อัสมิตา ; ลมหายใจบำบัด
ในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ภูมิต้่านทานพื้นฐานโดยธรรมชาติของมนุษย์เป็นปรากฏการณ์ที่ซับซ้อนและยิ่งใหญ่ที่สุด
เป็นบ่อเกิดของศาสนาโบราณที่สร้างอารยธรรมความรุ่งเรืองให้กับมนุษย์ สังคมมนุษย์
จนเป็นประวัติศาสตร์อารยธรรมอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์อย่างต่อเนื่องนับแต่มนุษย์ได้ปรากฏตัวขึ้นมาบนโลก
ศาสนาโบราณที่เข้าถึงที่สุดของภูมิต้่านทานภายในของมนุษย์
จนได้เป็นเสาหลักของอารยธรรมสากลของมนุษยโลกเป็นศาสนาแรกและศาสนาเดียวในประวัติศาสตร์อารยธรรมของมนุษย์
คือพระพุทธศาสนา ได้ประกาศการค้นพบนี้มากว่า 2,500 ปีแล้ว...
ในศักยภาพแห่งภูมิต้่านทานภายในอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์
นักวิจัย คือนักปฏิบัติการโยคะชาวพุทธโบราณได้ค้นพบโอกาสของปรากฏการณ์การก่อตัวของอินทรียสาร
จากกระบวนการหายใจของตัวอ่อนที่ฟักตัวมาจากเซลล์สองตัวผสมกัน (กลละ-อัพพุทะ-เปสิ-ปัญจสาขา อยู่ใน "อินทกสูตร" สคาถวรรค สังนุตตนิกาย)
รูปแบบของการมีชีวิตของมนุษย์ เริ่มต้นด้วยระบบการหายใจเป็น ศูนย์กลางการพัฒนาตัวชีวิตก่อนระบบอื่นใดทั้งสิ้น
นักปราชญ์ชาวพุทธจึงกำหนดเอาการปรากฏของหัวใจเป็นจุดเริ่มต้นของตัวชีวิต
และการสิ้นสุดการทำงานของหัวใจเป็นที่สุดของชีวิตด้วย
จนเป็นที่มาของการอธิบายความตายว่า คือการ
"สิ้นใจ"
ในงานวิจัย นักปฏิบัติการโยคะชาวพุทธได้เห็นความมหัศจรรย์ของการควบคุมการก่อตัวของเนื้อเยื่อสร้างอวัยวะ
จากแรงไฟฟ้าเคมีชีวภาพที่เกิดจากลมหายใจเข้ามาบริหารจัดการอนุภาคในโมเลกุลของธาตุคาร์บอนซึ่งได้มาจากอาหาร
แรงไฟฟ้าเคมีชีวภาพ 1 หน่วยจากลมหายใจ สามารถเข้ามาจัดการแรงนิวเคลียร์ชนิดเข้ม 100 หน่วยของโมเลกุลธาตุคาร์บอนจนยืดตัว
เข้าไปเกาะติดกับธาตุไฮโดรเจน ออกซิเจน และไนโตรเจน
สังเคราะห์ตัวของมันขึ้นใหม่เป็นอินทรียสารสร้างเนื้อเยื่อให้เป็นอวัยสะมีหน้าที่ต่างๆกันตามที่ร่างกายมนุษย์ต้องเป็นไป ได้อย่างมหัศจรรย์
และพระพุทธเจ้า ได้ทรงเรียกปรากฏการณ์นี้ใน "ปฏิจจสมุปปาท"ว่า...
"วิญญาณเป็นปัจจัยให้เกิดนามรูป"
สรุปสั้นๆว่า...
"จิตสังเคราะห์กาย"
ซึ่งในโอกาสเดียวกัน ก็เกิดปรากฏการณ์ย้อนกลับด้วย เรียกว่า...
"นามรูปเป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ"
เป็นภาษาปัจจุบันว่า...
"กายสังเคราะห์จิต"
ทั้งสองปรากฏการณ์เป็นงานจากลมหายใจสร้างแรงไฟฟ้าควบคุมแรงนิวเคลียร์ ด้วยอัตราส่วน 1: 100 ทั้งคู่
เป็นที่มาของพลวัตเพื่อการอยู่รอด (Survival Dynamic) ที่มีระบบป้องกัน เรียกว่า "ภูมิคุ้มกันพื้นฐานตามธรรมชาติ" ของร่างกาย
ในต้นพระสูตรของ "อานาปานสติสูตร" จึงมีพระพุทธโอวาทตรัสรับรองไว้ว่า...
"ผู้ตั้งตนมีสติอยู่กับลมหายใจประจำกายย่อมไม่ลำบากตาย่อมไม่ลำบาก"
และสุขภาพอันแข็งแรงนี้ย่อมนำไปสู่การเป็นเสรีจากภาวะครอบงำทั้งปวง.
ความลึกซึ้งยิ่งใหญ่ของลมหายใจที่มาของภูมิคุ้มกันพื้นฐาน
มีโอกาสเชื่อมโยงไปยังกลุ่มอินทรียสารพื้นฐานของร่างกาย เป็นศัพท์เท็คนิคในภาษาสันสกฤตของพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทชื่อสรรวาสติวาท ว่า..
"ศรีรตันตรปัตราการนาฑี"(ShariratantrapatrakaraNadi) เป็นข่ายใยห่อหุ้มทั้งร่าง
"ศรีรตันตรปัตราการธมนี" (Shariratantrapatrakaradhamani) เป็นเส้นอากาสธาตุเหนี่ยวนำ หมายถึง "เส้นปธานสิบ"
***** ***** ***** *****
ภาพประกอบโพสต์ ;
ภาพที่ 1 ปอดที่มีโครงสร้างเป็นสมมาตรมีขวามีซ้าย
ภาพที่ 2 แสดง สูรยะกลา (SolarPlexus) และ จันทระกลา (LunarPlexus)
ของลมหายใจที่เป็นสมมาตรรองรับสมมาตรของปอดขวาซ้าย และไตขวาซ้าย ต่อมลูกหมากขวาซ้าย มดลูกขวาซ้่าย
และสมมาตรที่ไม่ปรากฏของหัวใจและตับ ซึ่งเป็นการค้นพบเฉพาะนักวิจัยในห้องปฏิบัติการโยคะฝ่ายพุทธเท่านั้น
ภาพที่ 3 ข่ายใยระบบน้ำเหลือง ที่ภาษาสันสกฤต เรียกว่า "ศรีรตันตรปัตราการนาฑี" ในภาษาบาลีคือ ดีไม่เป็นฝัก (อพัทธปิตตะ)
ที่มาของ การรู้สึกตัว...สัมปชัญญะ และระบบภูมิคุ้มกันธรรมชาติที่ห่อหุ้มสรีรร่างกายของมนุษย์
ภาพที่ 4 ถุงน้ำดี ที่ภาษาบาลีของพระพุทธศาสนาเรียกว่า ดีเป็นฝัก...พัทธปิตตะ ที่มาของ สติ... ทั้งพัทธปิตตะ และอพัทธปิตตะ
คือโครงสร้างสมมาตรของหัวใจและตับ การสูญเสียภาวะสมมาตร..
คือที่มาของ กำเริบ-หย่อน-พิการ ใน ตรีธาตุ (วาตะ-ปิตตะ-เสมหะ) ในวิชาการแพทย์แผนโบราณดั้งเดิมของไทย.
**** **** **** ****
คัดลอกมาจากบันทึก อ.อัตถนิชย์ โภคทรัพย์ ผู้ศึกษาค้นคว้าวิชามวยและแพทย์แผนไทย
ไม่มีความเห็น