วันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2549
วันจันทร์อีกแล้ว! ต้องตื่นแต่เช้าไปทำงาน ตื่นสายเดี๋ยวเข้างานไม่ทัน วันนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ไปฝึกงานที่นั่งรถเมล์ไปทำงานเพราะทุกวันจะนั่งเรือไป แต่วันนี้ลองนั่งรถเมล์ดูว่านานไหมกว่าจะไปถึง ลองนั่งแล้วก็พอๆกันแต่ช้าตรงที่ต้องนั่งรถ 2 ต่อแค่นั้นเอง อาจเป็นเพราะเมื่อเช้ารถไม่ค่อยด้วยแหละ และที่สำคัญนั่งรถเมล์ถูกกว่านั่งเรือตั้งครึ่งหนึ่งแหนะ ไปถึงที่ทำงานสิ่งแรกที่ทำอยู่เป็นประจำทุกวันก็คือ เข้าไปดูตารางงานว่าวันนี้มีงานถ่ายหรือเปล่า แต่ช่วงนี้งานถ่ายเยอะหนูก็เลยมีงานต้องออกไปถ่ายกับพี่ๆเขาเกือบทุกวัน งานของวันนี้ คือ ถ่ายอบรมเชิงปฏิบัติการ The 14 Rhinology ภ. ENT ที่ห้องสิรินธร ชั้น G อาคารเฉลิมพระเกียรติ วันนี้ไม่ต้องเดินไกลเพราะตึกอยู่ใกล้สถานเทคโนฯ แล้วก็อยู่ชั้น G ด้วย งานในวันนี้เป็นการถ่ายโดยมีผู้บรรยาย และผู้เข้าร่วมฟังบรรยายในห้องประชุม อุปกรณ์ที่ใช้ในวันนี้ มีดังนี้
1. กล้องตัวใหญ่ 1 ตัว
2. ขาตั้งกล้อง
3. เครื่องเล่นดีวีดี
4. เครื่องฮาร์ดดิสก์ เป็นเครื่องที่เอาไว้สำหรับอัดข้อมูลที่ได้ถ่ายนั้นลงในฮาร์ดดิสก์เพื่อที่จะเอาไปลงในคอมพิวเตอร์
5. จอมอนิเตอร์
6. Mixer เสียง เป็นเครื่องควบคุมเสียงที่จะถ่ายทอดออกมาทางจอมอนิเตอร์
7. เครื่อง Data Video เป็นเครื่องรวมสัญญาณของทุกอย่างทั้งภาพ และเสียง แล้วต่อสัญญาณออกเพื่อแสดงผล
การถ่ายในวันนี้เป็นการถ่ายแบบบรรยาย ผู้บรรยายเป็นชาวต่างชาติหมดเลยคะ ฟังไม่รู้เรื่องเลยคะ หมดที่เป็นคนไทยก็ยังพูดภาษาอังกฤษอีก ตกลงคืองานนี้ไม่มีภาษาไทยเล็ดลอดออกมาจากปากหมอคนไหนเลย ในการถ่ายจะตั้งกล้องและอุปกรณ์ทุกอย่างไว้หลังห้องประชุม และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่จะได้ใช้กล้องตัวใหญ่เพราะยังไม่เคยได้ลองใช้กล้องตัวใหญ่เลยคะ ตอนแรกก็กลัวว่าจะถ่ายยาก แต่ก่อนถ่ายจริงมีเวลาพี่นเรศเขาลองให้ใช้ดู ถามปุ่มต่างๆ ก็ใช้ได้คะ แต่ออกจะบังคับยากสักหน่อยเพราะตัวใหญ่กว่าที่เคยใช้อยู่ สะดวกตรงที่เวลา Zoom ไม่ต้องไป ซูมที่ตัวกล้องแต่ซูมที่ด้ามจับกล้องได้เลยจะมีปุ่มซูมอยู่ แสงก็จะปรับเป็น Auto ส่วนการ Focus ไม่มี Auto ก็จะใช้หมุนปรับเอาเองที่เลนส์กล้องด้านหน้า การถ่ายก็จะ Plan ตามผู้บรรยาย ผู้บรรยายวันนี้ก็ไม่รุ้เป็นอะไรเดินตคลอดไม่อยู่นิ่งเลยคะ สงสัยฝรั่งจะชอบเดินมั้งคะ พอสไลด์ขึ้นที่หน้าจอก็จะ Plan กล้องไปที่หน้าจอแล้วซูมให้เต็มจอมอนิเตอร์ วันนี้นอกจากจะบันทึกภาพลงในแผ่นดีวีดีเหมือนเคยแล้วยังต้องอัดข้อมูลที่ถ่ายลงในฮาร์ดดิสก์ ซึ่งทางฝ่ายคอมพิวเตอร์ได้ขอไว้ให้อัดลงในฮาร์ดดิสก์ เพื่อจะนำไปใช้งาน การบันทึกลงในฮาร์ดดิสก์ มีดังนี้
1. ใส่ตัวฮาร์ดิสก์ลงในเครื่อง ติดแบตเตอรรี่ที่ตัวเครื่องบันทึกด้วย แบตเตอรี่นี้ใช้ได้นานมากประมาณ 4-5 ชั่วโมง
2. เปิดเครื่อง รอให้จอเมนูขึ้นก่อนจากนั้นก็ลองบันทึกเพื่อความมั่นใจก่อนการทำงาน โดย Plan กล้องไปจับภาพใดก็ได้ แล้วกดปุ่ม Rec ที่เครื่องบันทึก บันทึกไปสักพักก็กดหยุด แล้วลอง Play ดู ถ้าใช้ได้ก็ให้เข้าไป Format ตัวฮาร์ดดิสก์ก่อนเพื่อเริ่มบันทึกงานจริง
3. การบันทึก กดปุ่ม Rec บันทึกไปเรื่อยๆจนหมดช่วงการบรรยาย ให้กดปุ่ม Stop ฮาร์ดดิสก์ 1 ตัวจะบันทึกได้นานประมาณ 186 นาที
4. พอบันทึกจบ 1 ช่วง ก็ลองเปิดดูว่าบันทึกติดหรือไม่ โดยการกดปุ่ม DV ที่เครื่อง Data Video แล้วลอง Play ดูถ้าใช้ได้ก้เตรียมบันทึกช่วงต่อไปต่อเลย เพราะฮาร์ดดิสก์นี้เวลาเอาไปลงในคอมพิวเตอร์ก็จะแบ่งเป็น Track ตามที่เราถ่ายเป็นช่วงๆเอง
5. การลองดูภาพที่ได้ถ่ายไปแล้วถ้าจะดูภาพจากดีวีให้กดปุ่ม CV ที่เครื่อง Data Video แต่ถ้าต้องการดูภาพที่ได้จากฮาร์ดดิสก์ ให้กดปุ่ม DV ที่เครื่อง Data Video
ในช่วงพักกลางวันตอนแรกก็นึกว่าจะได้พักอย่างสบายใจ แต่ไม่เลย มีถ่ายต่องานเดียวกันแต่คนละห้อง พี่ๆเขาไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปถ่ายห้องอื่นจึงไม่ได้ไปตั้งอุปกรณ์ไว้ หนูกับพี่นเรศสองคนต้องรีบขึ้นไปที่ห้องอีกห้องหนึ่ง รีบเอากล้องกับขาตั้งขึ้นไปตั้งแผ่นดีวีดีที่เตรียมไว้บันทึกเลยไม่ได้ใช้ พี่นเรศแก้ปัญหาโดยการให้พี่หนูเอาเทปมาบันทึกภาพแทนเพราะยังไงก้ขึ้นไปตั้งอุปกรณ์ไม่ทัน จึงบันทึกใส่เทปแทนแล้วค่อยเอาไปลงดีวีดี การถ่ายในช่วงพักกลางวันผ่านไปด้วยดีมีตะกุกตะกักในช่วงแรกเท่านั้น หนูกับพี่นเรศก็เลยต้องนั่งกินข้าวตอนท้ายนั่นเลยคะ พอถ่ายช่วงพักเสร็จก็ต้องยกกล้องกลับไปถ่ายที่ห้องเดิมอีก (คิดดูแล้วกันว่าเหนื่อยแค่ไหน) กล้องหนักมากหนูถือกล้องทั้งขาไป ขากลับเลยคะ แขนเกร็งไปหมด ยกกล้องกลับมาถึงห้องเดิมยังไม่ทันได้พัก พวกหมอก็มาถึงเตรียมการบรรยายต่อหนูกับพี่หนูที่มาแทนพี่นเรศที่ไปถ่ายงานอื่นต่อช่วยกันตั้งอุปกรณ์เตรียมถ่ายต่อ การบรรยายดำเนินไปจนถึงสี่โมงกว่าก็จบลง เก็บแค่เพียงกล้องกับแผ่นดีวีดีที่บันทึกแล้วกลับฝ่ายเท่านั้น ที่เหลือทิ้งไว้ที่นั่นเพราะงานนี้มีทั้งอาทิตย์คะ
วันนี้เหนื่อยกว่าทุกวันเยอะเลยคะ เหนื่อยตรงที่ต้องย้ายอุปกรณ์ไปมานี่แหละคะ แต่ต้องขอชมว่าพี่เขาแก้ไขสถานการณ์ได้ดีมากคะ ทำให้ทุกอย่างเรียบร้อยผ่านไปได้ วันนี้ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว แล้วยังเป็นการได้ลองใช้กล้องตัวใหญ่ถ่ายด้วยคะ เพราะถามพี่เขามาหลายครั้งแล้วว่าเมื่อไหร่จะได้ลองใช้กล้องตัวใหญ่ดูบ้าง ได้ลองใช้จริงๆแล้วคะ สมหวังสักที การทำงานในวันนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ต้องจดจำไว้เลยคะว่าถ้าเกิดปัญหาแบบนี้ต้องมีสติ แล้วแก้ปัญหาให้ได้เพื่อทันต่อเวลาการทำงาน เป็นบทเรียนที่เตือนใจได้ดีทีเดียวคะ
นิธิกานต์ โซ่กลิ่ม
โรงพยาบาลศิริราช
ไม่มีความเห็น