ผมเคยได้ยินเรื่องราวของคนที่มีหุ้นมูลค่า 2 หมื่นล้าน
แล้วภายในวันเดียว ที่มีวิกฤติฟองสบู่แตก
มูลค่าเหลือ 200 ล้าน !!!
.
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าเงิน 2 หมื่นล้าน มันขนาดไหน
ถ้าคุณใช้เงินวันละ 1 ล้าน
คือประมาณว่ากินมื้อละเป็นแสนเลย หรือซื้อรถขับเล่นวันละคันทุกวัน
ใช้ 54 ปีครับ กว่าจะหมด !!
.
หรือ คิดเป็นนาที นาทีนึงใช้พันบาท
ใช้มันทุกนาทีเลย 5 นาที 5 พัน / 10 นาที หมื่น
ใช้มัน ชม.ละ 6 หมื่น ทุก ชม.
คือตั้งแต่ตื่นมาใช้ทันทีเลย ใช้จนกว่าจะหลับ
ประมาณ 50 กว่าปีเหมือนกันครับ กว่าจะหมด !!
.
ทีนี้ เขาโดนวิกฤติ เงินหายวับไปเลย 100 เท่า !
ซึ่งจะว่ากันจริงๆ แล้ว ผมเชื่อว่า
ต่อให้เรามี 200 ล้าน
ชีวิตคุณก็โคตะระสบายแล้ว !
.
แต่เขาคนนั้น เข้าห้องไอซียู ครับ !
.
...............................................
.
สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ
..." ความสุขมากมายแค่ไหนมันก็ทดแทนความทุกข์ไม่ได้ "...
เวลามีความสุขกับกองเงินมหาศาล ไม่ว่าจะกี่ปีก็ตาม
แต่มันเอามาเทียบกับความทุกข์ที่เสียมันไปวันเดียวก็ไม่ได้ !
ยังไงก็ทดแทนกันไม่ได้ครับ
.
เราๆ ก็เหมือนกัน สมมุติคุณมีเงิน 5 ล้าน มา 10 ปี
แล้วพรุ่งนี้มันหายเกลี้ยง เช่น อาจจะโดนโกงไป
ผมถามว่า ช่วงเวลาที่มี 5 ล้าน คือเวลาทั้ง 10 ปีนั้น
คุณน่าจะมีความสุขมาก
และมันน่าจะมากพอที่จะเอาความสุขตรงนั้น
มาทดแทนความทุกข์ที่เกิดขึ้น เวลาที่มันหายไปได้
.
แต่มันไม่จริงครับ ...มันไม่จริงเลย
ตอนนั้น เชื่อเถอะครับ พยายามนึกถึงความสุขตอนที่มี 5 ล้าน
นึกยังไง ก็นึกไม่ออก ! ... คนที่เคยทุกข์หนักๆ จะเข้าใจดี
.
ความสุขล้นฟ้าแค่ไหนก็ทดแทนยามที่ทุกข์มาเยือนไม่ได้เลย
ความทุกข์มันกลบหมด
.
เกิดพรุ่งนี้คุณไปตรวจเจอเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย
อยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน
ผมถามว่า ความสุขที่มีทั้งชีวิตมันหายหมดไหม ?
ทั้งๆ ชีวิตที่เราก็น่ามีความสุขมากกว่าความทุกข์เยอะนะ
สุขมาตั้ง 30-40 ปี สุขมาเป็นหลายพันครั้ง จะทุกข์ก่อนตายสัก 2-3 เดือน
ก็ไม่น่าจะเป็นไรนะ....! ..
หักลบกันแล้ว ไม่น่าจะทุกข์เลยด้วยซ้ำ
แต่มันไม่ใช่ครับ
นี่คือสมการ 1,000 - 1 = 0
.
.
ตรงนี้เอง ที่ผมศรัทธาแนวทางพุทธศาสนา
ที่กล่าวอย่างชัดเจนว่าเป็นการ "ดับทุกข์"
ไม่ใช่ "สร้างความสุข"
.
ไม่ใช่ความสุขไม่ดี ไม่ควรมี ไม่ใช่ครับ
ความสุขเราก็ต้องมี
พุทธศาสนาพูดถึงความปีติ สุข ฉันทะ หรือปัสสัทธิ อยู่
แต่ปัญหาที่แท้จริงของมนูษย์
... คือยามที่ต้องเผชิญทุกข์ครับ ...
ถ้าเผชิญกับทุกข์ แต่ใจไม่ทุกข์
นั่นแหละคือ ความสุขที่แท้จริง
.
.
คนที่ไม่หวั่นว่าจะเป็นโรคร้าย
ไม่หวั่นความตาย
ไม่หวั่นการสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นของรัก หรือคนรัก
ไม่โศกเศร้า หรือเครียดกับอะไร จนเสียจริต
นี่คือคนที่มีความสุขกับชีวิตจริงๆ
ไม่โดนความทุกข์มากลบความสุขที่มีด้วยล่ะ
.
แล้วจริงๆ คนเราก็เลี่ยงเหตุการณ์ไม่ได้ครับ
เราโกงความทุกข์ไม่ได้เลย
เพราะยังไงเราต้อง แก่ ต้องป่วย และต้องตาย
คือยังไงก็ต้องเจอกับทุกข์วันยันค่ำครับ....
และจะว่าไปแล้ว
เราก็ต้องเจอกับสิ่งที่ไม่น่าพอใจอยู่บ่อยๆ
เครียด อารมณ์เสีย จิตตก....
.
นั่นแหละครับ
ความสุขที่แท้จริงคือ สามารถดับทุกข์ได้
เจอเหตุการณ์ แต่ใจไม่ทุกข์
จริงๆ ความหมายลึกนะครับ คำว่า ดับทุกข์ นี่น่ะ
.
คนที่ผ่านโลกมาเยอะ บางทีก็ยังไม่เข้าใจ
มุ่งสร้างสุข แต่ไม่ได้มุ่งดับทุกข์
วันๆ มีความสุข หาเงิน เที่ยว เสพสุข
แต่พอเจอเรื่องทุกข์ขึ้นมา...หมดครับ หมดจริงๆ
สุขที่สรรหามา มันหายเกลี้ยงหมด !
.
.
นี่คือแก่นของพุทธศาสนา
ที่มุ่งแก้ปัญหาชีวิตในเชิงลึกครับ
เพื่อที่ 1,000 - 1 ก็ยัง = 1,000 เหมือนเดิม
เพราะความทุกข์ทำอะไรเราไม่ได้....
ไม่มีความเห็น