เรื่องของหมู่บ้านกาลามะ


มีข่าวที่มีผลวิจัยบอกว่า ไม่ควรกินไข่เกินวันละ 2 ฟอง.

ไม่ได้ๆ คอเลสเตอรอลสูง ไขมันจะขึ้นนะจ้ะ...

แต่อีกข่าวบอกว่า กินเข้าไปเหอะ กิน(แดรก)เท่าไหร่ก็ได้ วิจัยแล้ว ไม่มีอันตราย.

ไข่แดงมีเลซิติน ลดคอเลสเตอรรอลได้


ข่าวหนึ่งบอกว่า กาแฟ ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 แก้ว.

แต่อีกข่าว(ดันทะลึ่ง)บอกว่าดื่มเยอะยิ่งดี วันละ 5-6 แก้วก็ยังได้ มีประโยชน์

บร๊ะ..!


ผมถามว่า เราจะเชื่อข่าวไหนครับ ??

แบบนี้งงไหมครับ มีผลวิจัยอ้างอิงทั้งนั้นเลย...

ทั้งน้ำมันพืช น้ำมันหมู ผักปลอดสาร ข้าวปลอม ไข่ปลอม ...ข้อมูลเต็มไปหมด

ยิ่งโลกยุคนี้เป็นยุคข่าวสารล้นเมือง แทนที่จะดี กลับยิ่งสับสนมากขึ้นนะ

ไม่รู้จะเชื่ออันไหนดีเลย (ว่ะ)...


เรื่องคล้ายๆ แบบนี้เคยเกิดแต่โบราณ เมื่อ 3,000 ปีก่อนนู้นแน่ะ

ในยุคพุทธกาล มีหมู่บ้านหนึ่ง ชื่อว่า กาลามะ

เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่เป็นทางผ่านไปสู่เมืองต่างๆ

ถ้าเปรียบกับปัจุบัน ก็น่าจะเหมือนโคราช เมืองที่เป็นประตูผ่านไปสู่จังหวัดอื่นๆ

จึงมีผู้สัญจรผ่านเยอะ และแน่นอนก็มีผู้รู้ ผ่านมาพักมากมาย

แต่ละท่านก็สอนไปอย่างหนึ่ง

เรื่องดีๆ ทั้งนั้น แต่สอนไปคนละทาง !

.

ชาวบ้านก็เริ่มสับสน ว่าจะเชื่อใครดี

จนกระทั่งทราบข่าวว่าพระพุทธเจ้าเสด็จผ่านมา

จึงทูลถามคำถามเด็ดว่า กระผมจะเชื่อคำสอนของท่านไหนดีขอรับ


พระพุทธเจ้าท่านทรงพระปรีชาหลักแหลม

ท่านตรัสสอนชาวกาลามะ ด้วยสัจธรรม ที่กลายเป็นบทอมตะ จนมาถึงทุกวันนี้

เราเรียกกันว่า ...กาลามสูตร

คงคุ้นกันแล้วใช่ไหมครับ


ท่านตรัสว่า "อย่ารีบปลงใจเชื่อ"

ตามที่ได้ยินมา

ตามตำรา

ตามคำบอกเล่า

ตามที่คิดตรึกตรองเอาเอง

ตามประเพณี

ฯลฯ

สุดท้ายท่านตรัสว่า ... นี่ๆ อย่ารีบเชื่อท่านนะ !!


พูดง่ายๆ  อย่ารีบเชื่ออะไรก่อนทั้งหมด

ไม่ว่าจะข้อมูลมาจากไหน หรือกระทั่งคิดเอาเอง

ให้ลองพิสูจน์ด้วยการกระทำ (หรือเห็นจริง)ก่อน

หากทำแล้วดี ความไม่ดีลดลง ชีวิตดีขึ้น

ก็ให้เชื่อตามสิ่งที่ได้พิสูจน์เองแล้ว


โอ้ย ตรงนี้ฝรั่งอึ้งครับ....!!

ศาสนาอะไรอ้ะ  ศาสดาบอกว่าอย่าพึ่งรีบเชื่อฉัน 

ให้เธอเชื่อตัวเอง เมื่อพิสูจน์ความจริง...!!

มีด้วยศาสนาที่สอนแบบนี้ ...ไม่ให้รีบเชื่อ แบบนี้ก็มีด้วย...

ฝรั่งเข้ามาศึกษาพุทธเยอะ เพราะสูตรบทนี้นะครับ


เป็นไงครับ นึกถึงกาลามสูตรได้นี่  หูตาสว่างเลยหรือเปล่าครับ

ลองนึกย้อนกลับไปว่า ที่เราได้รับข้อมูลอะไรก็ตาม

นี่เรารีบหลวมตัวเชื่ออะไรไปทันทีก่อนไตรตรองพิสูจน์หรือเปล่า ??

เผลอหลงไปเชื่อใครเป็นวักเป็นเวร โดยฟังความข้างเดียวหรือเปล่าเนี้ยะ !!??

.

เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ที่รีบตัดสินใจไวๆ ...จะได้ไม่ต้องคิดมาก

เวลามีใครบอกอะไรเรา โดยเฉพาะคนที่เราเชื่อ นับถือ หรือดูดี  เราก็เผลอใจ รีบเชื่อทันที...

จนลืมไปว่า เขาก็มีโอกาสที่จะให้ข้อมูลพลาดได้ จริงไหมล่ะครับ...

หรือเขาให้ข้อมูลถูกแล้ว แต่เราตีความผิดเองก็ยังได้ !!

หรือไม่ก็ยังมีโอกาส ที่คนพูดก็หาทางหลอกเรา เพื่อผลประโยชน์อะไรซักอย่างหนึ่งน่ะแหละ

.

ฟังแล้วก็มีสติยั้งจิต ไม่รีบปลงใจเชื่อ ก่อนจะพิสูจน์ความจริง

ไม่ว่าเรื่องอะไร ...ไปจนจะกินไข่ กินกาแฟ ไปจนกระทั่งฟังข่าวนินทาดารา ข่าวบ้านข่าวเมือง


โบราณก็ว่า ฟังหูไว้หู...

ได้ยินได้ฟังอะไร ก็ไม่ปฏิเสธนะ แต่ก็ไม่ปลงใจเชื่อจนหัวปัก  วางใจเป็นกลางๆ เอาไว้ก่อน  

50/50 ...หรือจะ 60/40 ...จะ  70/30 ก็ยังได้ ...แต่ไม่ 100/0

และขอเพิ่มเติมว่า  ไม่เอาใจเข้าไปเสพ(หรือเสรือก) กับเรื่องที่เราไม่ได้เกี่ยวอะไร ให้จิตมันติดลบเล่นๆ

นี่คือวิถีของคนมีสติ และมีปัญญารู้จักไตร่ตรองครับ

...กาลามสูตร..

หมายเลขบันทึก: 648004เขียนเมื่อ 9 มิถุนายน 2018 08:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2018 08:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท