บันทึกชุด เลี้ยงลูกยิ่งใหญ่ นี้ตีความมาจากหนังสือ Raise Great Kids : How to Help Them Thrive in School and Life ซึ่งเป็นหนังสือชุดรวบรวมบทความเด่นจากนิตยสาร Scientific American Mind หนังสือเล่มนี้เพิ่งออกจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙
บันทึกที่ ๙ เคล็ดลับของการเป็นพ่อแม่ที่ดี ตีความจากบทความชื่อ What Makes A Good Parent? (http://www.scientificamerican.com/article/what-makes-a-good-parent/) โดย Robert Epsteinคำตอบคือการแสดงความรักความใกล้ชิดมาเป็นอันดับหนึ่งตามด้วยการให้โอกาสลูกเป็นตัวของตัวเองความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่ และการจัดการความเครียดของตัวพ่อแม่เอง
ผู้เขียนให้ข้อสรุปไว้ ๓ ข้อดังนี้
ผู้เขียนบทความเอาหลักฐานมาบอกว่า ผู้คนสนใจและกังวลเรื่องวิธีเลี้ยงลูกมากกว่าการลดน้ำหนักของตัวเอง โดยมีหลักฐานจากรายชื่อหนังสือใน Amazon.com ในหมวด parenting มีกว่า ๑๘๐,๐๐๐ รายการแต่ในหมวด dieting มีกว่า ๗๖,๐๐๐ รายการเท่านั้น
ความน่ากังวลอย่างหนึ่งอยู่ที่ หนังสือต่างเล่มให้คำแนะนำที่ขัดกันผู้เขียนจึงใช้วิธีเขียนบทความนี้แบบ อิงหลักฐานจากงานวิจัยจำนวนมาก เลือกทักษะสำคัญที่สุด ๑๐ อย่างของพ่อแม่ที่ผลงานวิจัยให้ผลสอดคล้องกัน ว่ามีผลต่อความสุขความสำเร็จของลูกนำมาให้พ่อแม่ตอบคำถาม (แบบปรนัย ให้คะแนนไม่เห็นด้วยหรือ เห็นด้วยกับแต่ละข้อความรวม ๑๐๐ ข้อความ โดยคลิกคะแนนจาก ๑ ถึง ๑๐) ใน online test ที่ http://MyParentingSkills.com เป็นกระบวนการวิจัยที่ผู้เข้ามาตอบคำถามไม่รู้ตัวและเขามีวิธีดำเนินการเพื่อให้ ผลงานวิจัยนี้น่าเชื่อถือ
บัญญัติสิบประการสำหรับพ่อแม่
ต่อไปนี้เป็นปัจจัยบทบาทของพ่อแม่ ที่มีผลต่อสุขภาพ ความสุข และความสำเร็จ ของลูกเรียงตามลำดับความสำคัญ ตามที่พ่อแม่ ๒,๐๐๐ คน ตอบแบบสอบถาม
พ่อแม่ที่ดีคือใคร
ผู้เขียนวิเคราะห์ผลงานวิจัยจำนวนมากโดยวิธีที่เรียกว่า factor analysis และบอกว่า
ปัจจัยที่ไม่มีน้ำหนักต่อการเลี้ยงลูกที่ดีกว่ากัน ได้แก่
ปัจจัยที่มีน้ำหนักว่าเลี้ยงลูกได้ดีกว่า ได้แก่
การเป็นพ่อแม่ที่ดีฝึกได้
ข่าวดีคือทักษะการเป็นพ่อแม่ที่ดีเป็นสิ่งที่ฝึกได้ มีโปรแกรมฝึกที่พิสูจน์ว่าได้ผล เช่น Parenting Wisely (https://www.parentingwisely.com)และโปรแกรมฝึกของ The National Effective Parenting Initiative (http://EffectiveParentingUSA.org)
ผู้เชี่ยวชาญก็ผิดได้
ผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำแนะนำวิธีเลี้ยงลูกอาจให้คำแนะนำที่ขัดแย้งกันเพราะไม่ได้ติดตามผลการวิจัยใหม่ๆแต่โดยทั่วไป ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำถูกต้องเรื่องสมรรถนะของพ่อแม่ที่ให้ผลดีต่อลูกแต่มีข้อผิดพลาดใหญ่ ๒ ประการ คือ (๑) จัดอันดับการจัดการความเครียดไว้ที่อันดับ ๘ ใน ๑๐ สมรรถนะหลักในขณะที่ผู้เขียน จัดไว้อันดับที่ ๒ (๒) มีอคติต่อเรื่องจิตวิญญาณและศาสนาจัดไว้อันดับสุดท้ายใน ๑๐ และบางคนถึงกับไม่ให้ความสำคัญ ทั้งๆ ที่มีหลักฐานว่าการฝึกด้านจิตวิญญาณหรือด้านศาสนามีผลดีต่อเด็ก
สู่สถานการณ์ในบ้าน
พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกเป็นจะส่งผลดีอย่างเด่นชัด ๓ ประการ (๑) ลดความขัดแย้งระหว่างพ่อแม่กับลูก (๒) เพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีในคู่สมรสหรือในคู่ที่หย่ากันแล้ว (๓) ได้ลูกที่มีความสุขและความสามารถ
ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ของตนเองที่มีลูกจากการแต่งงานสองครั้ง พบว่าประสบการณ์มีความสำคัญจึงเลี้ยงลูกรุ่นหลังได้ดีกว่า ประสบการณ์สอนให้ผู้เขียนแสดงบท facilitator มากกว่า controller
ผมขอเพิ่มเติมว่า พ่อแม่ที่สนใจเรื่องการเลี้ยวลูกวัยรุ่น ควรได้อ่านหนังสือ สอนเด็กให้เป็นคนดี ซึ่งดาวน์โหลดหนังสือที่เล่มได้ฟรีที่ https://www.scbfoundation.com/stocks/15/file/1412914130hxaig15.pdf โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรอ่านคำนิยมของ ศ. นพ. ประเวศ วะสี ที่ชี้ให้เห็นว่าหัวใจสำคัญของการกล่อมเกลาเด็ก ให้เป็นคนดี คือปฏิสัมพันธ์ที่ถูกต้องระหว่างเด็กกับคนรอบข้างและปฏิสัมพันธ์ที่ดีนั้น ไม่เพียงช่วยให้เด็ก เป็นคนดีเท่านั้นยังช่วยให้ผู้ใหญ่พัฒนาเป็นคนดีด้วย
วิจารณ์ พานิช
๒๘ พ.ค. ๒๕๕๙