เต่าเหลือง หลงทางเข้ามา ในวันฝนพรำ

           คืนนี้หลังฝนหยุดตกไปได้ไม่นาน   สุนัขที่เลี้ยงไว้ที่บ้านสวนก็เห่าเหมือนเห็นอะไรสักอย่าง   บ้านของดิฉันเป็นบ้านสวน  จึงต้องระมัดระวังความปลอดภัยจากสัตว์มีพิษทั้งหลายที่เข้ามาอยู่เป็นประจำ มีทั้ง งู  ตะขาบ  แมงป่อง  โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนแบบนี้ สัตว์มีพิษพวกนี้จะออกมามากเป็นพิเศษ  มีคนเคยบอกว่าสัตว์จำพวกนี้จะไม่ทำร้ายคน  ถ้าไม่ไปทำร้ายมันก่อน  แต่โดยสัญชาติญาณ ไม่อยากจะคิดอย่างนั้นเลย  กลัวค่ะ   การเลี้ยงสุนัขนี่ก็ดีอย่างนี้แหล่ะค่ะ นอกจากเป็นเพื่อนเล่นให้คลายเหงา ก็ยังเป็นยามคอยดูแลบ้านให้เราได้เป็นอย่างดีทีเดียว

           บ้านสวนของดิฉันเป็นบ้านแบบโบราณ บริเวณพื้นที่สวนจะติดกับพื้นที่่สวนของเพื่อนบ้าน  เมื่อไหร่ก็ตามที่มีต้นหญ้า วัชพืช และต้นไม้ต่าง ๆ รกรุงรัง ก็เป็นที่อยู่ของสัตว์มีพิษไปโดยปริยาย  และมันรวมพลังผสมพันธ์ุออกลูกออกหลานกันมากมาย  โดยเฉพาะสัตว์เลื้อยคลานประเภท งู  มีหลากหลายสายพันธ์ุ ก่อนหน้านี้ ในช่วงที่ดิฉันยังอยู่ในวัยเด็ก  แหม่!!!  ย้อนไปหลายปีหน่อยค่ะ  ซึ่งมีปริมาณไม่เยอะขนาดนี้

           ช่วงก่อนนั้นจะมีงูกะปะ เสียส่วนใหญ่ และมีจำนวนมาก  งูกะปะเป็นงูพิษที่พบมากทางภาคใต้ ใครโดนงูกะปะกัดจะมีผลต่อระบบโลหิต ในเบื้องต้น จะมีเลือดไหลไม่หยุดบริเวณที่โดนกัด อาจมีเลือดออกตามไรฟัน (ซึ่งไม่ใช่อาการของโรคในช่องปากตามปกติ)   บวม  บริเวณที่โดนงูกัด ต่อมาจะมีรอยสีม่วง ๆ เขียวคล้ำ เคยเห็นคนที่โดนงูกัดแถวบ้านน่ะค่ะ   แต่ในปัจจุบันดิฉันคิดว่างูน่าจะมีการพัฒนา โดยมีการผสมพันธ์ุข้ามสายพันธ์ุระหว่างงูพิษต่าง ๆ กันเอง  หรือระหว่างงูไม่มีพิษกับงูพิษ  จึงทำให้งูไม่มีพิษกลายเป็นลูกครึ่งที่ (น่าจะมีพิษ)    เอ!!!!  เข้าใจถูกต้องหรือเปล่า  แต่เชื่อว่ามีความน่าจะเป็นไปได้สูงทีเดียว     

           เอิ่ม!!! พูดถึงน้องงู ต่ออีกสักนิด...  ตอนนี้ที่บ้านสวนมีงูเห่าเยอะขึ้นกว่าเดิมมาก ซึ่งน่ากลัว และชวนขนหัวลุกอยู่ไม่น้อย

           ยิ่งคืนนี้ มีเสียงซวบ ๆ ของใบไม้แห้ง มีความเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต ประกอบกับเจ้าหมาที่บ้านเห่าอย่างเอาเป็นเอาตาย  จึงต้องรีบออกมาสำรวจกันให้รู้ไปว่าเป็นอะไร  ดิฉันตัดสินใจอย่างกล้าหาญ  คว้าไฟฉายคู่ใจ และเดินออกไปสาดแสงไฟส่องไปที่ต้นเหตุแห่งเสียงนั้นทันที

