ผมโชคดีมีโอกาสไปเยี่ยม โรงเรียนพระดาบส.
ถือเป็นบุญของผมที่ได้ไปโรงเรียนฝึกอาชีพตามแนวพระราชดำริ.
เป็นโรงเรียนที่ฝึกคนให้มีฝีมือช่าง มีงานทำ ละมีธรรมะ.
ที่สำคัญคือ เรียนฟรี !
แถมยังมีที่อยู่ให้นักเรียน มีเสื้อผ้า และอาหารการกินครบ.
...สาธุ... โรงเรียนแบบนี้ก็มีในโลก
.
ผมนัดกับ ท่านผอ. สมยศ เจตน์เจริญรักษ์ ณ โรงเรียน ตรงเทเวศน์ตรงกันข้ามหอสมุดแห่งชาติพอดี
บรรยากาศเมื่อแรกเข้าไปสะอาดสะอ้าน ตึกสวยงามทันสมัย ท่านต้อนรับอย่างดี
ผมแอบสังเกตว่าแต่ละตึก มีชื่อของผู้สนับสนุนติดอยู่
พอท่านอธิบายว่า มูลนิธิพระดาบส มีรายได้จากการรับเงินบริจาค ผมก็เข้าใจทันที
และที่สำคัญคือ จุดเริ่มต้นตั้งโรงเรียน มาจากพระราชทรัพย์ของ รัชกาลที่ ๙ ครับ
.
เป็นโรงเรียนที่เป็นเอกเทศ มีหลักสูตรการสอนด้วยระบบของตัวเอง
โดยกลั่นกรองจากวิธีการของต่างประเทศ เช่น เยอรมัน อังกฤษ อเมริกา ญี่ปุ่น
และผสมผสานธรรมะ เข้ากับการเรียน การทำงาน
.
พอเดินผ่านนักเรียน พวกเขาก็ยกมือไหว้ทันที....
หลักสูตร 1 ปี รับอายุ 17-35 ปี รับได้ รุ่นละ 150 คน
ผู้เรียนจะต้องเรียนพื้นฐานการเป็นช่างก่อนครึ่งปี และฝึกความชำนาญอีกครึ่งปี
นอกจากวิชาช่าง เช่น ช่างไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างอิเล็คทรอนิคส์ ช่างซ่อมบำรุง ฯลฯ
ผู้เรียนฝึกความตรงเวลา ความอุตสาหะ การอยู่ร่วมกับผู้อื่น ซึ่งก็เป็นธรรมะในงานดังที่กล่าว
ผมชื่นชมกับระบบของที่นี่มากๆ ครับ
คือเรียนแล้วใช้ได้จริง ไม่เรียนแบบไม่รู้จะเอาไปทำอะไร เหมือนระบบการเรียนที่เราได้เรียนๆ กัน
.
โรงเรียนช่างและหอพักชาย จะอยู่ในท่าวาสุกรี จากโรงเรียนข้ามไปฝั่งข้างหอสมุดแห่งชาติ
ท่านผอ. ก็พาผมเดินชม ในแผนกต่างๆ
.
ผอ. เดินตรวจงานวนละหลายรอบครับ ...
เรียนจริง ทำจริง ทำไม่ได้ไม่ผ่านครับ...
.
เรื่องอาหาร มีการปลูกผักทานเอง อาหารก็มีเวรช่วยกันหุงหา
และก่อนรัประทานก็ปฏิญาณว่า ...
“อาหารนี้ สมเด็จพระเจ้าพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ข้าพเจ้า ขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะเป็นคนดี คิดดี พูดดี ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
เพื่อประกอบสัมมาอาชีพต่อไป และข้าพเจ้า จะขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ อดทน กตัญญู รู้หน้าที่ มีวินัย ไร้สิ่งเสพติด”
สาธุอีกครั้งครับ
.
แปลงปลูกผัก นักเรียนลงมือทำกันเอง...
.
สำหรับครูที่จะสอนที่นี่ ต้องทำเป็นจริงๆ ไม่ใช่สอนแค่เพียงทฤษฎี
ผอ. กล่าวว่า ต้องมาด้วยทั้งหัวใจ และฝีมือ
และ 2 เดือนก่อนจบ จะส่งนักเรียนไปฝึกงาน พร้อมทั้งติดตามผลงาน ความประพฤติด้วย
แน่นอนผู้จบแล้ว ย่อมมีประสิทธิภาพทำงานเป็นจริงๆ ครับ และมีคุณธรรมด้วย อันนี้สำคัญ
นี่คือ สิ่งที่สืบทอดมาจากพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ผมถึงบอกว่า เป็นบุญของผมจริงๆ
.
พอผมทราบว่า เย็นๆ หลังเลิกเรียน มีชมรมให้นักเรียนได้เข้าร่วม
เช่น ศิลปะ ดนตรีไทย ดนตรีสากล มวยไทย ยูโด ฯลฯ
ผมเสนอตัวเป็นจิตอาสาทันทีครับ ผมสอนศิลปะและสอนมวยไชยาได้
แน่นอน ผมต้องผ่านการพิสูจน์ก่อนว่า ทำเป็นจริงๆ และสอนได้จริง ในโอกาสต่อไป
.
นี่คือเรื่องราวบางส่วนของความดีที่เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทย
ที่เราควรช่วยกันเผยแพร่ และสนับสนุน
ผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมทำบุญ ก็ติดต่อ มูลนิธิพระดาบส โดยตรง ตามเบอร์โทรในรูปครับ
ขออนุโมทนากับความดีนี้ จากใจของอาจารย์คนหนึ่งครับ
...
นักเรียนช่างหญิงครับ...
ไม่มีความเห็น