31. อย่าตีราคาความใส่ใจต่ำเกินไป


31. อย่าตีราคาความใส่ใจต่ำเกินไป


ถาม  เมื่อผมมองดูท่าน ท่านดูเป็นชายยากจนที่มีทรัพย์สินเพียงน้อยนิด เผชิญหน้ากับความยากจนและความชรา เหมือนคนอื่นๆทั่วไป

ตอบ  ถ้าฉันร่ำรวยมาก มันจะแตกต่างกันตรงไหน?

ฉันเป็นอย่างที่ฉันเป็น

ฉันจะเป็นอะไรอื่นได้?

ฉันไม่ได้รวยหรือจน ฉันเป็นฉันเอง

 

ถาม  แต่ท่านก็สามารถรู้สึกได้ถึงความสุขและความเจ็บปวด

ตอบ  ฉันรู้สึกได้ถึงสิ่งเหล่านี้ในความรู้ตัว แต่ฉันไม่ใช่ความรู้ตัว หรือเนื้อหาของมัน

 

ถาม  ท่านพูดว่าในความเป็นเราที่แท้จริง เราล้วนเท่าเทียม

ทำไมประสบการณ์ของท่านจึงแตกต่างจากพวกเรามากนัก

ตอบ  ประสบการณ์จริงของฉันไม่ได้ต่างจากพวกเธอ

ที่แตกต่างกันคือการให้ค่าและทัศนคติของฉัน

ฉันเห็นโลกเดียวกันกับที่เธอเห็น แต่ไม่ใช่ในแบบเดียวกัน

ไม่มีอะไรลึกลับในเรื่องนี้

ทุกคนเห็นโลกผ่านแนวคิดที่เขามีต่อตัวเขาเอง

เธอคิดว่าตัวเองเป็นอะไร เธอก็คิดว่าโลกเป็นแบบนั้น

ถ้าเธอจินตนาการว่าตัวตนของเธอแยกต่างหากจากโลก โลกจะปรากฏในลักษณะแยกต่างหากจากเธอ และเธอจะประสบกับความต้องการและความกลัว

ฉันไม่เห็นว่าโลกแยกต่างหากจากตัวฉัน ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่ฉันต้องการ หรือกลัว

 

ถาม  ท่านคือจุดแห่งแสงสว่างในโลก ไม่ทุกคนที่เป็นเช่นท่าน

ตอบ  มันไม่มีความแตกต่างใดๆเลยระหว่างฉันและคนอื่นๆ ยกเว้นว่าฉันรู้จักตัวเองอย่างที่ฉันเป็น

ฉันคือทั้งหมด ฉันแน่ใจในข้อนี้ แต่เธอไม่

 

ถาม  ถ้าอย่างนั้นเราก็แตกต่างเหมือนๆกัน

ตอบ  ไม่ เราไม่แตกต่าง

ความแตกต่างอยู่แค่ในใจและมีชั่วคราว

ฉันเป็นเหมือนเธอ เธอก็จะเป็นเหมือนฉัน

 

ถาม  พระเจ้าสร้างโลกที่มีความหลากหลายอย่างยิ่ง

ตอบ  ความหลากหลายมีอยู่ในเธอเท่านั้น

เห็นตัวเธออย่างที่เธอเป็น และเธอจะเห็นโลกอย่างที่มันเป็น – เป็นบล็อกเดี่ยวของความจริงแท้ ไม่สามารถแบ่งแยกได้ ไม่สามารถบรรยายได้

พลังสร้างสรรค์ของเธอฉายภาพบนตัวมัน และคำถามทั้งหมดของเธออ้างอิงถึงภาพฉายนี้

 

ถาม  โยคีชาวทิเบตเขียนไว้ว่า พระเจ้าสร้างโลกเพื่อเป้าหมายหนึ่ง และดำเนินงานของมันไปตามแผน

เป้าหมายดีและแผนก็ฉลาดมาก

ตอบ  ทั้งหมดนี้แค่ชั่วคราว แต่สิ่งที่ฉันจัดการอยู่คือสิ่งที่เป็นนิรันดร์

พระเจ้าและจักรวาลของพระองค์ท่านมาแล้วไป

อวตาร (avatars) ตามกันมารุ่นต่อรุ่นอย่างไม่สิ้นสุด และท้ายที่สุด เราล้วนกลับไปที่จุดเริ่มต้น

ฉันพูดถึงเฉพาะแหล่งกำเนิดที่ไร้กาลเวลาของพระเจ้าทุกพระองค์ และจักรวาลทั้งหมดของพระองค์ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต

 

ถาม  ท่านรู้จักทุกจักรวาลหรือเปล่า? ท่านจำมันได้ไหม?

ตอบ  เมื่อเด็กชายสองสามคนจัดเตรียมละครเวทีเล่นสนุกๆ มันมีอะไรให้ดูและให้จดจำหรือ?

