การรู้รักสามัคคี


การรู้รักสามัคคี

ดร.ถวิล อรัญเวศ
รอง ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 4

บทนำ

โลกปัจจุบัน มีผู้คนบ่นว่า คนไทยเรามีสภาพการณ์เกิดการแตกแยกสามัคคีกัน ขาดความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เห็นแก่ตัว แก่งแย่งแข่งขันเอารัดเอาเปรียบกัน แบ่งฝักแบ่งฝ่าย บ้านเมืองจึงเกิดความวุ่นวาย ไม่สงบสุข จึงขอนำเสนอหลักธรรม ในหนังสือ “คุณธรรมนำชีวิต พลิกวิกฤตเป็นโอกาส” มาเผยแพร่ให้ผู้อ่านได้รับความรู้เรื่องความสามัคคีเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน

โอบอ้อมอารีมีน้ำใจ

ความโอบอ้อมอารี ความเมตตา เอื้ออาทร ปรารถนาดีและมีน้ำใจไมตรีที่ผู้คนในสังคมมีให้แก่กันนั้น ทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีมีความเห็นอกเห็นใจกัน ใครที่มีปัญหามีเรื่องเดือดร้อนใจก็จะได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูล น้ำใจไมตรีที่หยิบยื่นให้แก่กันนั้นทำให้เกิดความรักความเข้าใจกัน ดังที่มีผู้กล่าวไว้ว่า

“ความรักมา เพราะน้ำใจมี ความรักหนี เพราะน้ำใจหมดความรักหด เพราะน้ำใจแห้ง”

เมื่อความรักเกิดขึ้นในหัวใจ อะไรๆก็ดูดี ความสามัคคีตามมาดังคำกลอนที่ว่า

“ความรักมี ความสามัคคีก็มาความรักโรยรา เพราะไม่มาสามัคคี”

สังคมใดที่ผู้คนส่วนใหญ่ในสังคมมีความรักใคร่กลมเกลียวกันสังคมนั้นก็จะมีแต่ความสงบสุข เพราะสภาพสังคมแบบนี้จะมีบรรยากาศของความเอื้ออาทร เห็นอกเห็นใจกันไว้วางใจกันช่วยเหลือเกื้อกูลและร่วมมือร่วมใจกัน ความรักความสามัคคีจึงเป็นคุณธรรมสำคัญที่จะนำความสงบสุขความเจริญก้าวหน้ามาสู่บ้านเมืองโอบอ้อมอารีมีน้ำใจ

รู้อภัย

การทำอะไรให้ถูกใจผู้คนไปเสียทุกสิ่งทุกอย่าง คงเป็นเรื่องยากที่จะทำได้ ย่อมมีบ้างเป็นธรรมดาที่คำพูดคำจาและการกระทำบางอย่าง อาจไปขัดหูขัดตาขัดความรู้สึกคนอื่นเข้า หากถือสา คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ สิ่งเลวร้ายก็เกิดขึ้น อาจนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้ง เกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ฉะนั้นจงให้อภัยเสียเมื่อมีใครมาทำให้เกิดความรู้สึกโกรธ เกิดความไม่พอใจ การให้อภัยเป็นการให้ทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นการสร้างบรรยากาศที่เกื้อกูลต่อความรักความสามัคคีเป็นอย่างดี ดังบทกลอนที่ว่า

“ถ้าไม่มีการให้อภัยผิด และไม่คิดที่จะลืมซึ่งความหลังจะหาสามัคคียากลำบากจัง ความผิดพลั้งย่อมมีทั่วทุกตัวคน”

