ทางเลือกที่สาม (The 3rd Alternative) เป็นผลงานเล่มสุดท้ายของสุดยอดกูรูสำคัญระดับโลก Stephen R. Covey (1932-2012) เจ้าของผลงาน The 7 Habits of Highly Effective People ซึ่งมียอดจำหน่ายหลายล้านเล่ม ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสืออันดับหนึ่งด้านบริหารธุรกิจ ซึ่งมีอิทธิพลที่สุดในศตวรรษที่ยี่สิบ
ทางเลือกที่สาม
The 3rd Alternative
พันเอก มารวย ส่งทานินทร์
[email protected]
6 พฤษภาคม 2561
บทความเรื่อง ทางเลือกที่สาม (The 3rd Alternative) เป็นผลงานเล่มสุดท้ายของสุดยอดกูรูสำคัญระดับโลก Stephen R. Covey (1932-2012) เจ้าของผลงาน The 7 Habits of Highly Effective People ซึ่งมียอดจำหน่ายหลายล้านเล่ม ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสืออันดับหนึ่งด้านบริหารธุรกิจ ซึ่งมีอิทธิพลที่สุดในศตวรรษที่ยี่สิบ
ผู้ที่สนใจเอกสารนี้แบบ PowerPoint (PDF file) สามารถ Download ได้ที่ https://www.slideshare.net/maruay/3rd-alternative-96065974
เกี่ยวกับผู้ประพันธ์
-
Stephen Covey เป็นนักประพันธ์ นักการศึกษา และนักธุรกิจชาวอเมริกัน ที่นิตยสาร Time จัดให้เป็น "หนึ่งใน 25 ชาวอเมริกันที่มีอิทธิพลมากที่สุด" ในปี ค.ศ. 1996
- เขามีชื่อเสียงจากหนังสือเรื่อง "The 7 Habits of Highly Effective People" ซึ่งนิตยสาร Forbes จัดให้เป็น "หนึ่งใน 10 หนังสือทางธุรกิจที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์"
- และยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ได้รับการกล่าวถึง ได้แก่ "First Things First", "Principle-Centered Leadership" และ "The 8th Habit"
- หลังจากเกิดอุบัติเหตุการขี่จักรยาน Stephen Covey ได้เสียชีวิตในวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 2012 ตอนอายุ 79 ปี
เกริ่นนำ
- การติดอยู่ในความคิด "ต่อสู้หรือหลบหนี (fight or flight)" มีมาตั้งแต่สมัย Neanderthals แล้วจะมีทางออกอื่นหรือไม่?
-
Stephen Covey กล่าวว่า มีอีกทางเลือกหนึ่งให้เลือก คือ "ทางเลือกที่ 3 (The 3rd Alternative)" ซึ่งเป็นวิถีหนึ่งของชีวิต ที่สามารถช่วยคุณแก้ปัญหาที่ยากที่สุดในชีวิตได้
ทางเลือกที่ 3
- หนังสือ ทางเลือกที่ 3 ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 2011 และเป็นหนังสือเล่มสุดท้ายของ Stephen Covey
- "มีวิธีการแก้ปัญหาที่ยากที่สุดที่เราเผชิญ ที่แม้กระทั่งมองแล้วไม่สามารถจะแก้ปัญหาได้" เขาเขียน "เกือบทุกชีวิต มีเส้นทางวิกฤติที่ตัดผ่าน ในการเลือกหนทางที่มีความเสี่ยงและการแตกแยกที่ร้าวลึก แต่ก็ยังมีหนก้าวทางไปข้างหน้า ที่ไม่ใช่วิธีของคุณและไม่ใช่วิธีของฉัน แต่เป็นวิธีที่สูงกว่า เป็นวิธีที่ดีกว่าสิ่งที่เราเคยคิด ผมเรียกมันว่า ทางเลือกที่ 3 (the 3rd Alternative)"
การประนีประนอมและการผนึกพลัง
- ความขัดแย้งส่วนใหญ่มีสองฝ่าย ไม่มีความขัดแย้งใดที่ดี ไม่ใช่เพราะผิดทั้งคู่ แต่ตรงกันข้าม ทั้งสองฝ่ายอาจมีคุณธรรมก็ได้
-
การประนีประนอม (Compromising) ทำให้ทั้งสองฝ่ายสูญเสีย
-
การผนึกพลัง (Synergizing) คือทางเลือกที่ 3 ที่มีผลตรงกันข้าม เป็นสถานการณ์ที่ชนะด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพราะเป็นวิธีการที่สูงขึ้น เป็นการสังเคราะห์ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เป็นการประนีประนอมเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ปัญหาทางความคิดที่กว้างขึ้น ซึ่งตรงข้ามกับความต้องการของ "ฉัน" และ "คุณ"
เน้นชนะด้วยกัน
- ถ้าคุณจำได้เกี่ยวกับ การผนึกพลัง (synergize) เป็นอุปนิสัยที่หกของ Covey ที่มีใน 7 อุปนิสัยของคนที่มีประสิทธิภาพสูง
- ในความเป็นจริง "ทางเลือกที่ 3" เป็นรายละเอียดและพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับ "การพึ่งพาอาศัยกันและกัน (Interdependence)“ คือ การคิดแบบชนะด้วยกัน (think win-win) และ แสวงหาความเข้าใจเขา ก่อนที่จะให้เขาเข้าใจเรา (seek first to understand than to be understood)"
- การใช้การคิดใหม่ของ ทางเลือกที่ 3 คุณจำเป็นต้องเรียนรู้การใช้กระบวนทัศน์ในการคิดทั้งสี่แบบ
กระบวนทัศน์ในการคิดทั้งสี่แบบ:
-
กระบวนทัศน์ที่ 1: ฉันเห็นตัวเอง (I See Myself)
-
กระบวนทัศน์ที่ 2: ฉันเห็นคุณ (I See You)
-
กระบวนทัศน์ที่ 3: ฉันมองคุณออกแล้ว (I Seek You Out)
-
กระบวนทัศน์ที่ 4: ฉันผนึกพลังกับคุณ (I Synergize with You)
กระบวนทัศน์ที่ 1: ฉันเห็นตัวเอง
- นี่คือรากฐาน ของทุกกระบวนการคิดที่ถูกต้อง
- นั่นคือ การฝึกฝนศิลปะของกรีกโบราณในการ รู้จักตัวเอง (knowing thyself)
- เนื่องจากเมื่อคุณก้าวออกไปนอกเขตแดนของข้อจำกัดและอัตตาของคุณแล้ว คุณจะได้รับ "ชัยชนะส่วนตัว (private victory)" เล็กๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความต้องการของผู้อื่น และปัญหาที่ยังไม่มีทางแก้ที่เกิดขึ้นจริง
กระบวนทัศน์ที่ 2: ฉันเห็นคุณ
- ตอนนี้คุณเข้าใจเรื่องของคุณด้วยตัวเองแล้ว ลองทำแบบเดียวกันกับผู้ที่คุณขัดแย้งด้วย
- เป็นการ เอาใจเขามาใส่ใจเรา (Step outside your shoes and into the shoes of the other)
กระบวนทัศน์ที่ 3: ฉันมองคุณออกแล้ว
- นี่เป็นคำจำกัดความของ Covey ที่ชี้แจงถึงอุปนิสัย "แสวงหาความเข้าใจผู้อื่น ก่อนที่จะให้เขาเข้าใจเรา (seek first to understand than to be understood)" ซึ่งเขากล่าวว่า เป็นผลกระทบสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา จากอุปนิสัยทั้งเจ็ด (และต่อมามีแปดอุปนิสัย)
- เคล็ดลับง่ายๆ คือ อย่าหวังว่าคนอื่นจะเข้าใจคุณ ถ้าคุณไม่พยายามทำความเข้าใจกับพวกเขาก่อน
กระบวนทัศน์ที่ 4: ฉันผนึกพลังกับคุณ
- นี่คือขั้นตอนที่ยาวที่สุดและสำคัญที่สุด
- กระบวนการ 4 ขั้นตอนใน การผนึกพลัง (synergizing) คือ
-
1. ถามคำถาม ทางเลือกที่ 3 (Ask the 3rd Alternative Question)
-
2. กำหนดเกณฑ์ความสำเร็จ (Define Criteria of Success)
-
3. สร้างทางเลือกที่ 3 ที่หลากหลาย (Create 3rd Alternatives)
-
4. การผนึกพลังจริง (Arrive at Synergy)
ขั้นตอนที่ 1. ถามคำถาม ทางเลือกที่ 3
-
Covey กล่าวว่า นี่เป็นการปฏิวัติ เพราะไม่ได้ขอให้ทุกคนละทิ้งความคิดของเขา แต่เป็นการถามคนอื่นๆ เพื่อตรวจสอบว่าวิธีการของเขาดีที่สุดแล้วหรือไม่
- และคำถามก็คือ "คุณยินดีที่จะหาวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่าที่พวกเราทุกคนคิดขึ้นมาหรือไม่?" (Are you willing to go for a solution that is better than any of us have come up with yet?)
ขั้นตอนที่ 2. กำหนดเกณฑ์ความสำเร็จ
- ส่วนนี้จะเริ่มต้นด้วยคำถามว่า "สิ่งที่ดีกว่าจะมีลักษณะอย่างไร?"
- ความคิดนี้คืออะไร?
- เพื่อให้เกิดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในสิ่งที่จะตามมา เกณฑ์ที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายพอใจในการอภิปราย
ขั้นตอนที่ 3. สร้างทางเลือกที่ 3 ที่หลากหลาย
- ขั้นตอนนี้ คุณและคู่ของคุณ ปรับกระบวนการคิดแบบกลับหัวกลับหาง สร้างต้นแบบ มีการระดมความคิดใหม่ๆ และที่สำคัญที่สุดคือ ระงับการตัดสินถูกผิดไว้ชั่วครู่
- เคล็ดลับคืออะไร?
- ให้ทดลองกับความเป็นไปได้ที่สุดโต่ง
- เพราะอย่างน้อย นี่คือส่วนทั้งหมดที่เราคิดได้
ขั้นตอนที่ 4. ผนึกพลังจริง
- จากนี้เป็นเรื่องง่าย
- เนื่องจากบางส่วนของวิธีการแก้ปัญหาเหล่านี้ จะอยู่ใน ทางเลือกที่ 3 (ขั้นตอนที่ 3)
- เป็นการนำสิ่งที่ดีที่สุดจากทั้งสองขั้ว ที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความสุขและมีเนื้อหาสาระ
สรุป
-
ทางเลือกที่ 3 เป็นหนังสือเล่มสุดท้ายของ Stephen Covey ที่ตีพิมพ์ในปีการเสียชีวิตของเขา ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ผู้ชายที่ยิ่งใหญ่คนนี้สามารถให้ได้
-
หนังสือนี้ เป็นมากกว่าหนังสือทางธุรกิจ เนื่องจากมีการสอนและนำเสนอวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำ ที่เหนือกว่าขอบเขตการทำธุรกิจ โดยการครอบคลุมถึงผู้นำทางสังคม ผู้นำที่ไม่แสวงหาผลกำไร และผู้นำทางการเมือง
*************************************
บทเรียนจากกระบวนทัศน์ที่ 1: ฉันเห็นตัวเอง
- เรื่องราวของฉันคืออะไร? ฉันจำเป็นต้องเปลี่ยนบทบาทหรือไม่?
- 1. ฉันอาจมีจุดบอดเกี่ยวกับตัวเอง อะไรบ้าง?
- 2. วัฒนธรรมของฉัน มีอิทธิพลต่อความคิดของฉันอย่างไร?
- 3. อะไรคือเหตุผลที่แท้จริงของฉัน?
- 4. สมมติฐานของฉันถูกต้องหรือไม่?
- 5. มีอะไรบ้าง ที่ทำให้สมมติฐานของฉันไม่สมบูรณ์?
- 6. ฉันมีส่วนร่วมในผลลัพธ์ (ตอนจบเรื่อง) ที่ฉันต้องการหรือไม่?
บทเรียนจากกระบวนทัศน์ที่ 2: ฉันเห็นคุณ
- หลังจากนั้น คุณจะต้องเห็นคนอื่น หรือใช้ภาษิตเก่าแก่ของโรมันคือ ให้ฟังอีกด้านหนึ่งด้วย (hearing out the other side as well)
- เกี่ยวกับการมองคนอื่นว่าเป็นคน ไม่ใช่สิ่งต่างๆ
- หมายถึง ให้ดูผู้อื่นที่เป็นจริง ไม่เกี่ยวกับอายุ เพศ สัญชาติ ศาสนา แนวรสนิยมทางเพศ ที่มีอิทธิพลต่อคุณในการมองเขา
บทเรียนจากกระบวนทัศน์ที่ 3: ฉันมองคุณออกแล้ว
-
"ฉันมองคุณออกแล้ว (I seek you out)" เป็นการนำทัศนคติคือ "คุณไม่เห็นด้วย? ฉันจะฟังคุณ (You disagree? I need to listen to you.)"
- ตรงข้ามกับ "ฉันปกป้องตนเองจากคุณ (I defend myself against you.)"
- ในสายตาของคนที่ใช้กระบวนทัศน์การคิดข้อที่ 3 นี้ ความขัดแย้งไม่ได้เป็นปัญหา แต่เป็นโอกาส
บทเรียนจากกระบวนทัศน์ที่ 4: ฉันผนึกพลังกับคุณ
- คุณเริ่มต้นด้วยการถามทางเลือก: "คุณยินดีที่จะแก้ปัญหาที่ดีกว่าวิธีใดๆ ที่พวกเรามีหรือไม่?"
- จากนั้น คุณจะกำหนดเกณฑ์ที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความสุข
- หลังจากนั้น คุณจะระดมความคิดการแก้ปัญหาทุกด้าน และตรวจสอบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
- ในที่สุด คุณผนึกพลังร่วมกันได้ นั่นคือ คุณมาถึงทางออกที่เหนือกว่าความประนีประนอมและใช้เวทีกลาง
-
เป็นวิธีที่สูงกว่า คือ "วิธีของเรา" (The higher way. The "our" way.)
*********************************************