คืนฝนตก
คืนฝนตก พี่ตระหนกใจตื่น เมื่อเห็นน้องนางขวัญยืน มายืนร้องไห้อยู่ข้างเตียง น้ำตาหล่นพลก[1] ตัวสั่นงันงก สะอื้นเสียง พี่งงลุกนั่งริมขอบเตียง ฝันหรือจริง ไม่อิงนิยาย หยิกแขนดู ขนลุกซู่ใจเอย เมื่อรู้ว่าจริงแล้วแม่เอ้ย จะทำอย่างไรหัวใจแทบวาย เดือนแล้วเดือนเล่าพี่สู้เฝ้าทำบุญส่งให้ จะห่วงหาอาวรณ์ไปใย ถึงเวลาจะไปก็ไปทุกคน
ตายไปแล้วน้อง อย่าได้ร่ำร้องเรียกหา คติชีวิตที่ผ่านมา ทุกคนใฝ่คว้าตามกรรมของตน ถึงเวลามาก็มา ถึงเวลาไปก็ไป ไม่เห็นคนใดเลยจะหลีกพ้น ไปแล้วก็แล้วแต่กรรมตน สุขทุกข์ชื่นหม่นแล้วแต่ทุกคนสะสมกันมา
คืนฝนตก พี่ตระหนกใจนัก บุญกุศลที่เฝ้าฟูมฟักไม่ถึงหรือไรใยจึงโศกา หากเป็นห่วงพี่ขอน้องคนดีอย่าได้ห่วงหา หากเกรงว่าพี่จะมีคนอื่นนอนแนบกายา ขอจงบอกออกมาเถิดหนาพี่หรือก็จะได้บวชตลอดชีวิต
25591201
08:14
หมายเหตุ เพลงชโลมใจแต่งขึ้นปรารภถึง (๑) เมื่อคืนฝนตกเย็นสบาย หยุดไประยะหนึ่งแล้วตกอีกในเช้าตรู่ มองดูที่ทำงานชุ่มฉ่ำด้วยน้ำฝนที่หล่นสัมผัสหญ้า ดิน ต้นไม้ (๒) อ่านเรื่องเล่าของคนหนึ่งที่เล่าถึงความไม่ได้มีเจตนาจะทำให้สาวท้องในวัยเรียน เมื่อท้องแล้วสาวเจ้าไปเอาเด็กออก ต่อมาเธอตายไป (๓) เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังถึงสถานศึกษาบางแห่ง นำสัตว์มาทดลอง สัตว์ต้องเสียชีวิตไปในที่นั้นๆ วิญญาณในร่างใหม่ไม่อาจไปเกิดเป็นอื่นได้ ต้องเวียนวนขอส่วนบุญจากผู้คน กล่าวถึงเรื่องนี้ไม่อยากใช้คำว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้ เพราะเหตุว่า ไม่ว่าความรู้เรื่องใดหรือข้อเขียนใดๆ ก็ต้องใช้วิจารณญาณเสมอเหมือนกัน (๔) ความเชื่อของบางคนที่กังวลเรื่องภูติผีปีศาจ เมื่อไปนอนที่โรงแรม หากมีเตียงอื่นอยู่ในห้องโดยไม่มีคนนอน ให้หาอะไรไปวางไว้ที่เตียงนั้น ใช้ประโยชน์จากเตียงนั้น อย่าปล่อยให้ว่าง จำนวน ๔ เรื่องนี้เอง เป็นที่มาของเนื้อหาในเพลงนี้
[1] พลก = ภาษาใต้สำเนียงชุมพร เป็นคำวิเศษน์ขยาย คำว่า “หล่น” ชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่ตกสัมผัสพื้นมีเสียงดัง อีกคำหนึ่งที่เหมือนกันคือ “ปก” เป็นเสียงน้ำที่หล่นสัมผัสพื้นดังปกๆ
ไม่มีความเห็น