           อุต๊ะ !!!  งูเหลือม  งูเหลือมแน่ ๆ เลย  สีเหลือง ๆ คงตัวโตไม่ใช่เล่น  ขดตัวอยู่เป็นกองเลย  จิตเริ่มตก  เหงื่อแตก   ฉันจะทำอย่างไรต่อไป   ตั้งสติ   สติมาปัญญาเกิด    พอดีกับจังหวะที่ตัวเจ้าปัญหาขยับตัวเดิน    เห็นแล้ว....ปัดโธ่.. เต่านี่หว่า

           เต่าสีเหลืองตัวนี้  ตัวโตพอควรทีเดียว  จากการสังเกต  เต่าตัวแห้ง  บอกถึงการเดินทางมาทางบก ไม่ได้เดินทางมาทางน้ำแน่นอน  กระดองมีสีสรรสดใสสีเหลืองสวยงาม สลับกับสีดำเป็นกรอบเล็กแบบกระดองเต่า  หัวมีสีเหลือง  ขามีลักษณะกลม  มีเกล็ดที่ขา  ดูแข็งแรง  เดินได้ไว  ลำตัวยาวประมาณ 25 เซนติเมตร   ต่างจากเต่าที่เคยเห็นที่เป็นเต่านา  เต่าหับ   มีสีดำ  ตัวเล็ก    แต่เต่าตัวนี้มีสีเหลือง  ดูแปลกตาดีจริง   

           จากการค้นหาข้อมูลเรื่องเต่า ๆ ในกลูเกิ้ล ทราบข้อมูลมาว่า  เต่าตัวนี้มีลักษณะเหมือนเต่าเหลือง       
           เต่าเหลือง จะมีลักษณะ  หัวสีเหลือง  มีเกล็ด  เต่าเหลืองมีกระดองสีเหลือง และลายสีดำ  ขนาดกระดองยาวเต็มที่ประมาณ 30 เซนติเมตร  ขาจะเหมือนขาช้าง  ดูลักษณะแล้วเหมือนเต่าสีเหลืองตัวนี้จริง ๆ 
          มีคนเคยบอกว่า ถ้าเจอเต่าแล้วจะโชคดี  แต่เชื่อว่าคนที่โชคดีน่าจะเป็นเจ้าเต่าเหลืองตัวนี้เสียมากกว่า  ที่มาเจอดิฉัน  เพราะหลายคนนำเต่าไปเป็นอาหาร ทั้ง ๆ ที่เต่าเป็นสัตว์กำลังสูญพันธุ์  และมีกฎหมายคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า

         ก่อนจากกัน ยังไม่ลืมที่จะบอกเจ้าเต่าสีเหลืองตัวนี้ว่าให้เดินไปข้างหน้าจะมีแหล่งน้ำ  ให้ไปอย่างปลอดภัย    โชคดีนะ "เต่าเหลือง"

  

เต่าสีเหลือง  ความยาวขนาด 25 เซนติเมตร

           

           

[สุจิตรา]

ขอบคุณคุณยายธีคะ ที่ให้ดอกไม้เป็นกำลังใจ

[แผ่นดิน]

การหลงทาง ก็ด้วยพรมลิขิตผลักให้หลงทางครับ

ที่บ้านผมก็เลี้ยงเต่าญี่ปุ่นสามตัว บางวันปล่อยไว้ในห้องพัก หายไปวันสองวันก็ตามหา เหนื่อยก็เฉยๆ เดี๋ยวมันก็จะกลับมายังจุดที่คยกินอยู่ ฯ

[หยั่งราก ฝากใบ]

ส่วนตัวชอบเต่ามากค่ะ จนเมื่อครั้งยังเด็ก เพื่อนเรียกว่า “เต่า”เต่าเป็นสัตว์ที่สงบ เชื่องช้าใจดี อดทน ไม่วุ่นวาย ไม่ทำร้ายใครก่อนและข้อสำคัญเป็นสัญลักษณ์ของ… ความอดทนจนบรรลุผลในที่สุดค่ะ ^_^

[สุจิตรา]

ขอบคุณคุณแผ่นดิน และคุณหยั่งรากฝากใบมากคะ ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น.จริง ๆ พื้นที่ใดมีเต่าแสดงถึงยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่ แต่ในมุมมองกลับกันเต่าอาจหนีธรรมชาตที่เคยอยู่เพื่อความอยู่รอดก็เป็นไปได้ หลายครั้งเจอเต่าโดนรถชน บาดเจ็บหรือตาย น่าสงสารมากๆ