- ตอน 11
ขณะนั้นแสงไฟและควันดำจากบ้านที่ถูกเผา พวยพุ่งขึ้นสูง ก่อความโกลาหลและวิตกแก่ฝ่ายป้องกันไม่น้อย
มีรายงานเข้ามาอีก “ ประตูที่ 2 ต้านไม่ไหวแล้วครับ พวกมันบุกยึดได้แล้ว“ ท่านรอง ฯ “ จ่าฯคอมมันโด นำกำลังไปสกัดทางเข้าชั้นในไว้ อย่าให้เข้ามาในหมู่บ้านได้ “ แล้ว หันไปทางผู้ช่วยหญิงสั่งการ “ หมวดสิริลักษณ์ฯ นำกำลังพวกเราที่เหลือไปคอยคุ้มกันพวกชาวบ้านที่ โรงเรียนด่วน “ ท่านรองฯสั่งผู้ช่วยหญิง ขณะนั้น ล่วงเข้า 08.00 น.แล้ว เสียงปืนยิงโต้ตอบกันก้องไปทั่วหมู่บ้าน หมู,หมา,เป็ด,ไก่ สัตว่ล็กสัตว์น้อย วิ่งหนีตายไปทั่วสารทิศระคนกับเสียงเห่าหอนตื่นตระหนก 09.00 - แดดแรงจ้า ประตูที่ 2 ที่เป็นประตูสุดท้ายก็ถูกยึดได้ พวกมันเข้าใกล้กลางหมู่บ้าน ตอนนี้ บ้านรอบนอกถูกเผาไปแล้ว 4 หลัง กองกำลังจากจังหวัดและอำเภอที่ขอไป มาแล้ว แต่สะพานไม้ข้ามคลองใหญ่ก่อนเข้าหมู่บ้าน 500 เมตรถูกพวกโจรเผาและคอยขัดขวาง ทำให้กำลังทั้งหมดติดอยู่ที่นั่น เข้ามาช่วยไม่ไดสถานการณ์บอกว่า ความเพรี่ยงพร้ำกำลังจะมาถึง ท่านรองฯจึงตัดสินใจขอกำลังเคลื่อนที่เร็ว ”หน่วยสวาท” จากกองปราบมาช่วยอีก หน่วยสวาท นี้จะมาด้วยเครื่องบิน 2 เครื่องยนต์ความเร็วสูง มาโดดร่มแบบ ดิ่งพสุธา ลงที่สนามโรงเรียนกลางหมู่บ้านและจะมาถึงภายใน 1 ชม. ดังนั้น กำลังทุกคนที่ป้องกันหมู่บ้านอยู่จึงต้องกัดฟันสู้อย่างไม่มีทางอื่นให้เลือก รอการมาช่วยของหน่วยสวาทอย่างเดียว หลายจุดถอยร่นอย่างไม่เป็นขบวน กำลังพวกมันส่วนหนึ่งเข้าล้อมโรงเรียนที่เด็กผู้หญิงคนแก่หลบภัยอยู่ ร้อยตำรวจโทหญิงสิริลักษณ์ฯวิ่งพล่านทางโน้นทีทางนี้ทีสั่งการต่อสู้ ยิงสกัดไว้ไม่ให้พวกมันเข้ามายึด รร. ได้ง่าย ๆ บางคนกระสุนหมดแล้ว งัดมีดประจำตัวออกเตรียมสู้สุดชีวิต เด็กเล็ก หลายคนร้องไห้จ้า ทำให้ขวัญหลายคน - พวกมันส่วนหนึ่งขึ้นบนโรงเรียนได้ สิริลักษณ์ฯกับกำลังที่ป้องกันอยู่เข้าปะทะด้วยด้ามปืน มือไม้ศอกเข่า อย่างไม่คิดชีวิต พวกมันมีมากกว่า พักเดียวก็กลุ้มรุมจับพวกเขาได้ทุกคน ส่วนหนึ่งแยกไปควบคุมกลุ่มผู้หญิงเด็กคนแก่เป็นตัวประกันและสั่งให้ทุกคนหยุด
ไม่มีความเห็น