วันนี้..จัดโรงอาหารของโรงเรียนให้เข้าที่เข้าทาง หลังจากใช้โรงอาหารเป็นที่ประชุมผู้ปกครองเมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการจัดการเรียนการสอน..
อันที่จริงต้องเรียกว่า อาคารอเนกประสงค์..เพราะเป็นทุกอย่างของโรงเรียน ใช้จัดอบรมสัมมนาก็ได้ และใช้เป็นหน่วยออกเสียงเลือกตั้ง ในทุกครั้งที่ผ่านมา
นับวัน..โรงอาหารจะคับแคบไปเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากปริมาณนักเรียนเพิ่มมากขึ้นทุกปี ผมกำลังมองว่า..ปีหน้าจะขยับขยายอย่างไร? ให้กว้างขวางมากกว่านี้..
เดิมทีเดียวไม่ได้เป็นแบบนี้ ใช้หลังคามุงกระเบื้องเก่าๆและใช้โครงไม้ ไม่มีเวที ผมอยู่ได้ ๔ ปี..พายุฤดูร้อนเดือนเมษายน พัดรุนแรงมาก จนต้นไม้หักโค่นทับโรงอาหารพังเสียหายหมด
ผมเลยต้องปรับปรุงครั้งใหญ่..ปรับเปลี่ยนหลังคา ใช้โครงเหล็กและปูกระเบื้อง ตลอดจนสร้างห้องครัวเป็นเอกเทศ จึงดูเป็นระบบระเบียบมาจนถึงทุกวันนี้..
วันนี้..มองโรงอาหารแล้วรู้สึกสำนึกในบุญคุณอย่างบอกไม่ถูก..เพราะจากสถิติข้อมูล ๓ – ๔ ปีที่ผ่านมา..ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้นเป็นลำดับ..
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโรงอาหารโดยตรง..นักเรียนได้รับอาหารครบถ้วนและถูกสุขลักษณะ..มีเรี่ยวแรงที่จะเล่าเรียน สารอาหารก็มีส่วนไปบำรุงเซลสมองด้วย
ในระยะหลังๆ คณะที่มาศึกษาดูงาน รวมทั้งผู้ปกครองที่ย้ายลูกมาเรียน ต่างทักกันเป็นเสียงเดียวว่า..เด็กๆหนองผือทำไมตัวใหญ่จัง..เหมือนเด็กมัธยม..
ผมก็บอกไปตรงๆว่า..อาหารกลางวันของเราได้มาตรฐาน จนขนาดว่าไม่พบนักเรียนคนใดที่น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ ไม่มีเด็กแคระแกร็น มีแต่อ้วนเกินพอดี..
ปีการศึกษาที่ผ่านไป..มีนักเรียน ๔ คน ที่อยู่ในภาวะโรคอ้วน..คุณหมอจากโรงพยาบาล.. มาตรวจเพื่อดูว่ามีโรคแทรกซ้อนหรือไม่.. แล้วก็ให้คำแนะนำมากมาย
สาเหตุมาจาก..นักเรียนกินจุและขาดการออกกำลังกาย กินของหวานบ่อยๆ กินอาหารที่มีไขมันมากและก็ชอบดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ
คุณหมอบอกว่า..มีแนวโน้มจะมีเด็กที่โรงเรียน..อ้วนเกินพอดี อีกหลายคน ผมก็เลยบอกผู้ปกครองในวันประชุม ให้ช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย อย่าได้คิดว่าโรคอ้วนเป็นเรื่องที่น่ารัก..ลูกหลานอ้วนจะทำให้ เหนื่อยง่ายและขาดความกระตือรือร้นในการเรียน..
ผู้ปกครองคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า..สงสัยโรงเรียนเลี้ยงดี แต่ทำไม? ผอ.จึงตัวเล็กจัง..ผมก็เลยใช้บรรยากาศนี้..พูดคุยเรื่องอาหารกลางวันกับผู้ปกครองเสียเลย..
เริ่มจาก..แม่ครัวของโรงเรียน ซึ่งเป็นภรรยาผู้ใหญ่บ้าน เป็นมือวางอันดับหนึ่งเรื่องการทำอาหาร..ฝีมือดีมากและสะอาดเป็นเลิศ..และมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการสถานศึกษา..
แม่ครัว..ที่นักเรียนเรียกว่าป้าเฉลิม มีหลานเรียนอยู่ในโรงเรียนด้วย ๔ คน ทุกคนอ้วนพีมีน้ำมีนวลหมดทุกคน..ผมเลยบอกป้าเฉลิมว่า ไม่ให้ใส่ผงชูรสลงไปในอาหารแล้วนะ
อาหารกลางวัน ๕ วัน/สัปดาห์ ครูจะเป็นคนออกแบบไม่ให้ซ้ำกัน แต่ละวันจะมีกับข้าว ๒ อย่าง ป้าเฉลิมจะบอกให้ครูซื้อวัสดุประกอบอาหารว่าจะต้องใช้อะไร เท่าใด?
ผมบอกผู้ปกครองว่า..โรงเรียนของเราจะไม่มีการประหยัดเรื่องอาหารกลางวัน ไม่ใช่เพราะมีกรรมการโรงเรียนคอยตรวจสอบอย่างใกล้ชิด(ป้าเฉลิม) แต่เพราะครูต้องการให้เด็กเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและสมอง..พร้อมที่จะเรียนรู้..ในทุกๆด้าน
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้งบประมาณค่าอาหาร ๒๐ บาท/หัว/คน โรงเรียนใช้เต็มที่ แทบจะไม่พอด้วยซ้ำ เนื่องจากวัสดุประกอบอาหารมีราคาสูงขึ้น และใน ๒๐ บาทนี้ ยังต้องจ่ายค่าข้าวสาร ค่าแก๊ส และค่าตอบแทนแม่ครัวด้วย
ผมพูดให้ผู้ปกครองรับฟังอย่างชัดเจน จะได้คลายกังวลและเข้าใจตรงกันว่า ทำไมลูกหลานถึงสูงใหญ่และอ้วนกันเหลือเกิน..
สุดท้าย..ก็เลยขอความร่วมมือเรื่อง..อาหารเช้า..เด็กบางคนรีบมาโรงเรียนและบางคนไม่ชอบกินอาหารเช้า..จึงเป็นลมล้มพับหน้าเสาธง ปีนี้พบ ๕ คน ปีก่อนๆพบมากกว่า ๑๐ คน..ทั้งๆที่บริเวณหน้าเสาธง..ร่มรื่นตลอด
อาหารเช้า..มีความสำคัญต่อทุกเพศทุกวัย ยิ่งเด็กวัยเรียนด้วยแล้ว พบเลยว่า ถ้าได้กินอาหารเช้ามา จะมีสีหน้าสดชื่นแจ่มใสและเรียนรู้ได้เร็ว ไม่เซื่องซึม..
ขอบคุณผู้ปกครองที่ร่วมมือกับโรงเรียน ทั้งอาหารเช้าที่บ้านและอาหารกลางวันที่โรงเรียนนี่แหละ..ที่เป็นปัจจัยป้อนที่สำคัญ..ทำให้นักเรียนอ่านคล่องเขียนคล่อง ผลสัมฤทธิ์ดี..กองทัพ..ยังต้องเดินด้วยท้องฉันใด..อาหารดี..ก็ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง ฉันนั้น
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒ เมษายน ๒๕๖๑
ไม่มีความเห็น