จับประเด็น : ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นพระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้เป็นองค์ที่ ๑๐ นับจากนี้


คลิปธรรมะบรรยายเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของพระอาจารย์กฤช นิมฺมโล แห่งสวนธรรมประสานสุข อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี  (สนใจผลงานท่านคลิกที่นี่ โดยเฉพาะหนังสือเสียงเรื่อง "คำสอนพ่อ" ที่นี่) ท่านเล่าเรื่องในหลวงรัชกาลที่ ๙ กับคำสอนของหลวงปู่พ่อแม่ครูอาจารย์ต่างๆ ที่บอกว่า ในหลวงคือพระโพธิสัตว์ปรารถนาพระโพธิญาณในกาลต่อไป .... น่าสนใจมากและประทับใจผมยิ่ง จึงอยากนำมาแบ่งปันครับ



พระอาจารย์กฤช ท่านเล่าว่าตนเองเป็นทิฐิจริต เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมด้วยการ "ดูจิต" ท่านปฏิธรรมแบบ "สมถะ" เพราะอยากได้อภิญญาอยู่ ๑๙ ปี ไม่มีผลบรรลุธรรมวิเศษใด จนท่านปรงใจว่าชาตินี้คงได้เพียงเร่งสร้างบารมี จนกระทั่งได้มาเรียนกับ "ครูบาอาจารย์" (เป็นคำที่ท่านเรียกหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช) จึงได้เห็นว่า การปฏิบัติธรรมนั้นไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิให้สงบดิ่งนิ่งอัปปานาได้อภิญญาก่อน มีอีกทางหนึ่งสำหรับคนฟุ้งซ่านฐานคิด คิดเยอะ ...  ผมเป็นจริตแบบท่าน เมื่อไหร่ได้ฟังธรรมะท่าน จึงได้ประโยชน์จากประสบการณ์ของท่านยิ่ง 

ตั้งแต่นาทีที่ประมาณ ๖๐ กว่า เป็นต้นไป หลังจากที่ท่านเล่าถึงทศพิธราชธรรมโดยนำเอาแบบอย่างที่ทรงทำ เลือกนำมาเล่าได้อย่างดีที่สุดเท่าที่ผมเคยฟัง   วันนี้สิ่งที่อยากให้ท่านรู้ที่สุดคือเรื่องที่ในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์องค์ที่ ๑๐ ที่จะมาตรัสรู้

๑ กัปป์ คืออะไร นานแค่ไหน?

  • กัปป์ คือ รอบแห่งการเกิดดับของจักรวาล จักรวาลเกิดและดับหนึ่งรอบเรียกว่า ๑ กัปป์ กัปป์ที่มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ ๑ องค์เรียกว่า "สาระกัปป์"  ส่วนกัปป์ปัจจุบันนี้ ชื่ออ"ภัทรกัปป์" จะมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ ๕ พระองค์  พระพุทธเจ้าองค์นี้เป็นองค์ที่ ๔ มีพระนามว่าโคตม องค์ถัดไปคือพระอริยเมตไตรย 
  • ไม่ใช่ทุกกัปป์ที่มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ กัปป์ที่ไม่มีพระพุทธเจ้าเลยเรียกว่า "สุญกัปป์" กัปป์ที่มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติเรียกว่า "อสุญกัปป์"
  • อุปมัยว่า เปรียบเหมือนมีภูเขาหินแท่งทึบกว้างยาวสูงด้านละ ๑ โยชน์ (๑๖ กิโลเมตร) เวลา ๑ กัปป์นานกว่าเวลาที่ภูเขานี้เหี้ยนเตียนสิ้นไปด้วยการเอาผ้ามาลูบ ๑๐๐ ปีต่อหนึ่งครั้ง (อ่านต่อที่นี่)
ในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์

พระอาจารย์กฤช เล่าเรื่องเกี่ยวกับเรื่องเล่าของพ่อแม่ครูอาจารย์ (คำคุณศัพท์เรียนกหลวงปู่หรือหลวงตาที่ผู้พูดเชื่อว่าท่านได้บรรลุแล้วซึ่งธรรมวิเศษ)  ผมจับประเด็นได้ว่า

  • หลวงปู่ฤาษีลิงดำ เคยเล่าว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของเราเป็นพระโพธิสัตว์ที่ได้รับคำทำนายไว้แล้วว่าจะกลับมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง  เป็นพระโพธิสัตว์ประเภทวิรยาธิกะ เน้นเด่นเรื่องความเพียร
  • พระพุทธเจ้ามี ๓ ประเภท ได้แก่ ๑) ปัญญาธิกะ ๒) วิริยาธิกะ และ ๓)ศรัทธาธิกะ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เป็นประเภทปัญญาธิกะ
  • หลวงปู่ฤาษีลิงดำ เล่าว่า ในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์ที่จะบำเพ็ญ ๑๖ อสงไขย (๑๐ ยกกำลัง ๑๔๐ ปี อ่านที่นี่) กับ ๑๐๐,๐๐๐ กัปป์ ตอนนี้บำเพ็ญครบ ๑๖ อสงไขยแล้ว เหลือเพียงส่วนกัปป์ ... เศษเหลือมากน้อยเท่าไหร่ไม่ได้เล่าไว้ 
  • หลวงปู่สิม พุทธาจาโร เล่าว่า ในสมัยพุทธกาล ในหลวง ร.๙ เกิดเป็นช้างป่าลิไลยกะที่คอยดูแลพระพุทธเจ้า (หากยังไม่รู้ดูคลิปนี้ครับ)
  • พระพุทธเจ้าได้ให้คำพยากรณ์ว่า ช้างป่าเลไลยิกะจะมาตรัสรู้เป็นองค์ที่ ๑๐ นับจากนี้ ในภัทรกัปป์นี้จะมีพระอาริยเมตไตรยมาตรัสรู้  อสุญกัปป์ถัดไปจะมี ๒ พระองค์ อสุญกัปป์ถัดไปมี ๑ พระองค์ อสุญกัปป์ถัดไปอีก ๒ พระองค์ อสุญกัปป์ถัดไปอีก ๒ พระองค์ และอสุญกัปป์ถัดไปอีก ๒ พระองค์  ในกัปป์นี้เองที่ในหลวง ร.๙ จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พระนามว่า "สุมังคละ" 
  • ใครที่ตั้งปณิธานว่า "จะขอเป็นทาสรองบาททุกชาติไป" ต้องใจถึง เพราะต้องตามเสด็จไปอีก ๕ กัปป์ เป็นอย่างน้อย และต้องเป็นผู้มีวิริยะมากตามพระองค์ซึ่งเป็นวิรยาธิกะ 
ผมติดสติกเกอร์ไว้เตือนใจตนเองเช่นกันว่าจะขอเป็นข้ารองบาท แต่ด้วยรู้ว่าใจตนเองนั้นเป็น "ทิฐิจริต" คิดมาก วิริยาน้อย จึงไม่ปรารถนาจะเป็นข้ารองบาททุกชาติไป และไม่ได้ปรารถนาพุทธภูมิ ... เกิดชาติใดขอให้ได้พบคำสอนที่เหมาะสมกับตน และเป็นคนหนึ่งที่เข้าถึงซึ่งพระนิพานเมื่อเวลาที่สมควร...สาธุ


หมายเลขบันทึก: 638654เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2017 08:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม 2017 08:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อ่านไม่จบ อ่านลวกๆ เพราะไม่อยากน้ำตาไหลค่ะ...ดร.ต๋อย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท