บังกาปู ( ตอนที่ 11 ........ บอกข้าฯว่าหากเงินเหลือให้นำไปซื้อลอตเตอรี่อาจมีโชคถูกรางวัลที่ 1 มีเงินมีทองกับเขาบ้างจะได้ไม่ต้องมาเดินขายถั่วอีกต่อไป ข้าฯจึงนำเงินที่เหลือจากค่ารถกลับบ้านไปซื้อลอตเตอรี่ ตามที่เขาบอก ปรากฏว่า ถูกรางวัลที่ 1 ได้เงินหลายแสนบาท ข้าฯสำนึกบุญคุณชายไทยคนนั้นมาก จึง ตั้งใจจะแบ่งเงินจากการถูกลอตเตอรี่ ให้เขาบ้างเป็นการตอบแทน แต่เมื่อข้าฯไปที่บ้านเขา พบว่าเขาไปดูงานที่ต่างประเทศ จึงไม่พบเขา ข้าฯอยากให้เงินเขากับมือจึงไม่ได้ให้ใครไว้ ข้าฯจึงกลับ แต่ก็ยังตั้งใจจะมอบให้ เขาตลอดเวลา หากได้พบเขาอีกไม่ว่าเวลาจะนานเท่าไหร่ก็ตาม ต่อมาข้าฯ เดินทาง กลับมาบ้าน ไปเยี่ยมเจ้าของบ่อพลอยที่ข้าฯเคยทำงานด้วย เจ้าของบ่อพลอยอายุมากแล้ว เสนอขายบ่อพลอยให้ข้าฯ ในราคาถูกมากแต่ต้องภายในวันนั้น เงินของข้าฯมีไม่พอ แต่ถ้าเอาเงินส่วนที่เก็บไว้จะให้ชายไทยผู้นั้นมาสมทบก็จะพอพอดี จึงเอาเงินที่เก็บไว้จะให้เขาตนนั้น มาสมทบจึงทำให้ข้าฯมีเงินพอซื้อบ่อพลอยนี้ได้ทันเวลา ข้าฯตั้งปณิธานว่าจะต้องแบ่งกำไรให้เขาผู้นั้นทุกครั้งที่กิจดารมีกำไร เมื่อได้บ่อพลอยมาทำเอง ต่อมา ข้าฯแต่งงานกับลูกสาวเจ้าของบ่อพลอยที่รักกันมานานแล้ว ข้าฯก็ยังสำนึกเสมอว่าที่มีเงินซื้อบ่อพลอยทันเวลาและได้แต่งงานก็เพราะเงินส่วนที่ข้าฯจะแบ่งให้เขา จึงบอกให้ภรรยาทราบด้วย ภรรยาข้าฯไม่ขัดข้อง เรา แบ่งกำไรครึ่งหนึ่งให้เขาตลอดมา จนเมื่อข้าฯอายุมากขึ้น ยังไม่ได้พบเขา ข้าจึงเขียนหนังสือนี้สั่งลูกหลานให้ติดตามหาขายไทยคนนั้นให้พบให้ได้โดยให้ดูสร้อยข้อมือที่ข้าฯไส่ให้เขาเป็นหลักฐานกับสั่นกระดิ่งที่ห้อยกับสร้อย ฟังเสียงว่าตรงกันกับเสียงที่ข้าฯบันทึกไว้เป็นตัวอย่างในเทปที่แนบหรือไม่ ทั้งสองอย่างต้องตรงกันหากพบและพิสูจน์ทุกอย่างตรงกับที่ข้าฯเขียนแล้วให้มอบเงินส่วนที่ข้าฯเก็บไว้ให้เขาไปเลย แต่ข้าฯยังไม่ตายสักที หลังจากอ่านข้อความในสมุดนั้นจบ เขาก็เอาแผ่นซีดี ที่แนบอยู่ออกมาชูขึ้นมองแล้วบอกให้ลูกสาวที่เข้ามาร่วมฟังด้วยไปเอาเครื่องเล่นแผ่นซีดีมาเปิดฟังเสียงกระดิ่ง ที่บันทึกไว้ เทียบกับเสียงกระดิ่งที่สร้อยข้อมือผม........( โปรดรออ่านต่อต่อนที่ 12 ในตอนต่อไป )
ไม่มีความเห็น