เช้านี้ คนไทยกินอะไร


เราๆ ท่านๆ คงจะชอบอาหารเช้าประเภทง่ายๆ สบายๆ และเร็ว... คนไทยประมาณ 2 ใน 3 (65%) กินอาหารมื้อเช้า

                              

เราๆ ท่านๆ คงจะชอบอาหารเช้าประเภทง่ายๆ สบายๆ และเร็ว… คนไทยประมาณ 2 ใน 3 (65%) กินอาหารมื้อเช้า <ul><li><div class="MsoBodyTextIndent" style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify"> กลุ่มที่กินข้าวเช้ามากได้แก่ คนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป (เช่น ผู้เขียน ฯลฯ) คนวัยหนุ่มสาว และผู้ใหญ่ตอนต้นกินข้าวเช้าน้อยที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือน </div></li></ul><p>Dads Breakfast In Bed</p><ul>

  • มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติทำการสำรวจอาหารเช้าของกลุ่มตัวอย่างที่กินข้าวเช้าว่า กินอะไร โดยให้ส่งภาพอาหารมื้อเช้าเข้าร่วมโครงการในระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2548
  • ผลปรากฏดังตาราง (ตารางที่ 1)
  • </ul>    ตารางที่ 1: รูปแบบอาหารเช้าของกลุ่มตัวอย่าง <table border="1" cellspacing="0" cellpadding="0" class="MsoTableGrid" style="border-collapse: collapse; border: medium none"><tbody>

    ประเภทอาหาร ตัวอย่าง ร้อยละ อาหารจานเดียว ข้าวมันไก่ 57 กาแฟหรือเครื่องดื่มพร้อมอาหารอย่างอื่น กาแฟ ขนมปังทาเนย 24 อาหารสำรับ ข้าวสวยพร้อมกับข้าว 8 กาแฟหรือเครื่องดื่มอย่างเดียว กาแฟใส่นม 7 ผลไม้ กล้วย 3 วิตะมินเสริม วิตะมินรวม 1

    </tbody></table><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent">  </p>มื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญของทุกคน เนื่องจากเราอดอาหารมา 10-12 ชั่วโมงนับจากข้าวเย็น น้ำตาลในเลือดมักจะต่ำในช่วงเช้า… ถ้าไม่กินข้าวเช้าอาจทำให้โมโหหิวได้ (ยกเว้นผู้บริหารบางคนโมโหได้โดยไม่ต้องหิว) <ul><li><div class="MsoBodyTextIndent" style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify"> สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดลพบว่า กลุ่มตัวอย่างได้รับพลังงานจากอาหารเช้าร้อยละ 17 (ผู้ชาย) และร้อยละ 20 (ผู้หญิง) น้อยกว่าสัดส่วนที่ควรได้ในมื้อเช้า ซี่งควรได้รับพลังงานอย่างน้อยร้อยละ 25 </div></li></ul><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent"> Sushi</p>ขณะเดียวกันสัดส่วนไขมันกลับสูงไปเล็กน้อยคือ ผู้ชายได้พลังงานจากไขมันคิดเป็น 30.2% ของพลังงานจากอาหารมื้อเช้า ผู้หญิงได้พลังงานจากไขมันคิดเป็น 34.4% ของพลังงานจากอาหารมื้อเช้า <ul><li><div class="MsoBodyTextIndent" style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify"> วิธีแก้ไขให้สัดส่วนไขมันลดลงหน่อย พลังงานโดยรวมเพิ่มขึ้นหน่อยทำได้ง่ายๆ โดยการเพิ่มผลไม้ที่ไม่หวานจัด เช่น กล้วยน้ำว้า 1-2 ผล ฯลฯ </div></li></ul><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent"> Pizza Parlor 2</p>ถ้าต้องการลดน้ำหนัก… เรียนเสนอให้เพิ่มผลไม้กับผักเข้าไป เช่น แครอท แตงกวา ส้ม ฯลฯ <ul><li><div class="MsoBodyTextIndent" style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-align: justify"> ถ้าต้องการให้อิ่มนานละก็… น่าจะลองข้าวโอ๊ตใส่นมไขมันต่ำ หรือนมไม่มีไขมัน แถมแอปเปิลไปอีกหน่อย เข้าใจว่า คงจะอิ่มไปได้ 4 ชั่วโมงทีเดียว </div></li></ul>Sipping Tea <ul><li><div class="MsoBodyTextIndent" style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify">เช้านี้ท่านผู้อ่านกินข้าวกับอะไรครับ… </div></li></ul>    แหล่งข้อมูล: <ul>

