ต้องสัมผัสเอง...


เมื่อก่อนเวลาผมไปเที่ยวไหน ผมก็ตั้งใจว่า จะไปเพื่อได้อะไร...
ได้ความสนุก เพลิดเพลิน ได้ความสุข...
คือ ก่อนจะไปก็ต้องคิดแล้วว่า ไปแล้วจะได้อะไรบ้าง...
ถ้าคิดว่าไปแล้วไม่สนุก เราก็คงไม่ไปละ...
พอโตขึ้น ก็เพิ่มเติมความคิดเข้าไปอีกว่า...
ถ้าไปแล้วไม่ได้ผลประโยชน์อะไรก็ไม่ไปหรอก เสียเวลา
.
แต่เมื่อเติบโตทางจิตวิญญาณมากขึ้น...
รู้สึกถึงความจริงที่ว่า มนุษย์เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย.
สิ่งที่เพิ่มเติมมาอีกหนึ่งความคิด คือ..
เมื่อเราไปที่ไหน ...เรามีอะไรไปแบ่งปันให้เขาบ้าง 
มิใช่จะไปเพื่อหาประโยชน์ของตัวเองอย่างเดียว
แล้วคนที่ได้มาพบเรา แทนที่จะคิดว่า เราจะได้อะไรจากเขา
กลับคิดใหม่ว่า เขาเจอเราแล้ว จะต้องมีความสุข หรือได้อะไรจากเราไปบ้าง

มันคือการตระหนักในความเมตาซึ่งกันและกันครับ
.
โอเค ...การไปเที่ยว ก็เพื่อ “เอาความสุขมาใส่ตัว”
แต่การไปเข้าสังคม ก็เพื่อ “เอาความสุขไปฝากคนอื่น”
.
ผมพบว่า การมีทัศนคติ ตั้งต้นความคิดแบบนี้ มีความสุขครับ
มีความสุขมากกว่าไปเที่ยวอีก
เชื่อเถิดครับ การให้ มีค่ามากกว่าการรับ
ผมสนับสนุนให้เริ่มคิดแบบนี้กันนะครับ
ปรับความคิดใหม่ ....เพิ่มการให้ ให้มากขึ้นๆ
จนกว่าจะประสบกับตัวเอง จะทราบได้ว่า การให้ มีคุณค่าแค่ไหน
ต้องสัมผัสเอง เรียกว่า เป็นปัจจัตตังครับ

.

หมายเลขบันทึก: 646895เขียนเมื่อ 2 พฤษภาคม 2018 13:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม 2018 13:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท