ผู้เขียน พี่นง น้องปอ พี่ประชัน ถ่ายภาพโดยน้องแก้ม...
หลังเลิกงานวันที่ 20 ผู้เขียนจึงไปรับพี่นงที่สนามบินสุวรรณภูมิ มานอนค้างคืนที่บ้านผู้เขียนที่ทุกคนแทบไม่ได้นอนเพราะเจ้าทอฟฟี่ตื่นเต้น ร้องรบกวนทั้งคืน และวันที่ 21 พ.ย.2560 วันน้องปอรับปริญญา ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อรีบไปหาที่จอดรถในม.เกษตรศาสตร์ บางเขน แม้ไปถึงหกโมงเช้าก็ยังไม่มีที่จอดอยู่ดี ต้องจอดในทีจอดเสียตังค์ เพราะผู้คนมากันแต่เช้าทั้งนั้น
พี่ประชันกับพี่นงหน้าตึกคณะเกษตร บางเขน...
ผู้เขียนเคยตั้งคำถามเล่นๆว่า ต่างประเทศเขามีวัฒนธรรมการแสดงความยินดีแบบไทยๆนี้กันหรือเปล่า เท่าที่เคยอ่านเจอเขามีพิธีการอยู่เหมือนกัน แต่เป็นแบบธรรมดามากๆ คนมอบก็คืออธิการบดี พิธีมอบก็ธรรมดาง่ายๆ แต่ของไทยเราจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ้เพราะการพระราชทานปริญญาบัตรคนไทยเรายึดถือกันมาเนิ่นนานว่าเป็นเรื่องที่สูงส่ง เป็นเกียรติ์ที่ครอบครัวและวงค์ตระกูลได้รับอย่างล้นพ้น แม้ว่าการสำเร็จการศึกษาจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นของวัยทำงานอย่างที่ผู้เขียนให้ความเห็นไว้ข้างต้น
ระหว่างการรอรับพระราชทาน บรรดาญาติๆ ต่างก็ต้องนั่งรอนอนรอตั้งแต่เช้าจนค่ำมืด ต่างนำเสื่อมาปูกันตามอาคาร ตามสนามหญ้าจนเต็มกันไปหมด จนกว่าจะเสร็จพิธี ในระหว่างพิธีก็จะมีถ่ายทอดผ่านทีวีให้นั่งชมกัน พอเห็นลูกๆต่างก็ร้องดีใจกัน ตื่นเต้นกัน ต่างก็ถ่ายรูปบนจอทีวีทันบ้างไม่ทันบ้าง และหลังรอส่งเสด็จเสร็จสิ้น ต่างก็กลับกัน นั่นคือการจราจรจะติดขัดกันยาวนานจนดึกดื่นเลยทีเดียว
ส่วนการฉลองปริญญาของแต่ละครอบครัว ก็คงจะมีหลังจากวันนั้น หรือบางครอบครัวก็อาจจะฉลองกันในวันนั้น ผู้เขียนเองเลี้ยงฉลองไปก่อนเมื่อวันซ้อมที่กำแพงแสน ซึ่งร้านอาหารต่างคับคั่งจนแทบไม่มีที่นั่งเลยทีเดียว
คืนนั้นผู้เขียนและคนข้างกายรับน้องปอกลับถึงบ้านเกือบสี่ทุ่ม ขณะที่พี่นงพี่ชันน้องแก้มบินกลับถึงอุดรฯและกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย
น้องแก้มกับพี่ประชัน วันเดินทางกลับที่ดอนเมือง...
...................
ยินดี และดีใจในความสำเร็จ
ของน้องปอ คุณพ่อ และ คุณแม่ของน้องปอ
ด้วยจ้าา อย่างนี้ชื่นใจ หายเหนื่อยจริง ๆ