  • ขอขอบพระคุณ > มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ. อาหารและน้ำ ความอยู่รอดและความสุขที่ยั่งยืน: รายงานต่อประชาชน พุทธศักราช 2548. พิมพ์ครั้งที่ 1. 2549. หน้า 32-33. // เชิญอ่านเอกสารฉบับวิชาการได้ที่ www.thainhf.org/foodandwater
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ ศูนย์มะเร็งลำปาง จัดทำ > ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๙.
  • ยินดีให้ท่านผู้อ่านนำไปใช้โดยไม่เกี่ยวข้องกับการค้าได้ครับ...
  • </ul>    เชิญอ่าน & ดาวน์โหลดที่นี่: <ul>

  • อ่านบ้านสุขภาพ >>> http://gotoknow.org/blog/health2you
    เชิญอ่านบันทึกย้อนหลังได้จากปฏิทินบันทึกทางขวามือ โดยเลือกเดือน และเลือกอ่านเรื่องที่ท่านสนใจ
  • อ่านบ้านสาระ >>> http://gotoknow.org/blog/talk2u
  •  Download แฟ้ม PDF >>> www.lampangcancer.com
  • </ul>

    หมายเลขบันทึก: 62848เขียนเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2006 15:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


    ความเห็น (16)
    • ผมหุงข้าวทาน
    • แต่ไปซื้อกับข้าวครับ
    • เพราะไม่มีที่ทำ
    • ขอบคุณคุณหมอสำหรับข้อมูลครับผม

    ขอขอบคุณอาจารย์ขจิต และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

    • หุงข้าวทานเป็นพื้นฐานของสุขภาพก็ว่าได้
    • คนไทยทานข้าววันละ 6-11 ทัพพี หรือส่วนบริโภค

    เพียงแต่กินข้าวกล้องแทนข้าวขาวจะได้...

    • (1). เส้นใย / ไฟเบอร์
      (2). แร่ธาตุ วิตะมิน น้ำมันชนิดดี(เล็กน้อย) สารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากจากจมูกข้าวที่ติดมากับข้าวกล้อง

    ถ้าต้องการเพิ่มคุณค่า...

    • เพียงเพิ่มนมไม่มีไขมัน หรือไขมันต่ำ หรือผัก ผลไม้ง่ายๆ เช่น แอปเปิล ส้ม มะละกอ แตงกวา แครอท ฯลฯ เข้าไปได้

    ขอให้อาจารย์ และท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุข มีสุขภาพดี มีอาหารเช้าๆ ดีทานไปนานๆ ครับ...

    • ขอบคุณคุณหมอมากครับผม
    • ไปงาน KM ที่กรุงเทพฯหรือเปล่าครับ

    ขอขอบคุณอาจารย์ขจิต และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

    • ผมคงไม่มีโอกาสไปงาน KM ที่กรุงเทพฯ ครับ
    • ทว่า... ขอแสดงความยินดีกับสมาชิก G2k ทุกท่านที่ได้ไปร่วมงาน ได้ไปแสดงความเคารพครูบาอาจารย์ ได้พบปะญาติสนิทมิตรสหาย

    ขอให้อาจารย์ และท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพดี และมีโอกาสพบปะคนดีๆ ครับ...

     

    • แหมเสียดายจัง ไม่ได้เจอตัวจริงของคุณหมอ แต่ไม่เป็นไรคะ ติดตามทางบล็อกก็คงง่ายกว่า
    • ตอบคำถามที่ว่าเมื่อเช้ากินข้าวกับอะไร  ....ทานหมูปิ้งกับข้าวเหนียวคะ...แต่วันอื่นๆ ก็เป็นข้าวกับ ไข่เจียวหรือแกง(แกงตักนะคะ ที่ขายทั่วไป)
    • ขอบคุณคุณหมอสำหรับความรู้โภชนาการ  ได้ประโยชน์มากคะ

    ขอขอบคุณอาจารย์จ๊ะจ๋า และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

    • ขอแสดงความยินดีกับอาจารย์จ๊ะจ๋าที่อาจารย์สนใจสุขภาพ...

    ถ้าซื้อกับข้าวมาทาน...

    • เพียงหุงข้าวกล้อง เพิ่มผักง่ายๆ เช่น แตงกวา มะเขือเทศ (น้ำมะเขือเทศก็ได้) ฟักทองนึ่ง (นึ่งได้ในซึ้งด้านบนหม้อหุงข้าวไฟฟ้า) ฯลฯ เท่านี้ก็จะได้อาหารสุขภาพแบบเบาๆ เลย

    ขอขอบคุณ...

    • ขอขอบคุณอาจารย์จ๊ะจ๋า และท่านผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านบล็อก

    กราบขออภัย ขออภัยท่านผู้อ่านที่ไม่มีโอกาสไปร่วมประชุมบล็อก หรือ km กับท่านผู้อ่านท่านอื่นๆ...

    • ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาของสมาชิก g2k และท่านผู้อ่านทุกท่านที่มีส่วนสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้กับเมืองไทย (+ ลาว + กัมพูชา.. ถ้าเพื่อนบ้านที่มีภาษาใกล้เคียงกันมาใช้บริการ)

    ขอให้อาจารย์จ๊ะจ๋า และท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพดี มีอาหารที่ดีกับสุขภาพทุกเช้าไปนานๆ ครับ...

    • เรียนเสนอให้อ่านเรื่อง "การดูแลผิวในหน้าหนาว" ของท่านอาจารย์ ผศ.ดร.นพ.สุขุม เจียมตน อาจารย์แพทย์ผิวหนังศิริราช
    • โปรดคลิกที่นี่ [ Click ] หรือคลิกที่นี่ >>> http://gotoknow.org/blog/skin/63592
    ขอบคุณคะสำหรับคำแนะนำให้เข้าไปอ่านเรื่อง การดูแลผิวในหน้าหนาว มีประโยชน์มากคะ  

    ขอขอบคุณอาจารย์จ๊ะจ๋า...

    • ขอบคุณครับ
    • เรื่องพบได้บ่อยในหน้าหนาวคือ ยิ่งถู(สบู่)ยิ่งคัน

    ความชื่นในหน้าหนาว (ฤดูหนาว - ครูภาษาไทยท่านหนึ่งบอกว่า ไม่ให้ใช้คำว่า หน้าหนาว เพราะเป็นฤดู... เวลาผ่านไป 30 ปีเศษแล้ว ตอนนี้ท่านคงไม่ถือแล้วกระมัง - ผู้เขียนอายุ 45 ปี บอกอายุเสียเลย เพราะหัวหงอกก่อนวัย)

    • หน้าหนาว > ความชื้นในอากาศต่ำ > น้ำระเหยจากผิวหนังเพิ่มขึ้น > ผิวแห้ง > คัน
    • หลายๆ ท่านรีบถูสบู่ใหญ่ > ผิวยิ่งแห้ง > ยิ่งคัน
    • วิธีง่ายๆ คือ ถูสบู่น้อยลง... เช่น ลดจากวันละ 2 ครั้ง เหลือวันละ 1 ครั้ง ฯลฯ และใช้โลชั่น หรือน้ำมันทาอย่างที่ท่านอาจารย์ ผศ.ดร.นพ.สุขุม เจียมตนแนะนำครับ...

    ขอให้อาจารย์ และท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุข มีสุขภาพดี มีผิวพรรณดี ไม่มีผด ผื่น คัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าหนาว หน้าฝน หน้าร้อน (รวมฤดูใบไม้ร่วง และฤดูใบไม้ผลิแถมไปอีก)...

    • เสียดายที่จะไม่ได้พบคุณหมอตัวเป็นๆ
    • ขอบคุณมากครับ

    มื้อเช้านะครับ

    • ทานเนสวิต้าหนึ่งซอง+ข้าวโอ๊ต 3 ช้อน+งาดำพร้อมกิน 1 ช้อน+ลูกเกต 1 มือ(กะประมาณหยิบใส่ปากนะครับ)
    • น้ำเต้าหู้ใส่เครื่อง 1 ถุง มี ถั่วแดง+ลูกเดือย+วุ้น+งาดำป่น
    • ผลไม้ 1 ถุง แล้วแต่ว่าร้านมีอะไรครับ ปกติจะเป็น ฝรั่ง,มันแกว,แตงโม,สัปปะรด

    ตอนนี้กำลังกลุ้มใจกับน้ำหนักที่เพิ่มเหมือนกันครับคุณหมอ คือ น้ำหนักเพิ่มราวครึ่งกิโลต่ออาทิตย์ แต่ขนาดกล้ามผมไม่ขึ้นตามเลยมา  2 อาทิตย์ละ จากการวัดทุกอาทิตย์เช่นกัน น้ำหนักที่ขึ้นเป็นไขมันไม๊ครับเนี่ย

     

    ขอขอบคุณอาจารย์ขจิต และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

    • ขออภัยที่ไม่มีโอกาสพบอาจารย์ และท่านผู้อ่านแบบ "ตัวเป็นๆ"
    • ตอนนี้พบกับแบบ B2B (blog-to-blog)ไปก่อนก็แล้วกัน...

    ขอแสดงความยินดีกับสมาชิก Go2know และท่านผู้สนใจทุกท่านที่มีโอกาสเข้าร่วมประชุม km ระดับชาติ

    ขอขอบคุณอาจารย์จันทร์เมามาย และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

    • อาหารเช้าของอาจารย์ดูจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพครับ...

    เนสวิต้า... เรียนเสนอให้ตรวจสอบจากฉลากข้างซองว่า มีครีมเทียมหรือไม่

    • ถ้ามีครีมเทียม... เรียนเสนอให้เปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มอื่น เช่น ซื้อโกโก้มาชงเอง... เติมนมไม่มีไขมัน + น้ำตาลเทียม (ถ้าต้องการลดสัดส่วนไขมันในร่างกาย) ฯลฯ
    • โกโก้มีแคลเซียม และแร่ธาตุสูง... ที่สำคัญมีสารช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดมากเกิน

    น้ำเต้าหู้...

    • บางเจ้าอาจจะใส่เนย หรือครีมเทียม (hydrogenated fat) ซึ่งมีไขมันทรานส์สูง... อาจทำให้โคเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) เพิ่ม และโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ลดลง

       Fat Woman 4 เท่าที่ทราบ...

    • น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหลังวัยรุ่นส่วนใหญ่เป็นน้ำหนักไขมัน
    • เรื่องนี้ตรวจได้ง่ายๆ ด้วยเครื่องวัดแรงต้านทานกระแสไฟฟ้าแบบอ่อน (impedance test)...

    เรียนเสนอให้แวะไปที่เซ็นทรัลชิดลม

    • ที่นั่น... แผนกเครื่องกีฬามีบริการวัดฟรี (ปีก่อนไปขอวัดฟรีมาหลายครั้ง... จนเกรงใจเลยซื้อมาเครื่องหนึ่ง)
    • เจ้าเครื่องชั่ง Tanita นี่ไม่เกรงใจเจ้าของเลย... ชอบรายงานผลว่า มวลกระดูกน้อย มวลกล้ามเนื้อน้อย มวลไขมันน้อย
    • ทว่า... เดือนนี้มันมาแปลก... มันบอกว่า มวลไขมัน(ของผม)เพิ่มขึ้นแล้ว
    • ลองพิจารณาดูปรากฏว่า ดื่มน้ำผัก น้ำผลไม้มากเกิน (มีน้ำตาลปนอยู่มาก)...
    • ถ้ากินผัก ผลไม้ธรรมชาติ... ไขมันจะไม่ค่อยขึ้น เนื่องจากเส้นใยทำให้กินได้น้อย

