อยากเขียนบันทึกนี้เพื่อการเรียนรู้
เราพี่น้องทั้ง 9 คน ก้มาตกลงกันว่าจะให้ใครเป็นผู้จัดการมรดก
สรุปทุกคนไว้วางใจให้เราเป็น
เมื่อสรุปให้เราเป็น ขั้นตอนรวบรวมเอกสาร
1 เจ้ามรดก สำเนาทะเบียนบ้านประทับตาย สำเนามรณบัตร หนังสือรับรองการตาย สำเนาทะเบียนสมรส
2 คู่สมรสของเจ้ามรดก ถึงจะเสียชีวิตแล้ว ก็ต้องนำหนังสือรับรองการตาย
3 บุตรเจ้าของมรดก สำเนาทะเบียนบ้านของแต่ละคน ใบสำคัญการสมรส ใบหย่า ถ้ามี ใบเปลี่ยนชื่อ นามสกุล ถ้ามี เซ็นต์สำเนาถูกต้อง
4 ผู้จัดการมรดก สำเนาทะเบียนบ้านของแต่ละคน ใบสำคัญการสมรส ใบหย่า ถ้ามี ใบเปลี่ยนชื่อ นามสกุล ถ้ามี เซ็นต์สำเนาถูกต้อง
5 เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สินมรดก สำเนาโฉนดที่ดิน สำเนาบัญชีเงินฝาก หน้าเลขที่บัญชี ชื่อเจ้าของบัญชีและหน้าแสดงยอดเงินฝากปัจจุบัน สำเนาสัญญาเช่าซื้อ สำเนาทะเบียนอาวุธปืน ถ้ามี
6 บัญชีเครือญาติ ให้ผู้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกเซนต์รับรอง
7 หนังสือให้ความยินยอมในการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ทายาททุกคนลงชื่อ
เรายื่นไว้ที่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฏหทมายและการบังคับคดี จังหวัด ตั้งแต่ 20 ตุลาคม 2559 แต่เนื่องจากลูก 9 คนมาได้ไม่พร้อมกัน จึงรอเอกสารให้กลุ่มสองมาเซ็นต์เพิ่มเติม ในวันที่ 28 ตค 59 จ่ายค่าธรรมเนียม 1700บาท
สำนักงานอัยการส่งเอกสารเพื่อนัดหมาย เพื่อแจ้งนัดไต่สวนและให้มาพยพนักงานอัยการ วันที่ 15 พย 59
เพื่อให้เตรียมเอกสารต้นฉบับจริงของ
1 ผู้จัดการมรดก ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ใบสำคัญการสมรส
2 เจ้ามรดก ทะเบียนบ้าน ใบสำคัญการสมรส ใบมรณบัตร
3 คู่สมรสเจ้ามรดก ใบมรณบัตร
4 ฉโนดที่ดิน
5 บัญชีเงินฝาก
ถึงวันนัด (21 ธันวาคม 2559)
แล้วไปขึ้นศาลเพื่อให้ศาลสั่ง ให้เป็นผู้จัดการมรดก
สิ่งที่ได้เรียนรู้
บันทึกไว้ให้จดจำว่า ครั้งหนึ่งเราได้รับความไว้วางใจ ให้เป็นผู้จัดการมรดกนะคะ
...........................
อุบล จ๋วงพานิช
24 ธค 60
สิ่งที่ได้เรียนรู้
การจัดการแต่ละเรื่อง
เรามีข้อตกลง เราควรทำตาม
แต่บางครั้งพี่น้องคิดใหม่ จะทำแบบใหม่ก็อาจมีปัญหา
การนำชื่อใส่ที่ดิน พี่น้องคนใดที่ไม่มา
สามารถมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรและทะบียนบ้าน
ให้ผู้จัดการมรดกดำเนินการเซ็นแทนได้
ทำเมื่อ 7กพ60