ทุกวันนี้เราเรียนระบบฝรั่ง คือจะยกทฤษฏีมา 1,2,3 และคำอธิบาย.
เช่น การตลาด ประกอบด้วย 4 P = Product, Price, Place, Promotion
แล้วก็อธิบายว่าคืออะไร ทำยังไง.
จะเน้น ทฤษฎีเป็นหลัก
.
ส่วนการเรียนแบบไทยโบราณ เราจะเรียนตามวัด.
พระท่านจะยกสุภาษิตขึ้นมาแล้วอธิบาย...
เช่น "คนคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล"
แล้วก็อธิบายที่มาที่ไป ของสุภาษิต อธิบายเนื้อหา ยกตัวอย่าง.
เรียนแบบไทยเน้น ปรัชญา / ฝรั่งเน้นทฤษฎี
.
ถ้าถามผม ว่าชอบแบบไหน ?
ผมชอบแบบไทยครับ
ทุกวันนี้ผมก็สอนแบบนี้เป็นหลัก มีทฤษฎีประกอบ เป็นรอง
.
เพราะผมรู้ว่า การกลั่นกรองความรู้ออกมาเป็นสุภาษิตนั้น มีความละเอียดปราณีตกว่าการทำเป็นทฤษฎีมาก
สุภาษิตมีความซาบซึ้งกว่า มีการคิดที่ลึกซึ้งกว่า ประมวลจากประสบการณ์จริง ไม่ประมวลจากความคิดนึก
และจำได้ดีกว่าเพราะ สุภาษิตออกแบบมาเป็นคำคล้องจอง
ทฤษฏีนั้นลืมง่ายกว่าครับ และเป็นความรู้ที่ตื้นกว่าด้วย
เพราะไม่ค่อยมีเรื่องนามธรรมเข้ามาประกอบ คุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม ...ไม่มี
.
เสียดายนะ...ที่ทุกวันนี้ เราได้เรียนแต่อะไรที่มันตื้น เพราะหลงเชื่อว่าฝรั่งมันเก่งกว่าเรา
ทั้งๆ ที่เราไม่ได้แพ้มันเลย โดยเฉพาะเรื่องคุณธรรม...
และยังหลงเอาใบประกาศเป็นเครื่องวัดความสำเร็จ ตามแนวคิดของฝรั่งอีก..!!
ไม่มีความเห็น