หลักการแห่งชีวิต
ณ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ เด็กๆ ที่เรียนในหมู่บ้านแห่งนี้ มักจะเป็นเด็กที่มีฐานะที่ค่อนข้างดี โรงเรียนแห่งนี้มีชื่อว่า “โรงเรียนบ้านชายแดนฝึก” มีชั้นเรียนตั้งแต่ ชั้นอนุบาลหนึ่ง ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทุกๆชั้นเรียนก็มีนักเรียนที่เด่นและด้อยตามลำดับ แต่มีห้องเรียนห้องหนึ่งที่น่าจับตามอง คือห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีนักเรียนอยู่ 36 คน แต่ที่น่าจับตามองก็คือ สองคน คนแรก ชื่อ เด็กชายลุตฟี ศรีสุขถาวร เป็นลูกของนายตำรวจใหญ่ ผู้การอิทธิฤทธิ์ ศรีสุขถาวร เด็กชายลุตฟี มีพี่ชายคนหนึ่ง ชื่อ เด็กชายศีลธรรม ศรีสุขถาวร เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ลุตฟีเป็นนักเรียนที่ไม่ค่อยสนใจต่อการเรียนและจะอยู่กับเกมหรือดูการ์ตูนและหลับในห้องเรียนเป็นสัดส่วนใหญ่ และคนที่สองชื่อ เด็กชายสุกรรนพจน์ วิเศษธรรม
คนที่มีความสนใจต่อการเรียนมาก มักจะอยู่กับหนังสือมากกว่าอยู่เฉยๆ อาจารย์ผู้สอนมักจะชอบสุกรรนพจน์มากกว่าคนอื่นๆภายในห้องเรียน ใครจะไป เมื่อมีการสอบเข้าชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 กลับกลายเป็นลุตฟีที่ผ่านการสอบโคตาของโรงเรียนที่โด่งดังแห่งหนึ่ง แถมยังสอบติด Top ด้วย ครูที่สอนในโรงเรียนชายแดนฝึก ทุกคนตกตะลึง และคิดเสมอว่า ลุตฟีต้องใช้เส้นเข้าไปด้วยอำนาจของพ่อตัวเอง เพราะสุกรรนพจน์ที่ใช้ชีวิตอยู่กับหนังสือและการอ่านหนังสือมาตลอด กลับสอบโคตาไม่ผ่าน เรื่องร้าวทุกอย่างก็ผ่านไปสามปี ลุตฟียังครอบครองตำแหน่ง Top 1 มาตลอด ทั้งๆที่เขา ไม่แม้แต่จะจับหนังสือ เวลาเรียนก็หลับ... ส่วนสุกรรนพจน์ก็เรียนห้องทั่วไป และก็ได้ Top1 มาครอบครองไว้เช่นกัน ส่วนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ทั้งสองได้เรียนห้องเดียวกันถึงจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 สุกรรนพจน์สามารถสอบผ่านโคตาคณะศึกษาศาสตร์ สาขาจิตวิทยา และสุตฟีสอบเข้าคณะวิศวะ สาขาวิศวะกรรมไฟฟ้า แต่คนละมหาวิทยาลัยกัน
ก่อนที่พวกเขาจะจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก็มีข่าวออกมาว่า ลุตฟีได้ผ่านการสอบโคตา คณะวิศวะกรรมไฟฟ้า ณ.มหาวิทยาลัยที่โด่งดั่งแห่งหนึ่งในประเทศไทย นักเรียนที่ไม่เคยแม้แต่จะจับหนังสือ หลับเวลาเรียน มันเป็นไปได้ไงกันที่สามารถผ่านการสอบโคตาคณะวิศวะกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยที่โด่งดั่ง แถมยังติด Top อันดับต้นๆอีกด้วย อาจารย์คนหนึ่งถึงกับแปลกใจเลยเรียกลุตฟีให้เข้าไปคุยในห้องพักครูอย่างเป็นส่วนตัว
ลุตฟี : สวัสดีครับอาจารย์
อาจารย์ : สวัสดี นั่งสิ
ลุตฟี : ครับ
อาจารย์ : เธอเป็นอย่างไรบ้าง?
ลุตฟี : สบายดีครับอาจารย์ อาจารย์มีอะไรให้ผมทำป่าวครับ ถึงเรียกผมมาพบเป็นการส่วนตัวแบบนี้ครับ
อาจารย์ : อาจารย์ไม่มีอะไรให้เธอทำหรอก แต่ มีบางอย่างที่อาจารย์อยากถามเธอ
ลุตฟี : อะไรหราครับอาจารย์?
อาจารย์ : เธอมาโรงเรียนเกือบทุกวัน งานที่อาจารย์ทุกวิชาเธอไม่มีปัญหาก็จริง แต่เธอก็ไม่เคยสนใจต่อการเรียน ไม่แม้แต่จะมองกระดานตอนที่อาจารย์เขาสอน เธอติด Top มาโดยตลอด เธอทำยังไรหราลุตฟี
ลุตฟียิ้มแล้วตอบอาจารย์ผู้นั้นว่า : ถึงผมไม่มองกระดาน ถึงผมจะหลับ แต่ ความจริงแล้ว ผมก็ฟังเหมือนอื่นเขานี้แหละครับอาจารย์ เพียงแต่ ผมฟังในสิ่งที่เป็นเนื้อและวางหลักการในการเรียน เพราะผมถือว่า อาจารย์ทุกคนมีมุมมองในการสอนเป็นของตัวเอง ซึ่งบางครั้งก็...ต่างจากมุมมองของนักเรียนอย่างผม นักเรียนอย่างผมก็มีความรู้สึกที่จะต้องบังคับตัวเอง ต่อการเรียนวิชานั้นๆ สิ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อตัวผมและอาจารย์ผู้สอน ผมเลยเลือกที่จะหลับในห้องเรียน...คือผมหมายถึง ในบางวิชาครับ แต่พอผมกลับบ้าน ผมจะอ่านหนังสือทบทวนและหาข้อมูล ทำให้ผมก็มีความรู้เหมือนกับทุกคนในห้อง อาจเป็นเรื่องแปลที่ผมติดวิศวะได้ แต่ ไม่แปลกเลยสำหรับผม เพราะผมก็มีความพยายามที่ไม่ต่างจากใคร ที่ต่างกันก็มีแต่ หลักการของผม เท่านั้นครับอาจารย์
อาจารย์ : พอรู้ความจริงแล้ว ก็ไม่น่าแปลกอะไร ถ้าอย่างนั้นก็ เธอเข้าห้องได้
* เพียงแต่เรามีหลักการและการวางแผ่นของชีวิต มันก็คือสิ่งหนึ่งที่จะพลัดดันเราให้ไปสู่จุดมุ่งหมายที่สูงสุดของชีวิต
ไม่มีใครที่เก่งตั้งแต่เกิด และไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จ โดยที่ขาดความพยายาม
#นักคิดหลังคีย์บอร์ด
ไม่มีความเห็น