การพัฒนาทัศนคติของผู้เฝ้ารู้เฝ้าดู


41. การพัฒนาทัศนคติของผู้เฝ้ารู้เฝ้าดู

ถาม  สภาวะทางใจในแต่ละชั่วโมงและแต่ละวันของท่านผู้บรรลุธรรม มีลักษณะอย่างไร?

ท่านเห็น ได้ยิน กิน ดื่ม ตื่นและหลับ ทำงานและพักผ่อน อย่างไร?

อะไรคือข้อพิสูจน์ว่าสภาวะของท่านต่างจากพวกเรา?

นอกเหนือจากประจักษ์พยานทางคำพูดว่าผู้นั้นผู้นี้บรรลุธรรม มีอะไรไหมที่ยืนยันสภาวะของท่านเหล่านั้นอย่างเป็นรูปธรรม?

เราจะสามารถสังเกตเห็นความแตกต่างทั้งทางกายภาพและการตอบสนองทางประสาทวิทยา ทางการเผาผลาญอาหาร หรือทางคลื่นสมอง หรือในโครงสร้างทางจิตใจ ของท่านเหล่านั้นหรือไม่?

ตอบ  เธออาจพบความแตกต่าง หรืออาจไม่พบ

ทั้งหมดขึ้นอยู่กับขีดความสามารถในการสังเกตของเธอ

อย่างไรก็ดี ความแตกต่างเชิงรูปธรรม เป็นสิ่งสำคัญน้อยที่สุด

สิ่งสำคัญคือ ลักษณะภายนอก ทัศนคติ ของท่านเหล่านั้น ซึ่งเป็นไปในทางที่แสดงถึงการปล่อยวางความยึดติดโดยสิ้นเชิง การปลีกตัว การแยกตัวออกห่าง

 

ถาม  ท่านผู้รู้จะเศร้าโศกหรือไม่ ถ้าบุตรหลานของท่านตาย ท่านไม่รู้สึกทุกข์หรือ?

ตอบ  ท่านทุกข์ร่วมกับผู้รู้สึกทุกข์

เหตุการณ์มีความสำคัญน้อยมาก แต่ท่านเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจสำหรับผู้ที่อยู่ในห้วงทุกข์ ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือตายแล้ว มีร่างกายหรือไม่มีร่างกาย

เพราะความรักและความเห็นอกเห็นใจ คือธรรมชาติของท่านผู้รู้

ท่านเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสิ่งที่มีชีวิต และความรักคือการแสดงออกของความเป็นหนึ่งเดียวนั้น

 

ถาม  ผู้คนล้วนกลัวความตายมาก

ตอบ  ท่านผู้รู้ (jnani) ไม่กลัวอะไรเลย

แต่ท่านสงสารผู้ที่มีความกลัว

เพราะการเกิด การมีชีวิตอยู่ และการตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ

การกลัว ไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ

แน่นอนว่าท่านย่อมให้ความสนใจแก่เหตุการณ์นี้

 

ถาม  สมมติว่าท่านป่วย – ไข้ขึ้นสูง เจ็บปวด หนาวสั่น

แพทย์บอกท่านว่าสภาพของโรคร้ายแรงมาก ท่านจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่วัน

ท่านจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับคำบอกนี้?

ตอบ  ไม่มีปฏิกิริยาใดๆเลย

เพราะมันเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับธูปที่จะมอดไหม้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับร่างกายที่จะตาย

จริงๆนะ เรื่องนี้มันมีความสำคัญน้อยมาก

สิ่งสำคัญคือ ฉันไม่ได้เป็นทั้งกายและใจ

แค่ “ฉันเป็น”

 

ถาม  แต่ครอบครัวของท่านต้องรู้สึกสิ้นหวัง

ท่านจะบอกเขาว่าอย่างไร?

ตอบ  ก็บอกตามปกติที่เขาบอกกัน - อย่ากลัว ชีวิตดำเนินต่อไป พระเจ้าจะปกป้องเธอ อีกไม่นานเราก็จะอยู่ด้วยกันอีก และอื่นๆ

แต่สำหรับฉัน ความตื่นตกใจทั้งหลายนี้ไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะฉันไม่ใช่สิ่งหนึ่งที่จินตนาการว่าตัวเองมีชีวิตหรือตาย

ฉันไม่ได้เกิด และไม่ได้ตาย

ฉันไม่มีอะไรต้องจดจำหรือลืมเลือน

 

ถาม  แล้วการสวดมนต์สำหรับผู้ตายล่ะ?

ตอบ  ก็สวดกันไปสิ มันทำให้คนตายดีใจมาก พวกเขารู้สึกว่าได้รับการยกย่อง

ท่านผู้รู้ ไม่ต้องการการสวดมนต์

ท่านเองคือคำตอบต่อการสวดมนต์ของพวกเธอ

 

ถาม  หลังความตาย ท่านผู้รู้จะมีความเป็นไปอย่างไร?

ตอบ  ท่านผู้รู้ได้ตายไปเรียบร้อยแล้ว

เธอยังคาดหวังให้ท่านตายอีกหรือ?

 

ถาม  แต่การสลายไปของร่างกาย เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญ แม้ต่อท่านผู้รู้เอง

ตอบ  ไม่มีเหตุการณ์ใดที่สำคัญสำหรับท่านผู้รู้ ยกเว้นเมื่อบางคนได้เข้าถึงเป้าหมายสูงสุด

เมื่อนั้น หัวใจของท่านจะเปรมปรีดิ์

เหตุการณ์อื่นนอกจากนี้ไม่อยู่ในความสนใจของท่าน

จักรวาลทั้งหมดคือร่างกายของท่าน ทุกชีวิตคือชีวิตของท่าน

เหมือนกับในเมืองแห่งแสงสว่าง เมื่อหลอดไฟดวงหนึ่งดับไป มันไม่มีผลต่อโครงข่ายทั้งหมด ความตายของร่างกาย ก็ไม่ส่งผลต่อองค์รวมเช่นกัน

 

ถาม  ส่วนย่อยอาจไม่สำคัญต่อส่วนใหญ่ แต่มันก็สำคัญต่อส่วนย่อยด้วยกัน

ส่วนใหญ่ที่เป็นองค์รวม เป็นสภาวะนามธรรม แต่ส่วนย่อย เป็นรูปธรรม และมีอยู่จริง

ตอบ  นั่นเป็นสิ่งที่เธอพูด

สำหรับฉันมันอาจเป็นอีกแบบหนึ่ง – องค์รวมนั่นแหละที่มีอยู่จริง ส่วนย่อยมาแล้วก็ไป

ส่วนย่อยเกิดขึ้นแล้วเกิดใหม่อีก เปลี่ยนชื่อและรูปร่าง ท่านผู้รู้คือความจริงแท้ที่ไร้การเปลี่ยนแปลง คือสิ่งที่ทำให้สิ่งเกิดดับเป็นไปได้

แต่ท่านไม่สามารถให้ความเชื่อมั่นแก่เธอ

มันต้องมาจากประสบการณ์ของเธอเอง

สำหรับฉัน ทุกสิ่งเป็นหนึ่งเดียว ทุกสิ่งเสมอเหมือน

 

ถาม  ความผิดบาปและความดีงามเป็นหนึ่งเดียวและเหมือนกันหรือเปล่า?

ตอบ  สิ่งเหล่านั้นเป็นคุณค่าที่มนุษย์สร้างขึ้น

มันจะมีความหมายอะไรสำหรับฉัน?

สิ่งที่จบลงด้วยความสุข คือความดีงาม สิ่งที่จบลงด้วยความทุกข์ คือความผิดบาป

ทั้งคู่ต่างเป็นสภาวะของใจ

สภาวะของฉันไม่ใช่สภาวะของใจ

 

ถาม  พวกเราเหมือนคนตาบอด ที่กำลังงุนงง ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าการมองเห็นมีความหมายว่าอย่างไร

ตอบ  เธอจะพูดเปรียบเทียบอย่างไรก็ได้ตามใจเธอ

 

ถาม  การฝึกปฏิบัติอยู่กับความเงียบ เป็นวิธีปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพหรือเปล่า?

ตอบ  อะไรก็ตามที่เธอทำ เพื่อนำไปสู่การบรรลุธรรม ล้วนพาเธอเข้าใกล้เป้าหมาย

อะไรก็ตามที่เธอทำ โดยไม่คิดถึงเรื่องการบรรลุธรรม จะทำให้เธอไปไม่ถึงไหน

แต่จะทำให้มันยุ่งยากไปทำไม?

แค่รู้ว่าเธออยู่เหนือทุกสิ่งและทุกความคิด ก็พอแล้ว

อะไรที่เธออยากเป็น เธอก็เป็นสิ่งนั้นอยู่แล้ว

แค่จำมันไว้ในใจเท่านั้นเอง

 

ถาม  ผมได้ยินที่ท่านพูด แต่ผมไม่เชื่อ

ตอบ  ฉันก็เคยเป็นเหมือนเธอ

แต่ฉันไว้วางใจคุรุของฉัน และฉันก็พิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่ท่านพูดนั้นจริง

จงไว้วางใจฉัน ถ้าเธอสามารถทำได้

จดจำไว้ในใจถึงสิ่งที่ฉันบอกเธอ – ไม่ต้องการสิ่งใด เพราะเธอไม่ได้ขาดอะไร

การค้นหาของเธอนั่นแหละ ขัดขวางไม่ให้เธอพบมัน

 

ถาม  ดูเหมือนท่านจะไม่แยแสกับอะไรเลย

ตอบ  ฉันไม่ได้เฉยเมย ฉันแค่มีความยุติธรรม

ฉันไม่ให้ค่าแก่ความเป็นฉันและของฉัน

ฉันไม่ต้องการทั้งตะกร้าที่ใส่เศษดินและตะกร้าที่ใส่เพชรพลอย

ชีวิตและความตาย ไม่มีความแตกต่างสำหรับฉัน

 

ถาม  ความยุติธรรมทำให้ท่านเป็นคนเฉยเมย

ตอบ  ในทางตรงกันข้าม แก่นแกนของฉันคือความเห็นอกเห็นใจและความรัก

เพราะปราศจากความพึงพอใจโดยสิ้นเชิง ทำให้ฉันมีอิสระที่จะรัก

 

ถาม  พระพุทธองค์ตรัสว่า แนวคิดของการบรรลุธรรมนั้นสำคัญอย่างยิ่ง

ผู้คนส่วนมากเกิดตายครั้งแล้วครั้งเล่า โดยไม่รู้ว่ามีสิ่งที่เรียกว่า การบรรลุธรรม ทำให้ไม่มีการแสวงหาที่จะบรรลุธรรม

เมื่อได้ยินเรื่องนี้ เปรียบเหมือนการหว่านเมล็ดพืชที่ไม่มีวันตาย

ดังนั้น พระองค์จึงส่งภิกษุออกไปเทศนาโปรดสัตว์อย่างไม่หยุดยั้ง เป็นเวลาแปดเดือนในแต่ละปี

ตอบ  คุรุของฉันเคยพูดว่า - บุคคลสามารถให้อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย ความรู้ ความสเน่หา แต่ของขวัญสูงสุดคือคำสอนเรื่องการบรรลุธรรม

เธอพูดถูก การบรรลุธรรมคือความดีสูงสุด

ทันทีที่เธอมีมัน จะไม่มีใครสามารถแย่งมันไปจากเธอ

 

ถาม  ถ้าเธอพูดแบบนี้ในประเทศตะวันตก ผู้คนจะกล่าวหาว่าท่านเป็นบ้าไปแล้ว

ตอบ  แน่นอน

สำหรับผู้โง่เขลา ทั้งหมดที่พวกเขาไม่สามารถเข้าใจ ก็ถูกจัดเป็นความบ้า

แล้วไง?

ปล่อยให้เขาเป็นอย่างที่เขาเป็น

ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น ก็ไม่ได้เป็นความดีของฉัน เขาเป็นอย่างที่เขาเป็น ก็ไม่ได้เป็นความผิดของเขา

ความจริงสูงสุดแสดงตนในวิถีที่นับไม่ถ้วน

มีชื่อและรูปร่างและจำนวนเป็นอนันต์

ทุกสิ่งเกิดขึ้น ทุกสิ่งหลอมรวม ในมหาสมุทรเดียวกัน แหล่งกำเนิดของทุกสิ่งเป็นหนึ่งเดียว

การมองหาเหตุและผล เป็นแค่สิ่งฆ่าเวลาสำหรับใจ

สิ่งที่แค่เป็น คือสิ่งที่น่ารัก

ความรักไม่ใช่ผล มันคือพื้นที่รองรับการมีอยู่เป็นอยู่

ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เธอจะพบการมีอยู่เป็นอยู่ ความรู้ตัว และความรัก

แล้วเธอจะให้ค่าไปทำไม และเพื่ออะไร?

 

ถาม  เมื่อชีวิตจำนวนนับพันนับล้านต้องดับไปด้วยภัยธรรมชาติ (เช่นอุทกภัยและแผ่นดินไหว) ผมไม่เศร้าโศก

แต่เมื่อคนหนึ่งตายเพราะถูกอีกคนหนึ่งฆ่า ผมเศร้าโศกอย่างมาก

ภัยธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้มีความศักดิ์สิทธิ์ของมัน แต่การฆ่าเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงได้ และดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัวอย่างที่สุด

ตอบ  ทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างที่มันเกิดขึ้น

ภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเกิดโดยธรรมชาติหรือโดยน้ำมือมนุษย์ เกิดขึ้นได้ ไม่จำเป็นต้องรู้สึกหวาดกลัว

 

ถาม  สิ่งใดๆจะมีขึ้นโดยไม่มีสาเหตุได้อย่างไร?

ตอบ  ในทุกเหตุการณ์ จะสะท้อนให้เห็นถึงจักรวาลทั้งหมด

สาเหตุสูงสุดเป็นสิ่งที่ไม่สามารถตามรอยได้

แนวคิดเรื่องสาเหตุ เป็นเพียงวิธีหนึ่งของการคิดและการพูด

เราไม่สามารถจินตนาการได้ว่า การเกิดขึ้นที่ไม่มีสาเหตุ เป็นอย่างไร

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ได้พิสูจน์การมีอยู่ของสาเหตุ

 

ถาม  ธรรมชาติไม่มีใจ จึงไม่ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งใด

แต่คนมีใจ ทำไมจึงวิปลาสเช่นนั้น?

ตอบ  สาเหตุของความวิปลาส ก็เป็นธรรมชาติ – กรรมพันธุ์ สิ่งแวดล้อม และอื่นๆ

เธอด่วนกล่าวโทษเร็วเกินไป

อย่าห่วงคนอื่น จัดการใจของเธอเองเสียก่อน

เมื่อเธอตระหนักว่า ใจของเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ความเป็นของคู่จะสิ้นสุดลง

 

ถาม  มันมีความลึกลับในนั้นที่ผมไม่สามารถหยั่งถึงได้

ใจเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติได้อย่างไร?

ตอบ  เพราะธรรมชาติมีอยู่ภายในใจ ถ้าไม่มีใจ ธรรมชาติจะอยู่ที่ไหน?

 

ถาม  ถ้าธรรมชาติมีอยู่ภายในใจ และใจเป็นของผม ผมควรจะสามารถควบคุมธรรมชาติ ซึ่งผมทำไม่ได้

แรงที่อยู่เหนือการควบคุมของผม เป็นสิ่งกำหนดพฤติกรรมของผม

ตอบ  จงพัฒนาทัศนคติของความเป็นผู้เฝ้ารู้เฝ้าดู และเธอจะพบด้วยประสบการณ์ของเธอเอง ว่าการปล่อยวางความยึดติด นำการควบคุมมาให้เธอ

สภาวะของผู้เฝ้ารู้เฝ้าดู มีพลังอย่างเต็มเปี่ยม ไม่มีการอยู่เฉยๆในสภาวะนี้

 

ศรี นิสาร์กะทัตตะ มหาราช

“I AM THAT”

 

หมายเลขบันทึก: 643040เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2017 19:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 ธันวาคม 2017 19:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท