A time for everything


เวลาสำหรับทุกๆอย่าง

          นัก Chronobiologis กล่าวว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำสิ่งต่างๆตั้งแต่เริ่มเขียนกลอนจนกระทั่งถึงเวลารับประทานยา ตามจังหวะเวลาธรรมชาติของร่างกาย เราสามารถทำมันได้ในทุกๆวัน ดังนี้

ช่วงเช้า

7-9 โมง ทานอาหารเช้าดีๆ ระบบเผาผลาญกำลังทำงานได้มีประสิทธิภาพที่สุดในช่วงนี้ สิ่งที่เราทานตอนเช้าจะให้พลังงานแต่ไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการทานวิตามิน เพราะถ้าเราทานก่อนนอนจะทำให้เราตื่นตัว และวิตามินบางตัวอาจเป็นสาเหตุของอาการอาหารไม่ย่อย

9-10 โมง ให้ไปหาหมอหรือหมอฟัน เพราะการฉีดยาจะเจ็บน้อยมากในช่วงนี้ เหมาะกับการออกกำลังกายแบบ weight-training หรือการออกกำลังกายหนักๆ กล้ามเนื้อคอและหลัง มีความแข็งแรงมากที่สุดและมีโอกาสบาดเจ็บได้น้อย

10-12 โมง ทำงาน เรียน ระบายสี หรือเขียนกลอน ในช่วงเวลานี้สมองจะเกิดจินตนาการสุดๆ

ช่วงเที่ยง – บ่ายสองโมง รับประทานอาหารในช่วงนี้ ดีที่สุด ระบบย่อยอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพ การทานอาหารมื้อใหญ่ในช่วงนี้เหมาะมากกว่าการทานช่วงเย็น

ช่วงบ่าย

2-3 โมง ควรงีบนอนกลางวัน หลังรับประทานอาหาร อุณหภูมิร่างกายจะลดลง และเช่นกัน สมองจะทำงานช้าลง มีงานวิจัยชี้ว่า มีอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลานี้ เพราะคนขับหลับใน มีงานวิจัยในประเทศ Greece ระบุว่า ผู้ชายที่ได้พักงีบช่วงกลางวัน พบว่ามีสถิติเป็นโรคหัวใจลดลง

3-5 โมง ไปออกกำลังกาย สมรรถภาพทางร่ายกายมีมากที่สุด ทั้งอุณภูมิร่างกาย ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น ในสถิติกีฬาโอลิมปิกทำลายสถิติมากที่สุดเช่นกัน

4-6 โมง ช่วงเวลาทำการบ้าน งานวิจัยพบว่า เด็กๆจะทำการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ได้ไวมากขึ้นในช่วงเวลานี้

ช่วงเย็น

รับประทานอาหาร ดื่ม มีความสุขกับการใช้ชีวิต ถึงแม้ว่าระบบย่อยอาหารจะมีประสิทธิภาพลดลงในช่วงเย็นก็ตาม ระบบการรับกลิ่น รสชาติ การฟัง จะมีประสิทธิภาพมากในช่วง 6 โมง ถึง หนึ่งทุ่ม ช่วงเวลานี้เหมาะกับการทานอะไรเบาๆ แต่อร่อย ในร้านอาหารดีๆสักร้านหนึ่ง ตับมีประสิทธิภาพในการจัดการกับแอลกอฮอล์ ดังนั้น เปิดไวน์ซะ!

ถ้าไม่ออกไปนอกบ้าน ใช้เวลาช่วงนี้ในการดูแลตัวเอง ทาครีมบำรุงผิวลงบนหน้า ตัว ผิวหนังจะดูดซึมครีมได้ดีในช่วงเวลานี้

สองทุ่ม ถึง สี่ทุ่ม โทรหาเพื่อน เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เพื่อนจะรู้สึกเหงา

สี่ทุ่ม ถึง ห้าทุ่ม เตรียมตัวเข้านอน การอาบน้ำอุ่นเป็นวิธีหนึ่งที่ดี เพราะจะช่วยให้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ

ช่วงเวลากลางคืน

ห้าทุ่ม ถึง เจ็ดโมงเช้า พักผ่อนนอนหลับ หลังห้าทุ่ม ระบบการเผาผลาญจะลดประสิทธิภาพลง อุณหภูมิร่างกายและอดรีนาลีนลดลง เหมาะกับการเข้านอน ถ้ายังคงตื่นในช่วงหลังเที่ยงคืน สมาธิจะลดลงเรื่อยๆ และพบว่าเราจะทำงานผิดพลาดได้มากขึ้น อุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้นในช่วง ตีสาม ถึงตีสี่ ราวๆหกครั้ง

 

 

Acknowledge to Anonymous

Just wanna translate


หมายเลขบันทึก: 638602เขียนเมื่อ 6 ตุลาคม 2017 03:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม 2017 03:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

-สวัสดีครับ

-ตามมาอ่านแผนจัดการชีวิต

-ด้วยวิถีการดำรงชีพในปัจจุบันนี้มีหลายข้อที่ไม่สามารถปฏิบัติได้

-หากแต่ได้ปฏิบัติได้บ้างเป็นบางข้อก็ถือว่าดีนะครับ

-สบายดีนะครับ?

-ด้วยความระลึกถึงครับ

-ว่างๆ ก็เข้าไปเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับ"เกษตรกรรมบำบัด"ได้ที่ Page Hi Hug House นะครับ

-ขอบคุณครับ


ขอบพระคุณมากค่ะ คุณเพชรน้ำหนึ่ง สำหรับกำลังใจและการติดตามเป็นกัลยาณมิตรมาตลอด :) สะบายดีค่ะ หวังว่าคุณเพชรน้ำหนึ่งจะสะบายดีเช่นกันค่ะ

สวัสดีครับ

ผมนอนสี่ทุ่ม ตีห้าตื่นแล้ว

ตีห้าครึ่งออกวิ่ง ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง

ใช้ใช้ขีวิตในช่วงเวลาถูกหรือเปล่าครับ

...........

ขอบพระคุณมากค่ะ คุณ พ.แจ่มจำรัส ได้นอนเต็มที่และได้ออกกำลังกายช่วงเช้า ถือเอาฤกษ์สะดวกค่ะ โดยรวมดูเหมาะสมดีแล้วค่ะ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท