก็ช่วยเหลือ  ขอบคุณจริงๆ

2. ที่พักคอนโดในกรุงเทพ

จากประสบการณ์ข้างต้น ผมบอกเลยว่า อันนี้เป็นฆาตรกรรมอำพรางที่แยบยลที่สุด  อาจจะมีใช้กันมานาน และรู้ในบางกลุ่มคน บุคคลสำคัญๆก็อาจจะถูกฆาตรกรรมโดยวิธีนี้ เช่น เกิดการแพ้รุนแรงจนเสียชีวิต   อยู่ๆร้องบอกว่าเขาหายใจไม่ออกจากนั้นเสียชีวิตดังที่เป็นข่าว 

นอกจากสารเคมีที่อัดพ่นเข้าระบบท่อน้ำทิ้งให้ระเหย อาจมีการใช้เชื้อโรคด้วย ดังนั้น อาจเกิดเช่น คนที่นำเข้าไปอยู่ในห้อง แล้วสัปดาห์หนึ่งเกิดการติดเชื้อในเลือด  ซึ่งจริงๆแล้วอาจเกิดโดยปกติได้ด้วย เช่นการมีเชื้อสะสมในเครื่องปรับอากาศ ถ้าเป็นเชื้อดื้อยายิ่งเป็นปัญหา

ระหว่างที่มีความขัดแย้ง บางครั้งก็ต้องระวัง ถ้าคนที่ขัดแย้งเป็นคนให้บริการสุขภาพ และใช้หน้าที่ในอุดมการณ์การเมือง  ระวังการฉีดสารอะไรเข้าร่างกาย สามารถไปสร้างแอนติบอดีต่อแอนติเจนที่พบบ่อยตามธรรมชาติ อาจเป็นอันตราย   

3. ตลาดร้อยปีสามชุก

4. ร้าน Strawberry Cup เขาค้อ  ชื่อนี้ตั้งใจเขียนให้เป็นแบบนี้ แต่เจ้าของ ลูกน้องที่ออกมาดูผมว่าอยู่ตรงไหน และ แก๊งมัน รู้ว่าหมายถึงพวกมัน  ก่อนออกจากที่นี่ ผมถ่ายรูปรถยนต์ที่มาจอดมาสมทบ และกระทำ

5. โรงแรมที่หาดมะนาว ประจวบ

6. งานวิ่ง

   1) วิ่งไข่บิน โดนทั้ง 2 ครั้ง สองปีซ้อน

      ครั้งแรก โดนขณะอาบน้ำ เตรียมตัวไป  (ครั้งนี้น่าจะฉีดจากบานกระจกระบายอากาศ)

     ครั้งที่สอง  ขณะถ่ายรูปกับ อาจารย์ที่คณะผู้ชายสองคน

   2) วิ่งมินิมาราธอน กระทรวงสาธารณสุข อันนี้เจอหนักมาก

7. ที่โบสถ์ทั้งกรุงเทพ และต่างจังหวัด

8. ซื้อตั๋วรถไฟใต้ดิน

9. ล้างรถปั้มเซลล์