การศึกษาสำคัญจริงหรือ


               ในอดีตผู้ที่มีการศึกษานั้นถือเป็นชนชั้นสูง เพราะการได้มาซึ่งความรู้จะต้องใช้ “เงิน” เข้าแลก หรือไม่ก็บวชเรียนเท่านั้น แต่ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีสถานศึกษา “เกลื่อน” เมืองไปหมด เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไป บิดามารดาเริ่มเห็นความสำคัญของการศึกษา ต้องการให้บุตรของตนได้ดีเป็นข้าราชการ มีเงินเดือนสูงๆ เพื่อให้สามารถดูแลเลี้ยงดูตนเองได้ ทางด้านของผู้นำระดับประเทศเอง ก็ส่งเสริมและผลักดันการศึกษาอย่างเต็มที่ เพื่อให้เยาวชนได้มาสานต่อและพัฒนาประเทศชาติต่อไป แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งเหล่านี้กำลังจะทำให้การศึกษาดู “ด้อยค่า” ลงไป เพราะทุกสิ่งทุกอย่างแลดูเข้าถึงง่ายไปหมด ทำให้เด็กไม่รู้สึกถึงความสำคัญของการศึกษา ที่ไปโรงเรียนทุกวันนั้นก็เป็นเพียงหน้าที่ที่ต้องทำ บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรียนไปทำไม

                เมื่อการศึกษาในความคิดของเยาวชนถูกลดทอนความสำคัญลงไป เด็กบางส่วนก็เกิดต้องคำถามกับตนเองว่า ถ้าเราไม่เรียนแล้วไปทำอย่างอื่นแทนล่ะ ในเมื่อการเรียนไม่น่าสนใจ ไม่สนุกอย่างที่เคย นำไปใช้ในการดำเนินชีวิตแทบไม่ได้ ทำไมไม่ลองไปหาอย่างอื่นทำที่มันจะได้เรียนรู้จริง ได้ใช้ชีวิตจริงๆ เผลอๆอาจประสบความสำเร็จกว่าพวกที่เรียนเพื่อเอาใบปริญญาอีก ต้องยอมรับว่าคนที่คิดเช่นนี้มีเยอะมาก และตัวอย่างของความสำเร็จก็มีให้เห็นอยู่มากมายเช่นกัน บางคนไม่เรียนต่อม.3 มาขายข้าวมันไก่จนร่ำรวย ต่างจากพวกที่เอาแต่แบมือขอเงินพ่อแม่เพื่อไปโรงเรียน คนดังหลายๆคนที่เรียนไม่จบแต่ก็ประสบความสำเร็จ  ทำไมเราจะทำบ้างไม่ได้ ไม่เห็นต้องพึ่งการศึกษาแต่อย่างใด ถึงมีการศึกษาก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จ แน่นอนว่านั่นเป็นความจริง แต่ท่านรู้หรือไม่ว่าผู้คนที่ประสบความสำเร็จเหล่านั้นเขาผ่านอะไรมาบ้าง เขาล้มมากี่ครั้งแล้ว เขาต้องทนกับคำดูถูกมาเท่าไหร่ แล้วลองย้อนกลับมาถามตัวเองว่า จะทนสิ่งเหล่านั้นได้หรือไม่ ในบรรดาผู้คนที่คิดเช่นนี้มีกี่คนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ และมีกี่คนที่ชีวิตล้มเหลวไม่เป็นท่า

                ดังนั้นถ้าถามว่าการศึกษาสำคัญไหม สำหรับข้าพเจ้ามันก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น แต่มันเป็นใบเบิกทางให้กับชีวิตอย่างหนึ่ง ช่วยให้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น เปิดโอกาสให้กับหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง ถึงแม้อาจจะต้องใช้เวลา และความอดทนเป็นอย่างมาก แต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไป

                “การศึกษาเปิดโอกาสให้เราเสมอ ขึ้นอยู่กับเราแล้วล่ะว่าจะเปิดใจรับมันไหม”

                 หวังว่าบทความนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆคนที่กำลังสับสนในชีวิตว่าจะเลือกเดินเส้นทางไหน และถึงแม้จะเลือกทางไหน ก็ขอให้ทำให้เต็มที่ที่สุดแล้วทุกอย่างจะดีเอง......

คำสำคัญ (Tags): #การศึกษา
หมายเลขบันทึก: 643996เขียนเมื่อ 17 มกราคม 2018 08:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มกราคม 2018 08:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท