ก่อนอื่นผมขอขอบคุณความโชคดีที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มอบโอกาสอันพิเศษให้ผมได้เรียนรู้ในห้องเรียนแห่งความสุข คงหาโอกาสยากและคงมีไม่กี่ห้องเรียนที่ผู้เรียนได้เรียนรู้หนังสือดี ๆ หลายเล่มในเวลาไม่กี่วัน โดยเฉพาะตำราชีวิตที่ครูจีระ หงส์ลดารมภ์ได้สั่งสม กลั่นกรอง ประมวลความรู้ ประสบการณ์ และข้อคิดดี ๆ ภายใต้บรรยากาศอันอบอุ่่น เป็นมิตร มีบทเรียนหลายวิชาที่ผมได้เรียนรู้ และต่อยอดความคิด โดยขอสรุป เป็น concept
คำว่า C- H- I- R- A ดังนี้
1. C = Connect the dots and Co-creator
หลักสูตรผู้นำนักบริหารเพื่ออนาคตของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปรียบเหมือนจุด ที่ค่อย ๆ ประกอบ และร้อยเรียงกันเป็นรูปร่างให้เห็นอนาคตและทิศทางของการร่วมสร้างมหาวิทยาลัยด้วยพลังของคนรุ่นใหม่ โดยเร่ิมต้นจากการเขย่าความคิดให้ตระหนักถึงบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ ในฐานะ คน ม.อ. รวมทั้งเปิดมุมมอง เปิดความคิดให้ก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัย (Comfort zone) สู่พื้นที่แห่งการเรียนรู้ (Leaning space)
สาระความรู้ที่ได้จากช่วงที่ 1 ทำให้เห็นภาพผู้นำนักบริหารคทั้งมิติภายในและภายนอก ทั้งทฤษฎีผู้นำประเภทต่าง ๆ ที่ทำให้เห็นว่า มนุษย์ที่ก้าวมาสู่การเป็นผู้นำล้วนมีเอกลักษณ์และความแตกต่าง ไม่มีผู้นำใดสมบูรณ์แบบ แต่เราเรียนรู้จากความไม่สมบูรณ์แบบเพื่อหาความสมดุลในแบบฉบับของเรา การเรียนรู้ทักษะทางสังคมของผู้นำทั้งการพูดต่อสาธารณชน การวางตัว บทเรียนผู้นำกับคุณค่า ความรัก และความหมายต่อส่ิงที่ทำ ผู้นำกับการเปลี่ยนแปลงที่สะท้อนการเตรียมตัวเตรียมพร้อมเพื่อก้าวทันกระแสด้วยใจที่สร้างสรรค์ และบทเรียนผู้นำที่ไม่ลืมคุณค่าของความเป็นมนุษย์และมิติการพัฒนาภายในที่งดงาม
2. H = Happiness at work
กระบวนการสำคัญของการอบรมหลักสูตรนี้คือ Share -Care -Learn ผมมีความสุขทุกครั้งที่เกิดการ “ปะทะทางความคิด” ทำให้ผมเห็นพลังและศักยภาพของเพื่อนสมาชิกที่นำมาใช้อย่างสร้างสรรค์และมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ โจทย์ที่อาจารย์กำหนด เมื่อทุกคนเปิดใจเรียนรู้ ใส่ใจดูแลกัน และร่วมแบ่งปันอย่างไมตรี การทำงานร่วมกันย่อมก่อให้เกิดความสุข เกิดการปะทะอย่างสร้างสรรค์ และมีความสุขที่จะเดินทางเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งเป็นการขัดเกลาใจผมไปพร้อมกับให้ตระหนักที่จะ Care -Share-Learn มากกว่าการ Share จนลืมเรียนรู้ และลืมใส่ใจคนรอบข้าง
3. I = Inspiration and Internal Motivative Foce
ผมชอบคำที่อาจารย์ใช้ คือ Glooming Young Leader ประโยคนี้จุดประกายทำให้ผมนึกภาพต้นไม้ใหญ่ที่แตกกิ่งก้านใบให้ร่มเงา เปรียบเหมือน ม.อ. แล้วย้อนมองตนเอง ในเวลานี้ผมเสมือนใบไม้ที่แตกยอดอ่อน โดยมีใบไม้สีเขียวเข้มและสีน้ำตาลซึ่งผ่านแดด ผ่านฝนคอยโอบอุ้มประคับประคอง จึงเกิดแรงกระเพื่อมในใจที่อยากจะ Transform ชุดความคิดให้เติบโต (Growth Mindset) ไปพร้อมกับกระบวนการเรียนรู้ 4L’s คือ การเรียนรู้กระบวนการ (Methodology) ที่ทันสมัย สดใหม่ มีการวิเคราะห์กรณีศึกษาตัวอย่าง เห็นคุณค่าของโอกาส (Opputurnity) ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในฐานะ Partnership ทางปัญญา การสร้างบรรยายกาศการเรียนรู้ที่เน้นการมีส่วนร่วม (Environment) และการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ (Community) ที่เกื้อกูลกัน
4. R= Real and Relevance
ผมมองว่า Real และ Relevance เป็นคำที่ทรงพลังที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง โดยเน้น “เเก่น” ที่มีความหนักแน่น ชัดเจน (Real) และสามารถนำมาต่อยอดเชื่อมโยงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในบริบทของมหาวิทยาลัยและบริบทของสังคม (Relevace) บทเรียนทั้ง 7 วิชาหากพิจารณาแล้ว ผมคิดว่ามีความตรงและสอดคล้องกับบริบทที่ผู้นำนักบริหารต้องมีีตระหนัก และมีความตื่นตัว ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาทุนทางอารมณ์ (Emotion Capital) ของ Chira’s ways ประกอบด้วย บทเรียนวันที่ 1 ปฐมนิเทศ ภาวะผู้นำ และทักษะต่อสาธารณชน สอดคล้องกับคุณลักษณะความมุ่งมั่น ความกล้าหาญ (Courage) และ การติดต่อสัมพันธ์ (Communication) วันที่ 2 Passion and Engagement และ การพัฒนาองค์กรแห่งนวัตกรรม สอดคล้องกับ การมองโลกที่ดี (Optimism) และความเอื้ออาทร (Caring) และวันที่ 3 กลยุทธ์ในการบริหารทรัพยากรบุคคล สอดคล้องกับประเด็น (Self Control)
5. A = Awareness and Apply to Daily life
สุดท้ายนี้การเรียนรู้ในช่่วงแรกทำให้ผมรู้จักตนเอง เข้าใจผู้อื่นมากขึ้น มีกระบวนทัศน์ในการมองโลกที่แตกต่างไปจากเดิม ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน และประยุกต์สู่โลกแห่งความเป็นจริง ผมคิดว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเรียนรู้ประสบการณ์ บทเรียน ทฤษฎี และแนวคิดจากครูผู้เป็นนักคิดและนักปฎิบัติที่ผ่านโลกมาระยะหนึ่ง ซึ่งการเรียนรู้นี้เองที่ทำให้ผมเห็น ถนนที่ทอดยาวสู่ทางเดินชีวิตในอนาคตผมเช่นกัน
ด้วยรัก
หริรักษ์ แกัวกับทอง
ไม่มีความเห็น