 

ถาม  ทำไมครึ่งหนึ่งของมนุษยชาติเป็นผู้หญิง อีกครึ่งหนึ่งเป็นผู้ชาย?

ตอบ  เพื่อความสุขของพวกเขา

สิ่งไร้อัตตาตัวตน (avyakta) กลายเป็นอัตตาตัวตน (vyakta) เพียงเพื่อความสุขในความสัมพันธ์

ด้วยความสง่างามของคุรุของฉัน ฉันสามารถมองสิ่งไร้อัตตาตัวตนและอัตตาตัวตน ด้วยนัยน์ตาที่เท่าเทียม

ทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวสำหรับฉัน

ในชีวิต อัตตาตัวตนหลอมรวมในสิ่งไร้อัตตาตัวตน

 

ถาม  อัตตาตัวตนเกิดขึ้นจากสิ่งไร้อัตตาตัวตนได้อย่างไร?

ตอบ  ทั้งสองต่างก็เป็นแง่มุมของความจริงแท้

เป็นการไม่ถูกต้องที่จะพูดถึงแง่หนึ่งก่อนอีกแง่หนึ่ง

แนวความคิดเหล่านี้เป็นของสภาวะตื่น

 

ถาม  อะไรนำมาซึ่งสภาวะตื่น?

ตอบ  ที่รากเหง้าของทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้น คือความต้องการ

ความต้องการและจินตนาการ เจือจุนและเสริมสร้างกันและกัน

สภาวะที่สี่ (turiya) เป็นสภาวะของการเฝ้าดูเฝ้ารู้อย่างบริสุทธิ์ การตระหนักที่ไร้ความยึดติด ไร้ความรักและไร้คำพูด

มันเป็นเหมือนที่ว่าง ไม่ถูกกระทบโดยสิ่งใดๆที่มีอยู่ภายในมัน

ปัญหาทางกายและทางใจไม่สามารถเข้าถึงมัน- ปัญหาเหล่านั้นอยู่ภายนอก – อยู่ที่นั่น – ในขณะที่ผู้เฝ้าดูเฝ้ารู้อยู่ “ที่นี่” เสมอ

 

ถาม  อะไรคือความจริงแท้ ผู้สังเกตหรือสิ่งที่ถูกสังเกต?

ผมมีแนวโน้มจะเชื่อว่าจักรวาลที่เป็นสสารวัตถุเป็นความจริง และจิตใจที่เฝ้ารู้เฝ้าดูเป็นสิ่งเปลี่ยนแปลงและชั่วคราว

ท่านดูเหมือนจะบอกว่าความจริงแท้คือสภาวะผู้เฝ้าดูเฝ้ารู้ที่อยู่ภายใน และปฏิเสธความเป็นจริงของโลกภายนอกที่เป็นรูปธรรม

ตอบ  ทั้งผู้เฝ้าดูเฝ้ารู้และสิ่งถูกรู้ ล้วนเปลี่ยนแปลงและชั่วคราว

มี่อะไรจริงเลยสำหรับทั้งสองอย่างนั้น

จงค้นหาสิ่งถาวรในการดับ ซึ่งเป็นปัจจัยคงที่หนึ่งเดียวในทุกประสบการณ์

 

31. อย่าตีราคาความใส่ใจต่ำเกินไป

3/5

ถาม  ปัจจัยคงที่คืออะไร?

ตอบ  การที่ฉันเรียกชื่อมันต่างๆ และชี้ให้เห็นมันในหลายๆแบบ จะไม่ช่วยอะไรเธอมากนัก นอกจากเธอมีขีดความสามารถที่จะเห็น

ชายผู้มีตามัวจะไม่เห็นนกแก้วที่เกาะบนกิ่งไม้ ไม่ว่าเธอจะชี้ให้เขาเห็นอย่างไรก็ตาม

อย่างดีที่สุดที่เขาจะเห็นคือนิ้วมือของเธอที่ชี้ไป

ดังนั้น ขั้นแรก ปรับปรุงสายตาของเธอ เรียนรู้ที่จะมอง แทนที่จะจ้อง แล้วเธอก็จะสามารถมองเห็นนกแก้ว

นอกจากนี้ เธอต้องกระหายที่จะเป็น

เธอต้องการทั้งความแจ่มชัด และความมุ่งมั่นที่จะรู้เกี่ยวกับตัวเอง

เธอจำเป็นต้องมีวุฒิภาวะของหัวใจและใจ ซึ่งเกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นที่จะประยุกต์ใช้สิ่งที่เธอเข้าใจน้อยมากนี้ ในชีวิตประจำวัน

ไม่มีคำว่าความประนีประนอมใน โยคะ

ถ้าเธอต้องการที่จะผิดบาป จงผิดบาปอย่างเต็มที่และเปิดเผย

ความผิดบาปก็มีบทเรียนที่จะสอนแก่ผู้ผิดบาปที่มุ่งมั่น ในลักษณะของคุณงามความดี – นักบุญที่มีความมุ่งมั่น

มันเป็นการผสมของสิ่งที่เป็นความหายนะอย่างยิ่งทั้งคู่

ไม่มีอะไรที่จะบล็อคเธออย่างมีประสิทธิภาพมากเท่ากับการประนีประนอม เพราะมันแสดงถึงการขาดความมุ่งมั่น ถ้าไม่มีความมุ่งมั่น ก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้สำเร็จ

 

ถาม  ผมยอมรับเรื่องความเข้มงวด แต่ในทางปฏิบัติ ผมอยู่ข้างความหรูหรา

นิสัยการวิ่งไล่ตามความสุขและหลีกหนีความเจ็บปวดฝังรากลึกอยู่ในตัวผม ความตั้งใจดีทั้งหมดของผม ซึ่งโลดแล่นในระดับของทฤษฎี แต่ไม่มีรากเหง้าในชีวิตประจำวันของผม

การบอกผมว่าผมไม่ซื่อสัตย์ไม่ช่วยผม เพราะผมไม่รู้วิธีทำให้ตัวเองซื่อสัตย์

ตอบ  เธอไม่ได้ซื่อสัตย์หรือไม่ซื่อสัตย์ – การตั้งชื่อให้กับสภาวะทางใจจะดีแค่สำหรับการแสดงความพอใจหรือไม่พอใจของเธอ

ปัญหาไม่ใช่ของเธอ – มันเป็นของใจเท่านั้น

จงเริ่มโดยการปลดปล่อยตัวเธอเองจากใจของเธอ

เตือนตัวเองอย่างเฉียบขาดว่าเธอไม่ใช่ใจ และปัญหาของใจไม่ใช่ปัญหาของเธอ

 

ถาม  ผมอาจบอกตัวเองซ้ำๆว่า – “ฉันไม่ใช่ใจ ฉันไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาของใจ” แต่ใจยังมีอยู่ และปัญหาของมันก็ยังอยู่เหมือนที่มันเป็น

โปรดอย่าบอกผมว่ามันเป็นเพราะผมไม่มุ่งมั่นพอ และผมควรจะมุ่งมั่นมากขึ้น

ผมรู้ และยอมรับ และขอถามท่านแค่ว่า – จะทำอย่างไร?

ตอบ  อย่างน้อยเธอก็เอ่ยปากถาม นั่นดีพอแล้วสำหรับการเริ่มต้น

ให้ทำต่อไป ขบคิด สงสัย ใจจดจ่อที่จะพบหนทาง

รู้อยู่กับตัวเอง เฝ้ามองใจของเธอ ให้ความสนใจมันอย่างเต็มที่

อย่ามองหาผลในเวลาอันสั้น เธออาจไม่สามารถสังเกตมันได้เลย  

โดยที่เธอไม่รู้ ใจของเธอจะเปลี่ยนแปลง ความคิดของเธอจะแจ่มชัด ใจจะเต็มไปด้วยความเมตตา พฤติกรรมของเธอจะบริสุทธิ์สะอาด

เธอไม่ต้องตั้งเป้าที่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ – เธอจะเป็นผู้รู้ผู้เห็นการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

เพราะสิ่งที่เป็นเธอในขณะนี้ คือผลของการไม่ใส่ใจกับผลลัพธ์ และความเป็นเธอในอนาคตจะเป็นผลของความใส่ใจ

 

ถาม  ทำไมเพียงแค่ความใส่ใจจึงทำให้เกิดความแตกต่างได้?

ตอบ  ที่ผ่านมา ชีวิตของเธอมืดมนและไม่สงบ (tamas และ rajas)

ความใส่ใจ ความตื่นตัว ความตระหนัก ความชัดเจน ความคึกคัก พละกำลัง ล้วนเป็นการแสดงถึงบูรณภาพ ความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติที่แท้ของเธอ (sattva)

มันเป็นธรรมชาติของ sattva ที่จะกลับไปกลมเกลียวและทำให้ tamas และ rajas เป็นกลาง และสร้างบุคลิกภาพขึ้นมาอีกครั้งให้สอดคล้องกับธรรมชาติที่แท้ของตัวตน

Sattva คือคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของตัวตน เอาใจใส่และเชื่อฟังเสมอ

 

ถาม  และผมจะเข้าถึงมันได้โดยการให้ความใส่ใจแค่นั้นใช่ไหม?

ตอบ  อย่าประเมินค่าความใส่ใจต่ำเกินไป

มันหมายถึงความสนใจและความรัก

การที่จะรู้ ทำ ค้นพบ หรือสร้างสรรค์ เธอต้องให้หัวใจกับมัน – ซึ่งหมายถึงความใส่ใจ

พรทั้งหลายหลั่งไหลออกมาจากมัน

 

ถาม  ท่านแนะนำพวกเราให้มุ่งเน้นที่สภาวะ “ฉันเป็น”

นี่ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของความใส่ใจใช่ไหม?

ตอบ  จะมีอะไรอื่นอีกเล่า?

ให้ความใส่ใจที่ไม่ว่อกแวกต่อสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ – ตัวเธอเอง

ในจักรวาลส่วนตัวของเธอ เธอคือศูนย์กลาง – ถ้าไม่รู้จักศูนย์กลาง แล้วเธอจะรู้อะไรได้?

 

ถาม  แต่ผมจะรู้จักตัวเองได้อย่างไร?

การรู้จักตัวเอง ผมต้องอยู่ห่างจากตัวเอง

แต่สิ่งที่ออกห่างจากตัวผมย่อมไม่ใช่ตัวผม

ดังนั้น ดูเหมือนว่าผมจะไม่สามารถรู้จักตัวเองได้ รู้จักได้แค่สิ่งที่ผมยอมรับว่าเป็นตัวผม

ตอบ  ก็ใช่ มันก็เหมือนกับการที่เธอไม่สามารถเห็นใบหน้าของเธอ เห็นได้เพียงภาพสะท้อนในกระจก ดังนั้นเธอสามารถรู้ได้แค่ภาพที่สะท้อนจากกระจกสเตนเลสแห่งความตระหนักที่บริสุทธิ์เท่านั้น

 

ถาม  ผมจะพบกระจกที่ว่าได้อย่างไร?

ตอบ  ก็แค่กำจัดสิ่งแปดเปื้อนออกไป

เห็นคราบเปื้อน และกำจัดมัน

คำสอนโบราณถูกต้องเสมอ

 

ถาม  อะไรทำการเห็น และอะไรทำการกำจัด?

ตอบ  ธรรมชาติของกระจกที่สมบูรณ์แบบเป็นไปในลักษณะที่เธอจะไม่สามารถเห็นมันได้

ทุกอย่างที่เธอเห็นก็คือคราบเปื้อน

จงหันหนีมัน ทิ้งมันไป รู้ว่ามันเป็นสิ่งไม่มีใครต้องการ

 

ถาม  ทุกสิ่งที่ถูกรู้ เป็นคราบเปื้อนหรือ?

ตอบ  ทั้งหมดคือคราบเปื้อน

 

ถาม  โลกทั้งหมดคือคราบเปื้อน

ตอบ  ใช่ เป็นเช่นนั้น

 

ถาม  แย่จริง ถ้าอย่างนั้น จักรวาลก็ไม่มีคุณค่าอะไรเลยหรือ?

ตอบ  มันมีคุณค่ามหาศาล เมื่อเธอไปเหนือจักรวาล เธอจะเข้าถึงความเป็นเธอที่แท้จริง

 

ถาม  แล้วทำไมมันจึงต้องแสดงตนออกมาในลักษณะของสิ่งต่างๆตั้งแต่แรกด้วยเล่า?

ตอบ  เธอจะรู้เมื่อมันสิ้นสุดลง

 

ถาม  มันจะมีวันสิ้นสุดลงไหม?

ตอบ  มีสิ สำหรับเธอ

 

ถาม  การสิ้นสุดเริ่มเมื่อไหร่?

ตอบ  เดี๋ยวนี้

 

ถาม  แล้วมันจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่?

ตอบ  เดี๋ยวนี้

 

ถาม  มันไม่ได้สิ้นสุดเดี๋ยวนี้

ตอบ  เพราะเธอไม่ยอมให้มันสิ้นสุด

 

ถาม  ผมอยากยอมให้มันสิ้นสุด

ตอบ  เธอไม่ยอม ชีวิตทั้งหมดของเธอเชื่อมต่อกับมัน

อดีตและอนาคตของเธอ ความต้องการและความกลัวของเธอ ทั้งหมดฝังรากอยู่ในโลก

ถ้าไม่มีโลก เธออยู่ที่ไหน เธอเป็นใคร?

 

ถาม  แต่นั่นคือสิ่งที่ผมมาที่นี่เพื่อหาคำตอบ

ตอบ  และฉันก็กำลังบอกตรงๆว่า – ค้นให้พบการตั้งหลักที่เหนือขึ้นไป และทุกอย่างจะชัดเจนและง่ายดาย

 

ศรี นิสาร์กะทัตตะ มหาราช

“I AM THAT”

 

หมายเลขบันทึก: 635560เขียนเมื่อ 1 กันยายน 2017 22:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 กันยายน 2017 22:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท