การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและผลการดำเนินการบริหารงานสถานศึกษาของโรงเรียนชลบุรี “สุขบท” สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 ก่อนการพัฒนา 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนชลบุรี “สุขบท” สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนชลบุรี “สุขบท” สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริหารและครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อผลการดำเนินงานตามรูปแบบการบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนชลบุรี “สุขบท” สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารและครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน วิธีการวิจัยมี 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบันและผลการดำเนินการบริหารงานสถานศึกษาของโรงเรียนชลบุรี “สุขบท” สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 ก่อนการพัฒนา ขั้นตอนที่ 2 การสร้างรูปแบบการบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนชลบุรี “สุขบท” สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 ขั้นตอนที่ 3 การศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนชลบุรี “สุขบท” ในปีการศึกษา 2559 และปีการศึกษา 2560 และ ขั้นตอนที่ 4 การศึกษาความพึงพอใจของผู้บริหารและครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อผลการดำเนินงานตามรูปแบบการบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนชลบุรี “สุขบท” เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Interview) และแบบสอบถามความคิดเห็น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression) ตามลำดับความสำคัญของการนำเข้าตัวแปร และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันของโรงเรียนก่อนการพัฒนาจากการวิเคราะห์เอกสารรายงานการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนชลบุรี “สุขบท” ได้ศึกษาวิเคราะห์สภาพการบริหารงาน สรุปสาระสำคัญจากการวิเคราะห์สภาพปัจจุบันทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนจุดที่ควรพัฒนา ได้แก่ ด้านสภาพแวดล้อมและที่ตั้ง โรงเรียนไม่มีรั้วกั้น ทำให้ผู้ปกครองขาดความมั่นใจในความปลอดภัยของบุตรหลาน ด้านสภาพชุมชนโดยรอบ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ มีรายได้ปานกลางและบางส่วนฐานะยากจน ต้องทำงานหนัก ทำให้ไม่มีเวลาดูแลอบรมสั่งสอนบุตรหลาน ภายในชุมชนอยู่ใกล้แหล่งยาเสพติดและอบายมุขทำให้นักเรียนมีโอกาสเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและอบายมุข ด้านคุณภาพผู้เรียน ควรปรับกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และความสามารถในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และผลการทดสอบทางการศึกษา ระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ให้สูงขึ้น ด้านการจัดการศึกษา ครูต้องปรับกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งนำผลการวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล มาส่งเสริมพัฒนาศักยภาพเฉพาะด้านของนักเรียนเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป ด้านอาคารสถานที่ มีโรงอาหารที่มีขนาดไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน และขาดสถานที่ที่ให้นักเรียนได้เล่นกีฬา ด้านการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ควรรักษาและดำรงไว้ซึ่งกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ที่ปฏิบัติมา และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไป เพื่อเป็นนวัตกรรมดีเด่นให้สถานศึกษาอื่น ๆ นำไปเป็นแบบอย่าง ขยายเครือข่ายการเรียนรู้สู่ชุมชน และสถานศึกษาอื่น ๆ ผลการศึกษาระดับการปฏิบัติของการดำเนินการบริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนชลบุรี “สุขบท” สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 ก่อนการพัฒนา โดยภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการบริหารวิชาการ ด้านการบริหารงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคคล และ ด้านการบริหารทั่วไป อยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน
2. รูปแบบการบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนชลบุรี
“สุขบท” สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 พบว่า มีความตรงและความเหมาะสมมาก ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การยกระดับคุณภาพผู้เรียน ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาคุณภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา และยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาระบบบริหารจัดการ และ 11 กลยุทธ์ ได้แก่ กลยุทธ์ที่ 1 เสริมสร้างความเข้มแข็งการเรียนรู้ด้วยทักษะกระบวนการคิดและงานวิจัย กลยุทธ์ที่ 2 สนับสนุนผู้เรียนสู่เวทีการแข่งขัน กลยุทธ์ที่ 3 ปลูกฝังค่านิยมความเป็นไทย กลยุทธ์ที่ 4 ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมบนฐานงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน กลยุทธ์ที่ 5 เสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบเพื่อลดพฤติกรรมความเสี่ยง กลยุทธ์ที่ 6 เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ กลยุทธ์ที่ 7 บริหารจัดการด้วยหลักธรรมมาภิบาล กลยุทธ์ที่ 8 ส่งเสริม สนับสนุนพัฒนาองค์ความรู้เพื่อการสอนที่มีประสิทธิภาพ กลยุทธ์ที่ 9 เสริมสร้างระบบแรงจูงใจเพื่อครูมีขวัญกำลังใจในการทำงาน กลยุทธ์ที่ 10 ส่งเสริมสนับสนุนให้องค์กรมีบุคลากรที่สอดคล้องกับความต้องการของโรงเรียน และ กลยุทธ์ที่ 11 เสริมสร้างระบบบริหารด้วยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนชลบุรี “สุขบท” สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 พบว่า โรงเรียน
มีผลการปฏิบัติงานที่ได้รับการพัฒนาตาม 11 กลยุทธ์มากขึ้น และ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
4. ความพึงพอใจที่มีต่อผลการดำเนินงานตามรูปแบบการบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนชลบุรี “สุขบท” สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
เขต 18 จำแนกตามผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ผู้บริหารและครู คณะกรรมการสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐาน และ นักเรียน โดยภาพรวม มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนผู้ปกครองนักเรียน โดยภาพรวม มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
ไม่มีความเห็น