    แคตตาล็อก 7-11 มีเครื่องวัดปริมาณไขมันเหมือนกันครับ... (ขอชมได้ที่ร้าน 7-11)

    • อาหารให้กำลังงานมี 3 ประเภทได้แก่
      (1). คาร์โบไฮเดรต เช่น แป้ง ข้าว น้ำตาล ฯลฯ ให้กำลังงาน 4 แคลอรี / กรัม
      (2). ไขมัน ให้กำลังงาน 9 แคลอรี / กรัม
      (3). โปรตีน ให้กำลังงาน 4 แคลอรี / กรัม
      (4). แอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ ฯลฯ ให้กำลังงาน 7 แคลอรี / กรัม

    อาหารให้กำลังงานมีโครงสร้างพื้นฐานคล้ายๆ กัน

    • (1). ทุกตัวมีคาร์บอน (C), ไฮโดรเจน (H), ออกซิเจน (O) หรือกลุ่ม CHO
      (2). เปลี่ยนกลับไปกลับมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เปลี่ยนง่ายคือ ไม่ว่าจะกินอะไรเกิน... จะเปลี่ยนเป็นไขมัน
      (3). การกินโปรตีนเกิน โดยเฉพาะโปรตีนสัตว์จะได้ไขมันแฝงเร้นจำนวนมาก ทำให้อ้วนง่าย
      (4). โปรตีนมีโครงสร้างทั้ง CHO + N (ไนโตรเจน) +/- S (กำมะถัน) > ทำให้ไตต้องขับของเสียออกในรูปกรด > ไตทำงานหนัก + เสียแคลเซียม

      Fat Man 6วิธีลดไขมันที่ดี...

    • เรียนเสนอให้ลดอาหารที่ให้กำลังงานลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เลิกเหล้า (ถ้าดื่ม)...
    • เหล้าเป็นสารพิษ ทำลายสมอง ตับ และเซลล์เกือบทั้งร่างกาย + เป็นสารก่อมะเร็ง

     Chugger   พี่ชายผม (รังสรรค์ พรเรืองวงศ์ - วิศวกร) ชมรายการสารคดี...

    • ท่านเล่าว่า มีการทดลองกับหนู 2 กลุ่ม
    • หนูกลุ่มที่กินเหล้าจะโง่ลง แก้ปัญหาได้แย่ลง และสมองจะเหี่ยวไปถึง 15%
    • สมองคนที่กินเหล้าจนเหี่ยวจะตกเลือดได้ง่ายกว่าคนทั่วไป

    อาจารย์(จันทร์เมามาย)เป็นคนที่มีสติปัญญาสูง...

    • น่าจะหาโอกาสเข้าอบรมเวชศาสตร์การกีฬาที่ศิริราช
    • หรือโทร.ไปปรึกษาการกีฬาแห่งประเทศไทย... ขอไปชมวิธีฝึกยกน้ำหนัก + วิธีเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
    • มีความรู้แล้วนำมาแบ่งปันกันที่ Go2know...

    ขอให้อาจารย์ และท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุข มีสุขภาพดี และเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสแห่งการพัฒนาไปได้นานๆ...







    • ขอบคุณอาจารย์หมอมากครับที่แนะนำ
    • เรื่องซื้อเครื่องชั่งนี่คิดมานานแล้วครับแต่ยังเสียดายเงินเพราะมัน 2500 บาท....(ผมเปรียบค่าเงินแล้วเลยเอาเงินไปซื้อตุ้มน้ำหนักเเทน) แต่ตอนนี้ต้องคิดอีกทีแล้วครับ ถ้ามันบอกเราได้ถึงมวลกล้ามเนื้อด้วยถือว่าน่าในใจมาก คุณหมอใช้ยี่ห้อ Tanita เหรอครับใช้แล้วดีไหมครับเพราะผมเองยังไม่เคยใช้เลย ไปเจอยี่ห้อโนเนมตัวหนึ่งที่ BigC 1000 บาทเลยไม่มั่นใจว่ามันดีไหม เป็นแบบใส่ถ่าน 2 ก้อนครับ
    • ส่วนข้อเสนอที่จะไปศึกษาที่ศิริราช หรือการกีฬาประเทศไทยอยากไปเหมือนกันครับแต่ติดเวลาไป จะพยายามหาเวลาว่างไปดูครับ

     

     

    ขอขอบคุณอาจารย์จันทร์เมามาย...

