เส้นชัย... พิธียกยอดฉัตร มหาวิทยะเจดีย์
และแล้วความพยายามและตั้งใจของพวกเรา คณะทำงานผู้ก่อสร้างมหาวิทยะเจดีย์ ก็มาถึงบทสุดท้าย ตลอดระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน พ.ศ.2556 ที่เราเริ่มเคลื่อนย้าย ของมีค่า สิ่งสำคัญบางส่วน มาจากวัดเดิมที่สร้างไม่แล้วเสร็จ มาเก็บรักษาไว้ที่วัดโมกขธรรมารามแห่งนี้ คณะของเราเริ่มลงมือก่อสร้าง วางศิลาฤกษ์รากฐานเจดีย์ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ.2556 บรรจุพระพุทธรูปและพระไตรปิฏก เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2556 และสุดท้ายเมื่อเจดีย์เต็มองค์ การประกอบพิธียกยอดฉัตรเจดีย์ จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558
เมื่อพิจารณาระยะเวลาที่คณะพุทธศาสนิกชนชาวไทย และชาวพม่าร่วมกันสร้างมหาวิทยะเจดีย์(เจดีย์ไทย-พม่าแห่งนี้ รวมระยะเวลาในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ เป็นระยะเวลาในการก่อสร้าง 1 ปี 2 เดือน 5 วัน
ตลอดระยะเวลา ที่ก่อสร้างเจดีย์ มีพระอาคันตุกะ จากประเทศพม่า ที่มีชื่อเสียงหลายรูป แวะมากราบนมัสการท่านเจ้าคุณ พระราชไพศาลมุนี และเป็นขวัญกำลังใจให้กับคณะทำงานผู้สร้างเจดีย์ อยู่เป็นเนือง ๆ มิได้ขาด ซึ่งผู้เขียน สามารถรวบรวมภาพถ่ายเอาไว้ได้บางส่วน
การจัดเตรียมงานในครั้งนี้ คณะทำงานเตรียมการกันเป็นครั้งค่อนเดือนกันเลยทีเดียว.. ผู้เขียนเองมีภาพบรรยากาศในระหว่างเตรียมการ แทนการพูดบรรยายมากขึ้นนะครับ เพราะเนื่องจากเห็นว่า งานบุญครั้งนี้ ภาพเหตุการณ์ระหว่างการเตรียมการมี มากมายหลายภาพ และจากการเฝ้าสังเกตการณ์เกือบจะทุกขั้นตอน ทำให้ ผู้เขียนพอลำดับเหตุการณ์สำคัญ ๆ ได้ดังต่อไปนี้
ช่วงระยะเวลาในช่วงแรก ๆก่อนที่จะมีการยกยอดฉัตรมหาวิทยะเจดีย์ ทางคณะกรรมการได้มีการเตรียมการต่าง ๆ ตั้งแต่ การจัดเตรียม “รอกยกยอดฉัตร” การจัดเตรียมพิธีสวดพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ของพระภิกษุสงฆ์พม่า การจัดเตรียมสถานที่บริเวณ การจัดเตรียมความแข็งแรงของสถานที่ขึ้นองค์เจดีย์
ในเรื่องการจัดเตรียม “รอกยกยอดฉัตร” ผู้เขียนเห็นถึงความตั้งใจของทีมงานมากเป็นพิเศษ ขนาดที่ว่า ใช้ตัวคนแทนน้ำหนักสิ่งของ เพื่อให้รอกสามารถชักขึ้นสู่องค์เจดีย์ได้อย่างปลอดภัยสูงสุด ผู้เขียนมองเห็นว่า....นี่คือสิ่งสำคัญสูงสุดในงาน เพราะ ฉะนั้น ความผิดพลาด จึงเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด
คณะกรรมการเตรียมการในสิ่งนี้อยู่หลาย วัน เมื่อเห็นว่า มีความปลอดภัย 100 % แล้ว จึงหันไปตรวจสอบสิ่งสำคัญ สิ่งอื่นอีก นั่นก็คือ ไม้ไผ่ ที่พาด ประสานงานกัน เป็นโครงสร้าง สำหรับการรองรับน้ำหนักคนที่จะขึ้นไปทำพิธี ในวันดังกล่าว
ผู้เขียนทราบจาก คณะทำงานว่า ไม้ไผ่ที่พาดขึ้นองค์เจดีย์ทั้งหมดนี้ ต้องใช้ไม้ไผ่ที่เป็นมงคล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ไผ่สีทอง” และไผ่สีทองนี้เอง ที่พ่อกับแม่ของผู้เขียน ท่านปลูกไว้ภายในสวนผลไม้ของท่าน ท่านจึงร่วมอนุโมทนาบุญด้วย
การบริจาคไผ่สีทองทั้งหมด พาดองค์เจดีย์ในครั้งนี้ และในค่ำคืนสุดท้ายก่อนทำพิธีสวดมนต์ ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ของพระภิกษุสงฆ์พม่า จะเริ่มขึ้น ผู้เขียนและทีมงานบางส่วนได้มีโอกาสขึ้นทดสอบความแข็งแรงของไผ่สีทอง ที่พาดอยู่รอบองค์เจดีย์นี้ ผู้เขียนได้สัมผัสช่องเก็บพระบรมสารีริกธาตุ และสิ่งของมีค่าที่จะได้รับจากผู้ร่วมบุญในครั้งนี้ ตรงจุดที่คล้าย “ปลีกล้วย” หรือที่เรียกว่า “ปลียอด” และภาพมุมสูงครั้งเดียวในชีวิตที่ผู้เขียนได้มีโอกาสสัมผัส สิ่งนี้ทำให้ตัวเองรู้สึกเลยครับว่า หากหัวใจของตัวเองนั้นไม่บริสุทธิ์พอ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อภิบาลปกปักษ์รักษา เจดีย์แห่งนี้ ท่านคงป้องปรามไว้ ตั้งแต่ก้าวแรกที่ผู้เขียนย่างขึ้นไป.. ขอกราบสาธุ ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านได้เมตตาในครั้งนี้
ขออนุโมทนา สาธุ ในมหากุศลนี้ด้วยจ้ะ
ระลึกถึงเสมอจ้ะ
-สาธุ...
-ด้วยความระลึกถึงอาจารย์ครับ