“พ่อ ตากผ้าให้หน่อย”
ทันทีที่ผัวเดินเข้าบ้าน ยังไม่ทันจะหายง่วง เพราะเพิ่งตื่นมาจากคลินิกที่แสนจะวุ่นวายพลุกพล่าน และอยากจะพักผ่อน เมียก็เรียกเสียแล้ว
แต่ครั้นเมื่อได้ยินเสียงเมียขอร้องให้ไปตากผ้าชนิดหวานจ๋อย ก็ต้องไปตากผ้าให้เธอสิครับ
ส่วนเจ้าตัวทำอะไรอยู่น่ะเหรอ
ก็โคล่งเคล้งอยู่ในครัวนั่นไง
เมื่อ ๓ วันก่อน เธอสั่งผมล้มต้นมะละกอข้างบ้านที่มันสูงเกินจริตของเธอ ลำต้นสูงใหญ่ล้มลงดังครืน ลูกมะละกอกระจัดกระจายดาษดื่น จากนั้น เราจึงมีลูกเล็กเด็กแดงมานอนในตะกร้าหลายลูก
นี่มันฆาตกรรมหมู่ชัดๆ
“แม่ทำอะไร” ผมถามออกไปเสียงแข็ง
“แกงส้ม” เธอตอบมาเสียงเฉยๆประหนึ่งไม่ยอมรับรู้ความรู้สึกหงุดหงิดของผัว
“เห็นว่ามีมะละกอดิบหลายลูก มีกุ้งอยู่ จึงทำแกงส้มกุ้ง” เธอคงไม่ทราบหรอกว่า มะละกอหลายลูกที่เธอปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่นั้น มันคือการพรากลูกพรากแม่ก่อนวัยอันควรมาทั้งนั้น ใครจะมีกระจิตกระใจไปกินลง
เธอยังคงสาละวนอยู่คนเดียวในครัวแห่งนั้น
“พ่อ ชิมให้หน่อย เปรี้ยวพอรึยัง” ไม่ทันที่จะได้ตอบปฏิเสธ น้ำแกงส้มในทัพพีก็มาจ่ออยู่ข้างแก้มเสียแล้ว
“ทำไมไม่ชิมเอง” ผมแย้ง พลางเบี่ยงหน้าออกจากทัพพีอันนั้น
“แม่แสบปาก ชิมไม่ได้” ออ เพิ่งรู้ ปากเมียกำลังเป็นซาง
“ซู้ดดดดดดด” ผมสูดน้ำแกงส้มเข้าไปเสียงดังประหนึ่งสูดเส้นราเม็งเข้าปากในร้านค้าข้างทางแห่งหนึ่งในโอซาก้า
ผมไม่ตอบเมียว่ารสชาติมันเป็นนังไง แต่เดินเข้าไปหยิบถ้วยข้าวออกมา พยายามเจียดข้าวมาใส่เพียงเล็กน้อย (นั่นเพราะว่า เมื่อตอนเย็นได้ฟาดขนมจีนแห่งปากพนังไปจานบะเริ่มเทิ่มแล้ว) บรรจงตักแกงส้มกุ้งราดบนข้าวสวย แอบเหลือบเห็นหมูสับในแกงส้ม
“แม่ใส่หมูสับด้วยเหรอ” ผมถาม
“มันเหลืออยู่ในตู้เย็นนิดเดียว เสียดาย” เธอตอบ
ตักข้าวราดแกงส้มเข้าปาก เคี้ยวช้าๆ สะตอดองที่ดองเองเมื่อสองสามเดือนก่อนแตกในปากดังปล็อก
“ได้แรงอก” ผมบอกออกไปเมื่อกินได้คำแรกสายตาเคลิ้ม
”อร่อยจัง” ผมบอกไปอีกเมื่อข้าวพร่องลงครึ่งหนึ่ง
“ไม่น่าเลย” และนั่นก็เป็นประโยคสุดท้ายของมื้อนี้ เมื่อข้าวเม็ดสุดท้ายหายไปจากถ้วย
ธนพันธ์ ชูบุญก็แค่แกงส้มกุ้งมะละกอหมูสับฝีมือเมียอร่อยจนแทบจะเลียถ้วย
๒๑ พย ๖๐
แกงส้มมะละกอ
หร่อยจังฮู้
....................
สวัสดีจ้ะ มาทักทายจ้ะ
อ่านแล้วรู้สึกดีกับบรรยากาศ
" แกงส้ม" จ้ะ
แกงส้ม..ต้านมะเร็ง..เห็นๆในยูทูป....แกงส้มถ้วยนี้แจ่มกว่าด้วย ....ฝีมือ..เมีย...