    • เครื่องชั่ง Tanita นี่... ขอไปทดลองใช้ฟรีได้ที่เซ็นทรัลชิดลม แผนกเครื่องกีฬาครับ
    • เครื่องวัดมวลไขมันทั้งตัว ไขมันส่วนลึก (ในช่องท้อง) กล้ามเนื้อ กระดูก น้ำ... อะไรทำนองนี้มีที่คณะเทคนิคการแพทย์
    • ถ้ารู้จักใครก็ขอใช้ได้...

    พวกเครื่องชั่งแพงๆ นี่... ใจเย็นๆ ไว้

    • ขั้นแรกไปขอเขาใช้ฟรีก่อน
    • อีกปีหนึ่ง(ถ้าชอบ...) ค่อยซื้อ
    • มีรุ่นต่ำสุดที่วัดได้แต่น้ำหนักตัวกับไขมันประมาณ 1,000 บาทเศษ)

    ใจผมว่า เครื่องชั่ง Tanita มองโลกในแง่ร้าย หรือตั้งมาตรฐานสูงเกินไป

    • มันชอบบอกว่า อะไรๆ ไม่ได้เรื่องสักอย่าง เช่น เนื้อน้อย กระดูกน้อย ไขมันน้อย ฯลฯ
    • พอกินมากหน่อย > ไขมันเพิ่ม > มันบอกว่า เป็นพวกออกกำลังน้อยเสียอีก

    ผมเริ่มออกกำลังต้านแรงตั้งแต่เดือนธันวาคม 2548

    • สาเหตุสำคัญคือ เจ้าเครื่อง Tanita เตือนว่า น้ำหนักตัวน้อย + เนื้อน้อย + ไขมันน้อยเกินไป
    • นี่เกือบจะครบปีแล้ว... ไม่เห็นมันชมอะไรเจ้าของ ชอบแต่บ่นว่า ออกกำลังน้อย
    • ผมชอบเครื่องมือที่มองโลกในแง่ดี เช่น รายงานผลว่า "ดีแล้วๆ พยายามอีกหน่อย อะไรๆ จะดีขึ้น" อะไรทำนองนี้

    ความจริง...

    • ผมเดินประมาณวันละ 2 ชั่วโมง
    • วิ่ง 20-30 นาที สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
    • ออกกำลังต้านแรง สัปดาห์ละ 1-3 ครั้ง

    ถ้าสนใจจะศึกษากีฬาเวชศาสตร์อะไรทำนองนี้...

    • เรียนเสนอให้สืบดูว่า มีการจัดอบรมช่วงไหน และหาโอกาสเข้าไปถามผู้เชี่ยวชาญ
    • อย่าลืมนำกล้องดิจิตอลไปด้วย เพื่อถ่ายภาพมาขึ้นบล็อก

    อะไรที่ประหยัด หรือไม่ต้องซื้อได้... อย่างนี้ดี

    • ได้ข่าวว่า โรงพยาบาลราชวิถีมีเครื่องวัดไขมันแบบละเอียด (ไม่ทราบว่าจริงหรือเปล่า)
    • ถ้าโรงพยาบาลของอาจารย์มีเครื่องวัดเปอร์เซ็นต์ไขมัน + น้ำหนักตัว... นั่นก็ใช้ได้ครับ

    ให้นำเปอร์เซ็นต์ไขมันมาคูณน้ำหนักตัว...

    • จดบันทึกไว้เป็นระยะ
    • เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง... เราจะรู้ได้ทันทีว่า น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น หรือลดลงเป็นกล้ามเนื้อหรือไขมัน
    • ถ้าต้องการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ > ควรจะมีน้ำหนักเพิ่ม + เปอร์เซ็นต์ไขมันลดลง หรือคำนวณไขมันเป็นกิโลกรัมแล้วคงเดิม

    เดือนที่ผ่านมา... ไขมันของผมเพิ่มอย่างรวดเร็วมาก ผมมีแผนงานอย่างนี้...