ไว้เนื้อเชื่อใจ

เมื่อเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ เกิดความไว้วางใจกันแล้ว การพูดจาทำความเข้าใจกันก็ทำได้ง่าย การไว้ใจกันทำให้เกิดบรรยากาศของความร่วมมือร่วมใจกัน อันเป็นรากฐานสำคัญของความรัก ความสามัคคีเมื่อใดที่เกิดความหวาดระแวงแคลงใจ เกิดความสงสัยในความจริงใจของอีกฝ่ายหนึ่ง การจะพูดจา ทำความเข้าใจให้เกิดความรักความสามัคคี มีความปรองดองกันก็ยากที่จะเกิดขึ้นได้ร่วมมือร่วมใจความรักความสามัคคีเป็นที่มาของการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การร่วมมือร่วมใจในการทำกิจการงานต่างๆการทำงานทุกอย่างให้สำเร็จ ไม่มีใครสามารถทำแต่เพียงลำพังได้ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่าย องค์กรใด หน่วยงานไหน ผู้คนมีความสามัคคีกลมเกลียว มีความรัก ความเมตตาเอื้ออาทรต่อกัน การทำงานเป็นทีมเวิร์กก็จะเป็นไปด้วยดีมีประสิทธิภาพ บรรยากาศในที่ทำงานเต็มไปด้วยไมตรีจิตมิตรภาพทุกคนมีความสุขความพอใจในผลงานที่ร่วมมือกันทำ หรืออีกนัยหนึ่ง“งานสัมฤทธิ์ จิตสำราญ” นั่นเอง

รู้รัก สามัคคี

ด้วยพระบารมีในหลวงประเทศไทยและประชาชนคนไทยโชคดีที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลักของบ้านเมืองมาเป็นเวลายาวนาน มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระปรีชาสามารถ เป็นศูนย์รวมจิตใจ และเชื่อมความรักความสามัคคีของคนในชาติให้สมานฉันท์เป็นหนึ่งเดียวพระองค์ทรงรักและห่วงใยปรารถนาให้ประชาชนคนไทยมีความสามัคคีกลมเกลียวรักใคร่ปรองดองกันดังจะเห็นได้จากพระบรมราโชวาทในวโรกาสต่างๆดังนี้

“...ประเทศไหน ถ้าประชาชนพลเมือง มีความสามัคคีกลมเกลียวกันดี มีระเบียบวินัยประเทศนั้นก็เจริญและอยู่ในฐานะดี จึงเห็นได้ว่า ความสามัคคีกลมเกลียวกันระหว่างคนในชาติและความเข้าใจรักษาระเบียบวินัย เป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่ง ที่จะช่วยนำประเทศชาติสู่ความวัฒนาถาวร”

“...ต้องสามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน มีความเข้าใจซึ่งกันและกันโดยแท้จริงจึงจะทำให้บ้านเมืองของเราอยู่ได้”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความรักความเมตตาต่ออาณาประชาราษฎร์ ทรงปรารถนาให้คนไทยทุกหมู่เหล่าได้มีความรักความสามัคคีมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ได้ทรงเพียรพยายามปลูกฝังในเรื่องนี้เสมอมา จึงหวังว่าบรรดาผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อพระองค์คงได้เกิดจิตสำนึกนึกถึงน้ำพระทัยในความห่วงใยของพระองค์ หันหน้ามาทำความเข้าใจ ให้อภัยกัน ช่วยกันสร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติบ้านเมืองของเราให้ได้ขอให้นึกตรึกตรองบทกลอนเตือนใจคนไทยที่ว่า

“ทุกวันนี้ศึกไกล ยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ ไล่ข่มเหงถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง ะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง”

หวังว่าข้อคิดในบทความบทนี้จะทำให้ผู้อ่านเกิดความรักสามัคคีกันทั้งต่อเพื่อนร่วมงานและคนในชาติ ดังเนื้อหาในเพลงรักกันไว้เถิด

“รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย จะเกิดภาคไหนๆ ก็ไทยด้วยกัน เชื้อสายประเพณี ไม่มีกีดกั้น เกิดใต้ธงไทยนั้น ปวงชนทุกคนคือไทย”

-------------------------------

อ้างอิงจาก : หนังสือคุณธรรมนำชีวิต พลิกวิกฤตเป็นโอกาส (ขจัดภัย บุรุษพัฒน์)

หมายเลขบันทึก: 637645เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2017 01:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน 2017 01:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท