14 ธค.49
ที่ราชภัฎเชียงราย นำระบบห้องสมุดอัตโนมัติมาใช้งาน ตั้งแต่ 2536 พัมนาเอง-เขียนเอง-จนถึง version ปัจจุบัน สมบูรณ์แบบ ไม่น้อยหน้า 3 แห่ง ที่กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ คาดว่าน่าจะเหลืออีก 13% จึงจะเสร็จเรียบร้อย แต่ที่เชียงราย โปรแกรมใหม่ล่าสุด สมบูรณ์ใช้งานได้ดีเยี่ยมมาตั้งแต่ 2547 เป็น งานระบบที่พัฒนาต่อ ยอดมาจาก แนวคิดต้นแบบของ CLEO แห่ง มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ลองเข้าไปทดลองใช้ดูได้ ที่
http://www.lib.ricr.ac.th โปรแกรมห้องสมุด ที่ดีนั้นจะต้องให้บริการผู้ใช้ ที่หลากหลาย มีข้อบ่งบอกชี้แหล่งของสารสนเทศได้มากกว่า แนวทางของ บัตรรายการเดิมๆ ที่ หน้า OPACมีให้ดูได้แค่ 7-8 บรรทัด คอมพิวเตอร์นั้นบอกอะไรกับเราได้มากกว่านั้นมากมายและ
จำเป็นต่อการนำมาใช้งานการสืบค้นข้อมูล เชื่อมต่อได้ ฯ
ห้องสมุดทุกวันนี้ และในอนาคต จะมีวัสดุสารสนเทศ เหลือแค่ 3 ชนิด/ประเภท เท่านั้น คือ 1. หนังสือ /papers 2.CD/DVD ที่บันทึกสารสนเทศทุกชนิดในรูปแบบ digital 3.e-information Online
(ลองนึกดูซิว่า multimedia ทั้งหลายแบบเดิมๆนั้น เป็นวัตถุโบราณ ที่มีแต่เครื่องครุภัณฑ์ หาตัววัสดุไม่ได้ ไม่มีขาย ไม่มีใครผลิต ยกเว้น CD/DVD เท่านั้น)
สังคมของการแสวงหาความรู้ เปลี่ยนไป กระบวนการของห้องสมุดทั้งหลาย กำลังจะล้มตายไป บรรณารักษ์ ทุกๆคน ต้องปรับกระบวนทรรศน์ใหม่ ความรู้ต้องดีเยี่ยมในหลายๆด้าน ต้องชี้นำและสร้างจุดเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศอย่างลึกซึ้ง
ชี้นำคอมพิวเตอร์ให้ทำงาน ไม่ใช่ให้คอมพิวเตอร์มาชี้นำ บรรณารักษ์ กระบวนการจัดการข้อมูลต้องพัฒนาใหม่เกือบทั้งหมด
และสิ่งที่จะต้อง กลับมาพิจารณากันอีกครั้งในกระบวนการสืบค้น คือ การสร้างแนวคิดเรื่อง Subject Heading กับ การใช้ Keyword ในการสืบค้นสารสนเทศ
งานบริการด้านสารสนเทศอ้างอิง /Reference ถ้าในอนาคตอันใกล้นี้ Encyclopedia & Dictionary สามารถเรียกใช้ผ่าน
โทรศัพท์มือถือ/โน้ตบุ้ค ได้ ????.....
งานบริการสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง/วารสาร/หนังสือพิมพ์รายวัน ที่สามารถสืบค้นผ่าน ระบบ onlineได้ทุกวันทุกเวลา.........????
ห้องสมุด กับการเป็นแหล่งชี้นำความรู้ของสังคมแห่งการเรียนรู้
จะต้องดำเนินการ ในแบบแผนอย่างไร และอะไร คือสิ่งจำเป็นสูงยิ่งในการปฏิบัติการ.