วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๑ ผมไปคุยยุทธศาสตร์ที่มูลนิธิสยามกัมมาจลกับคุณเปา (ปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร) ผู้จัดการมูลนิธิ ในการหารือนอกรอบ เพื่อหาทางทำให้งานใหญ่สองงานเดินไปได้ ใน ๓ปีข้างหน้า
ด่านแรกคือคณะกรรมการ CSR ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่จะต้องพิจารณาอนุมัติภายใต้นโยบายว่ามูลนิธิสยามกัมมาจลทำงานพัฒนาเยาวชน เน้นที่การพัฒนานิสัยใจคอ หรือบุคลิก
โครงการแรก เป็นการขยายผลโครงการพัฒนาองค์กรระดับจังหวัดเพื่อพัฒนาเยาวชน activecitizen ร่วมกับองค์กรภาคี ต่อจากโครงการที่ดำเนินการมาแล้วในปี ๒๕๕๗ – ๒๕๖๐ โดยสนับสนุนร่วมกับ สสส. ดำเนินการใน ๔ จังหวัดคือ น่าน ศรีสะเกษ สมุทรสงคราม และสงขลา โดยโครงการขยายผลจะดำเนินการในปี ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ ดำเนินการใน ๙จังหวัดคือเพิ่ม เชียงใหม่ ตาก นครราชสีมา นครปฐม และสุราษฎร์ธานี สนับสนุนร่วมกันโดย สกว., สสส.,กองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และ SCBF โดยที่ SCBF ลงทุนนิดเดียวเพื่อดำเนินการด้านการเรียนรู้ของภาคีต่างๆ จากโครงการ
ผมเสนอแนะคุณเปาว่า ในแต่ละจังหวัดน่าจะเชื่อมเข้าสู่มหาวิทยาลัยและโรงเรียนด้วย ให้นักเรียนและนักศึกษาได้ทำกิจกรรม CCA อย่างที่เราไปเห็นที่สิงคโปร์(๑) เพื่อปลูกฝังจิตสาธารณะ รวมทั้งหาทางให้มหาวิทยาลัยในพื้นที่ ใช้เป็นลู่ทางเสาะหาเด็กที่มีจิตใจดีเห็นแก่ส่วนรวม และสมองดีพอสมควร เข้าเรียนในหมาวิทยาลัย
นอกจากนั้น ผมยังเสนอว่าการสื่อสารงานเพื่อส่วนรวมนั้น ต้องสื่อสารแบบมีมิติที่ลึกและจริงจัง ไม่ใช่สื่อแบบฉาบฉวยเพื่อความเด่นดัง คณะผู้สนับสนุนและดำเนินการโครงการพึงระมัดระวังเรื่องการสื่อสารกิจกรรมและผลงาน
โครงการที่ ๒ คือ พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ที่จังหวัดระยองและศรีสะเกษ (ทั้งจังหวัด) ดำเนินการในจังหวัดละ ๑๐๐ โรงเรียน ในปีแรก โครงการ ๓ ปี ดำเนินการและสนับสนุนโดยภาคี ๕ กลุ่ม ได้แก่กระทรวงศึกษาธิการ ภาคธุรกิจและชุมชนในพื้นที่ ภาควิชาการ (ทีดีอาร์ไอ โรงเรียนรุ่งอรุณ สถาบันอาศรมศิลป์) ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน empower การหัฒนาครู และแหล่งทุน (สกว. กองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ SCBF)
ผมให้ความเห็นว่าต้องระวังเรื่องการพัฒนาครู ต้องอย่าเน้นไปสอนครูหรือจับครูมารับการฝึกอบรม ต้องเน้นส่งเสริมการเรียนรู้ของครูจากการปฏิบัติในห้องเรียน เพื่อสร้างความมั่นใจและศักดิ์ศรีครู ผมเอ่ยถึงหนังสือ Enhancing Practice through Classroom Research: A teacher’s guide to professional development (2) ที่ครู ๔คนรวมตัวกันเรียนรู้จากการทำหน้าที่ครู และต่อมาใช้ในการทำวิจัยเพื่อวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก แล้วนำประสบการณ์ตรงของตนมาเขียนหนังสือเล่มนี้ สื่อให้เห็นคุณค่าและวิธีการของ การวิจัยชั้นเรียน ต่อพัฒนาการของความเป็นครู
พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาต้องเป็นพื้นที่เรียนรู้ของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และทุกคนในพื้นที่
ผมให้ความเห็นว่า จุดสำคัญที่สุดคือเด็กเล็ก ในปัจจุบันทั่วโลกมีแนวโน้มที่เด็กจะถูกบั่นทอนศักยภาพทางสมอง โดยความรักและความหวังดีผิดๆของผู้ใหญ่ตามบันทึกชุด พลังแห่งวัยเยาว์ (๓) และ (๔), (๕) ต้องหาทางส่งเสริมความเข้มแข็งของครูเด็กเล็กอย่างเป็นระบบ ให้ครูเด็กเล็กสมรรถนะสูงที่ได้รับการรับรองสมรรถนะ ได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าเงินเดือนเฉลี่ยของครูทั้งประเทศคือเดือนละ ๔๑,๐๐๐ บาท
วิจารณ์ พานิช
๑๔ มิ.ย. ๖๑
ไม่มีความเห็น