    • ลดน้ำผลไม้ที่มีรสหวานจัดลง
    • ใช้น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น มะเขือเทศ กีวี ฯลฯ เพิ่มขึ้น
    • ลดปริมาณน้ำมันที่เติมในข้าวจากเดิม... มื้อเช้า 2 ช้อนโต๊ะพูน มื้อเที่ยง 3 ช้อนโต๊ะพูน (เมื่อก่อนน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์)

    ตอนนี้ลดน้ำมันลง

    • เหลือ... มื้อเช้า 1 ช้อนโต๊ะพูน มื้อเที่ยง 2 ช้อนโต๊ะพูน
    • คนที่กินอาหารวันละ 2,000 แคลอรี กินน้ำมันได้วันละประมาณ 4.75 ช้อนโต๊ะ คิดเป็น 598.5 แคลอรี หรือ 30% ของพลังงานรวม
    • เดินเพิ่มวันละ 15-30 นาที (จากเดิมเดินวันละประมาณ 2 ชั่วโมง)

    ขอให้อาจารย์ และท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพดี มีหุ่นดี และมีไขมันไม่มากเกินไปนานๆ...

    ยินดีที่ได้มา ลป.รร. ครับ

    เมื่อวาน (เสาร์) ทำงานที่ตึกผู้ป่วยนอกศิริราช พบผู้มารับบริการด้านผิวหนังมีผิวแห้งกันเป็นทิวแถว สงสัยจะไม่ทันได้อ่านบทความที่เขียนเอาไว้

     ขอบพระคุณอาจารย์วัลลภ ที่ได้ช่วยแนะนำ และลิ้งค์ไปยังบทความที่เขียน ทำให้เป็นประโยชน์และนำความรู้ไปใช้ได้จริงๆ

    เรื่องหน้าหนาวหรือฤดูหนาว มีครูภาษาไทยเคยแนะนำเอาไว้เหมือนกัน แต่ก็ยังชอบใจคำว่าหน้าหนาวอยู่ดีครับ

    หมอสุข

    ขอขอบพระคุณอาจารย์หมอสุขและท่านผู้อ่านทุกท่าน...

    • ผมเป็นสมาชิกบอกรับบันทึกของอาจารย์... อ่านจากบันทึกของอาจารย์ทำให้ทราบว่า โรคผิวแห้งหน้าหนาวพบบ่อยมาก
    • ได้รับความรู้ ความเข้าใจจากบันทึกของอาจารย์มาก

    คนไทยส่วนใหญ่เชื่อในเรื่องความสะอาด...

    • ยิ่งคันยิ่งฟอก(สบู่) > ผิวยิ่งแห้ง > ยิ่งคันใหญ่เลย

    หน้าหนาว + อากาศแห้งอย่างนี้...

    • ถ้าท่านผู้อ่านท่านใดชอบทำบุญ > เรียนเสนอให้ถวาย...
      (1). แชมพู (พระ เณรก็ใช้ได้) > ไม่ใช่บำรุงผม ทว่า... ใช้แล้วโอกาสคันหัวน้อยกว่าใช้สบู่(ฟอกหัว)
      (2). สบู่ที่ผสมมอยเจอไรเซอร์ (moisturizer) หรือสารให้ความชุ่มชื้น หรือสบู่เด็ก > พระ เณรจะได้ไม่เป็นโรคคันจากผิวแห้ง...  

    เรียนเสนอให้ท่านผู้อ่านติดตามอ่านและชม(ภาพ)บันทึกของท่านอาจารย์หมอสุข อาจารย์โรคผิวหนังจากศิริราช

    ขอขอบพระคุณอาจารย์หมอสุข และท่านผู้อ่านทุกท่าน ขอให้ทุกท่านมีความสุข มีสุขภาพดีไม่ว่าจะเป็นหน้าหนาว หน้าร้อน หรือหน้าฝนครับ...

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท